ลูกชายรมช.อ่วม!
เมาแล้วซิ่งรถหรูแหกด่านตำรวจ
ศาลสั่งคุก2เดือน/ปรับ4พัน
รอลงอาญา2ปี/พักใบขับขี่
‘สันติ’ยืนยันลูกเป็นเด็กดี
ศาลสั่งจำคุก “ลูกชายนักการเมือง” เมาแล้วขับแหกด่านตำรวจ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาทรอลงอาญา 2 ปี บำเพ็ญประโยชน์ 1 ปีพักใบขับขี่ 6 เดือน “สันติ” บอกยังไม่รู้เรื่องเพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ลูกชายแยกครอบครัวไปแล้ว ยันเขาเป็นเด็กดี “หมอชลน่าน”ยืนยัน สธ.เดินหน้ารณรงค์‘ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ’ทำตามกม. ย้ำลงโทษหมด ไม่สนลูกใคร
ความคืบหน้ากรณีช่วงเวลากลางดึกคืนวันที่ 18 เมษายน 2567 เกิดเหตุชายอายุ46ปี ซึ่งเป็นลูกชายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงหนึ่งดื่มสุราแล้วขับรถยนต์หรูยี่ห้อ BMW ชนแผงเหล็กล้ม แล้วไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก จร. ซึ่งตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ บริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 31 ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตจตุจักร กทม. ตรวจวัด ต่อมาผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์สูง 183 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด ก่อนจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดี 2 ข้อหาคือ “ขับรถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ที่สั่งให้มีการทดสอบว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาอย่างอื่น” โดยผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงปรับเป็นพินัยข้อหา ฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจรที่สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา เป็นเงิน 1 พันบาท
จนเวลาประมาณ 08.00 น. พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือในข้อหา “ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาของอย่างอื่น”
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ ว่า พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพานิช พร้อมพัฒน์ อายุ 46 ปี เป็นจำเลยต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ เป็นจำเลยในความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ที่สั่งให้มีการทดสอบว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาอย่างอื่น โดยนายพานิช ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุก 4 เดือน ปรับ 8 พันบาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท โทษจำคุกให้รอลงการลงโทษ 2 ปี พักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติมีกำหนด 1 ปี
ด้าน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุขให้สัมภาษณ์ในรายงานเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง3โดยนายสันติ ย้อนถามว่า “ลูกชายทำอะไรเหรอ”ผู้สื่อข่าวจึงย้ำว่า กรณีเมาแล้วขับ นายสันติร้องอ๋อ แล้วบอกว่า “ยังไม่ทราบเลย เชื่อมโยงอะไรนะ ยังไม่รู้เลย เพราะไม่ได้อยู่ด้วย เขาโตแล้ว แยกครอบครัวไปแล้ว แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวต้องโทร.ถามเขาดูว่าเป็นอย่างไร” และยืนยันว่า “เขาเป็นเด็กดีนะ ผมยังไม่รู้เลยนะเนี่ย”
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่จะส่งผลถึงการปรับคณะรัฐมนตรี นายสันติกล่าวว่า ไม่หรอก ไม่เกี่ยวกันหรอก ถามต่อว่า เรื่องคดีในฐานะพ่อจะช่วยดูอย่างไร นายสันติตอบว่า ก็ไม่รู้อีกล่ะ พอดีหลายวันนี้งานเยอะ ตนอยู่ต่างจังหวัด แต่ไม่รู้ไม่มีใครบอกเลย เดี๋ยวจะถามเขาดู และได้กล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก เราต้องเคารพกฎหมายอยู่แล้ว ถ้าบอกว่าเมาแล้วขับอย่างนี้ ถ้าตำรวจเขาช่วยหยุดให้ อย่างนี้ก็ต้องขอบคุณตำรวจเขาแล้ว”
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีข่าวชายอายุ 46ปี เมาแล้วขับฝ่าแผงกั้นด่านตำรวจ มีการระบุเป็นลูกชายของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่า ตนยังไม่ได้ อ่านข่าวดังกล่าว
เมื่อถามว่าจากข่าวเช่นนี้ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เพราะกระทรวงเองก็รณรงค์ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมอง 2 มุม มุมบวก คือ ใช้ภาวะวิกฤติอย่างนี้มาเป็นแนวทางในการบอกและรณรงค์ เพราะกระทรวงเองก็รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ ผลการรณรงค์ 7 วันที่ผ่านมา ช่วงสงกรานต์ก็ดีมาก สถิติอุบัติเหตุลดลง ผู้เสียชีวิตลดลง อย่างกรณีนี้เกิดขึ้นมา ใช้เป็นอุทาหรณ์มาบอกกล่าว มาสอนได้ ไม่เน้นว่าจะเป็นใคร ทุกคนจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท ต้องดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม เอามาเป็นกรณีศึกษา
ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ว่าจะเป็นใคร หรือลูกใครก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมดหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถูกต้อง
วันเดียวกัน มูลนิธิเมาไม่ขับออกแถลงการณ์ถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า ตามที่ปรากฎข่าวต่อสาธารณชน กรณีบุตรชายรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมาแล้วขับและยังฝ่าฝืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมดำเนินคดีส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ และศาลแขวงพระนครเหนือได้ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 4 เดือน ปรับ 8,000 บาท จำเลยรับสารภาพศาลลดโทษให้เหลือจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน และให้บำเพ็ญประโยชน์ 12 ชั่วโมง
ซึ่งปรากฏทราบชื่อในภายหลังผู้ที่เมาแล้วขับได้แก่ นายพานิช พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ทำงานรณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับมากว่า 30 ปี ขอเรียกร้องไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลทุก ๆ ท่าน นโยบายเมาไม่ขับเป็นนโยบายที่ทุกรัฐบาลที่ผ่านมายึดถือปฏิบัติ
รัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็ไม่มีข้อยกเว้น เพราะนโยบายดังกล่าวเป็นการลดปัจจัยเสี่ยงบนท้องถนน หยุดคนเมาไม่ให้มาขับรถ เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนท้องถนน
ดังนั้นถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและรัฐมนตรีทุกคน ตลอดจนบุคคลในครอบครัวต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะถ้าบุคคลในคณะรัฐบาลยังไม่ยึดถือกฎหมาย บุคคลในครอบครัวยังไม่ยึดถือกฎหมาย จะไปบอกให้ประชาชนเคารพกฎหมายได้อย่างไร
มูลนิธิเมาไม่ขับจึงขอเรียกร้องมายังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี