‘เหนือ-กลาง’ระอุ

ร้อนจัดพุ่ง42องศา

10จว.อ่วม!ฝุ่นพิษ

ฮอทสปอต1พันจุด

กรมอุตุฯเตือน ภาคเหนือ-ภาคกลาง อากาศร้อนจัด อุณหภูมิแตะ 42 องศาฯ ส่วน 38 จังหวัด เฝ้าระวังฝน-ลมกระโชกแรง ขณะที่10 จังหวัด ภาคเหนือ-อีสาน จมฝุ่นพิษ ด้านจุดความร้อนไทยแตะ 1,262 จุด

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน

ขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะนี้

สำหรับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากที่ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากที่ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น สกลนคร นครพนม และนครราชสีมา อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาฯ

ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากที่ จ.ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาฯ ภาคตะวันออก อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากที่ จ.นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาฯ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิสูงสุด 33-40 องศาฯ ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากที่ จ.ระนอง ตรัง และสตูล อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาฯ ส่วน กทม.และปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาฯ

ด้านสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” พบว่า 10 จังหวัด มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ลำพูน 109.6 ไมโครกรัม แม่ฮ่องสอน 108 ไมโครกรัม ลำปาง 107.9 ไมโครกรัม เชียงใหม่ 102.9 ไมโครกรัม น่าน 101.1 ไมโครกรัม แพร่ 95 ไมโครกรัม พะเยา 94.9 ไมโครกรัม เชียงราย 84.3 ไมโครกรัม อุตรดิตถ์ 79.3 ไมโครกรัม และนครพนม 75.7 ไมโครกรัม ขณะที่อีก 28 จังหวัดโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม

สำหรับพื้นที่ กทม.ส่วนใหญ่พบคุณภาพอากาศในระดับปานกลาง แต่มี 1 เขต ที่มีค่าฝุ่นเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ คือหนองแขม 42.6 ไมโครกรัม

นอกจากนี้ GISTDA ได้เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ว่าประเทศไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,262 จุด จากข้อมูลยังระบุอีกว่า จุดความร้อนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่พบในป่าอนุรักษ์ 413 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 395 จุด พื้นที่เกษตร 240 จุด ชุมชนและพื้นที่อื่นๆ 104 จุด เขต ส.ป.ก. 99 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 11 จุด โดยจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ แม่ฮ่องสอน 163 จุด

ขณะที่ข้อมูลจากดาวเทียม พบว่า5พื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่าซึ่งต้องเฝ้าระวังสูงสุดในสัปดาห์นี้ ได้แก่ เชียงใหม่ ตาก แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ และลำปาง ส่วนประเทศเพื่อนบ้าน พบจุดความร้อนต่อเนื่อง สูงสุดที่ประเทศลาว 2,666 จุด ตามด้วยเมียนมา 1,316 จุด กัมพูชา 628 จุด เวียดนาม 296 จุด และมาเลเซีย 20 จุด