เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 ที่ห้องประชุมกรมคุมประพฤติ ชั้น 4 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ แถลงสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติในวันสุดท้ายของ 7 วันสงกรานต์ 2567 วันที่ 17 เมษายน มีคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติ 1,602 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 1,541 คดี หรือร้อยละ 96.20 และคดีขับเสพ 61 คดี ร้อยละ 3.80

ยอดสะสม 7 วัน สงกรานต์ 67 (11 - 17 เม.ย.) ศาลสั่งคุมประพฤติ 7,388 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา มากถึง 7,130 คดี คิดเป็นร้อยละ 96.51 ที่เหลือเป็นคดีขับรถประมาท และคดีขับเสพ โดยพบว่ากรุงเทพฯ มีคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด รองลงมาคือ จ.อุบลราชธานี และ จ.เชียงใหม่ เมื่อเทียบเทศกาลสงกรานต์  ปี 66 มีคดีเมาแล้วขับถูกคุมประพฤติลดลงจาก 8,575 คดี เป็น 7,130 คดี หรือลดลง 1,445 คดี คิดเป็นร้อยละ 16.85

รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า ผู้ถูกคุมประพฤติในความผิดขับรถขณะเมาสุราทุกราย ต้องผ่านการคัดกรอง หากพบเสี่ยงสูงในการติดสุรา จะนำเข้าบำบัดรักษา ณ สถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ ต้องรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ และทำงานบริการสังคม ให้ตระหนักถึงผลกระทบจากเมาแล้วขับ เช่น ดูแลเหยื่ออุบัติเหตุในโรงพยาบาล หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขคุมประพฤติจะถูกรายงานกลับไปยังศาล เพื่อนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษมาบังคับใช้

อย่างไรก็ตาม 7 วันสงกรานต์ ปี 67 ตำรวจจับกุมผู้เมาแล้วขับ กว่า 2 หมื่นราย จึงยังมีผู้ถูกคุมประพฤติที่ต้องทยอยเข้ารายงานตัวเพิ่มเติมอีก โดยกรมคุมประพฤติเตรียมจัดทำฐานข้อมูลผู้เมาแล้วขับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบผู้กระทำผิดซ้ำได้ทันที เพื่อนำส่งข้อมูลให้ศาลพิจารณาลงโทษเพิ่มขึ้น ซึ่งสงกรานต์นี้มีผู้กระทำผิดซ้ำเมาแล้วขับเกือบร้อยราย

- 006