วันที่ 12 เมษายน 2567 จากกรณีในช่วงเย็นวานนี้ มีชาวบ้านพบโครงกระดูกมนุษย์อยู่ในป่าบนเขาอีโต้ บ้านห้วยเกษียณน้อย ห่างจากถนนประมาณ 800 เมตร  ต.ดงขี้เหล็ก  อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี   จากการตรวจสอบพบว่า เป็นโครงกระดูกมนุษย์ลักษณะนอนหงายอยู่บนเปลผ้าใบสีแดงเลือดหมู  แต่ศีรษะ แขนขวาตั้งแต่ช่วงข้อศอกลงปลายมือหายไป   สวมเสื้อยืดสีเขียว และเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน  กางเกงยีนส์สามส่วน บนร่างของผู้ตายพบท่อนไม้ยูคา ยาวประมาณ 2 เมตรเศษ พร้อมเชือกผ้าสีแดง  ภายในกระเป๋าเป้ พบอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวที่เข้าป่า  ไม่พบเอกสารหลักฐานระบุว่าเป็นใคร  พบเพียงอุปกรณ์ซึ่งอาจจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตัด  นั้น

ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี  ได้เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง  เพื่อทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุและเพื่อค้นหากระโหลกศรีษะ  รวมทั้งท่อนแขนด้านขวาด้านล่างที่หายไป  จากการกระจายกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน  พบหัวกระโหลกมนุษย์อยู่ใต้ต้นไม้  ห่างจากจุดพบโครงกระดูกประมาณ 10 เมตร  จากการตรวจสอบพบว่ากระโหลกศรีษะด้านหลังมีลอยคล้ายถูกของมีคม  จนทำให้กระโหลกศรีษะเป็นรูขนาด 2.5 นิ้ว  ทางเจ้าหน้าที่จึงให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำไปที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยบูเบศร  เพื่อเตรียมส่งไปทำการพิสูจน์อัตลักษณ์ยังสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ

ส่วนด้านการสอบสวน  ทางพนักงานสอบสวน  ได้เชิญชาวบ้านในพื้นที่มาทำการสอบสวน  เพื่อต้องการทราบว่า  โครงการกระดูกเป็นใครเพื่อจะติดตามตัวญาติมาทำการสอบสวนขยายผลต่อไป  ในเบื้องต้น  ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่าโครงกระดูกที่พบน่าจะเป็นโครงกระดูกชาวกัมพูชา  เนื่องจากมีข้อมูลว่ามีนายทุนในประเทศไทยได้ว่าจ้างชาวกัมพูชาขึ้นมาบนเขาอีโต้  จำนวน 7 คน  เพื่อทำการลักลอบตัดไม้พะยูง  และมีปัญหาจนฆ่ากันตาย  แล้วนำศพไปทิ้งในป่า

ส่วนชิ้นส่วนกระโหลกที่หายไปนั้น  ทางชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการทำพิธีทางคุณไสยมนต์ดำ  ที่เอาส่วนกลางกะโหลกศีรษะ  ไปทำการพิธีปลุกเสกสะกดวิญญาณ  ที่ชาวกัมพูชาเชื่อถือ  เพื่อไม่ให้คนติดตามพบศพหรือไม่สามารถติดตามคนฆ่าได้

นายนาวิน   โนนนอก   อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี กล่าวว่า ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ. เมืองปราจีนบุรี แจ้งมาว่าพบสวนกะโหลกห่างจากจุดที่พบโครงกระดูกประมาณ 5-10 เมตร เมื่อเข้าไปดูก็พบหัวกะโหลกอยู่ข้าง ๆ กิ่งไม้สภาพคว่ำหน้าลงหัวกะโหลกไม่สมบูรณ์ มีฟันและ สันคอ หาย