‘หนองบัวลำภู-เลย’บ้านพัง2พันหลัง
พายุฤดูร้อนถล่ม
เสาไฟฟ้า-ต้นไม้หักโค่น
ภาครัฐเร่งเข้าช่วยเหลือ
อุตุฯเตือน43จว.ฝนหนัก
กรมอุตุฯเตือนพายุฤดูร้อนกระทบ 5-7 พฤษภาคม ใน 43 จังหวัด ส่วน จ.เลย อ่วม! พายุฤดูร้อน-ลูกเห็บซัด 2 วันติด หลังคาบ้านปลิว 500 หลังขณะที่หนองบัวลำภูเสียหาย 1,913 หลัง ใน 5 อำเภอ หนักสุดที่ อ.นากลางและสุวรรณคูหา หน่วยงานภาครัฐเร่งให้การ ช่วยเหลือเหยื่อวาตภัย ชาวบ้านชี้หนักสุดในรอบ70ปี
เมื่อวันที่ 5พฤษภาคมกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 9 (87/2567)มีผลกระทบจนถึงวันที่ 7พฤษภาคม2567มีรายละเอียดดังนี้ ช่วงวันที่ 5-7พฤษภาคม 2567 จะมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าว มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นหลายพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง
อนึ่งช่วงวันที่ 8-10 พฤษภาคม 2567 แนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมทั้งมีฝนตกหนักบางพื้นที่ จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง จ.ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรีภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
วันที่ 6-7 พฤษภาคม 2567 ภาคเหนือ จ.เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ที่ จ.เลย วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงค่ำวันที่ 3-4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฤดูร้อนถล่มในหลายพื้นที่ ประกอบกับสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 41-43 องศาเซลเซียส ทำให้มีพายุพัดพร้อมกับลูกเห็บตกอย่างหนัก เป็นเหตุให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ต้นไม้ล้มระเนระนาด รวมถึงเสาไฟฟ้าหักโค่น ทำให้ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่
นายกิตติคุณ บุตรคุณ รอง ผวจ.เลย เปิดเผยว่า สถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก เกิดขึ้นระหว่างช่วงเย็นวันที่ 3-4 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยวันที่ 3 พฤษภาคม พายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำใน 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ภูกระดึง อ.นาด้วง อ.ผาขาว อ.เมืองอ.ภูเรือ อ.เชียงคาน อ.นาแห้ว และ อ.หนองหิน ส่งผลกระทบกับประชาชน รวม 14 ตำบล 33 หมู่บ้าน 254 หลังคาเรือน โรงเรียน 2 แห่ง และวัด 1 แห่งส่วนวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ อ.ผาขาว เกิดพายุฤดูร้อนพัดหลังคาบ้านเรือนเสียหาย รวม 5 ตำบล 27 หมู่บ้าน 214หลังคาเรือน ขณะที่ ต.ภูกระดึง อ.ภูกระดึง ต.หนองงิ้ว ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง และ ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ บ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน ต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้าโค่นล้มหลายจุด และพื้นที่ทางการเกษตร เสียหาย ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจ ซึ่งทางจังหวัดได้มอบหมายให้ทางอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจังหวัดได้เชิญสิ่งของพระราชทานจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบให้แก่ราษฎรที่ประสบวาตภัย และพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว ส่วนบ้านเรือนที่ถูกพายุพัดหลังคาปลิวเสียหาย ทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้มอบผ้าใบพระราชทาน สำหรับคลุมหลังคาบ้านเป็นการชั่วคราว ก่อนซ่อมแซมให้แล้วเสร็จ ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าดำเนินการซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ตัดต้นไม้ที่โค่นล้มทับบ้านเรือน กีดขวางเส้นทางการจราจรพร้อมทั้งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไป
วันเดียวกัน ที่ จ.หนองบัวลำภู จากเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่ม เมื่อช่วงวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีบ้านเรือน วัด โรงเรียน รพ.สต.คอกสัตว์ ยุ้งฉางของเกษตรกร ได้รับความเสียหายใน 5 อำเภอ 11 ตำบล 54 หมู่บ้าน มีผู้รับผลกระทบ 1,993 คน โดยบ้านเรือนเสียหาย รวม 1,913 หลัง คอกสัตว์/ยุ้งฉาง/โรงสี 67 แห่ง ถนน 12 แห่ง เสาไฟฟ้า 15 ต้น รพ.สต.2 แห่ง วัด 6 แห่ง และสถานศึกษา 3แห่ง ซึ่งใน 2 อำเภอ ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด คือ อ.นากลาง และ อ.สุวรรณคูหา โดย อ.นากลาง กระทบ 4 ตำบล 28 หมู่บ้าน มีผู้รับผลกระทบ/บ้านเสียหาย 1,106 ครัวเรือน/หลัง แบ่งเป็น ต.เก่ากลอย 11 หมู่บ้าน ผู้รับผลกระทบ/บ้านเสียหาย 842 ครัวเรือน/หลัง ต.กุดแห่ หมู่ 7 วัด 1 แห่ง ต.กุดดินจี่ 15 หมู่บ้าน ผู้รับผลกระทบ/บ้านเรือนเสียหาย 261 ครัวเรือน/หลัง และต.ดงสวรรค์ หมู่ 7 ผู้ได้รับผลกระทบ 3 หลัง
ส่วน อ.สุวรรณคูหา รวม 3 ตำบล 20 หมู่บ้าน ผู้รับผลกระทบ 874 ครัวเรือน บ้านเสียหาย 807 หลัง ยุ้งฉาง/โรงสี 66 แห่ง ในพื้นที่ ต.นาดี รวม 8 หมู่บ้าน ผู้ได้รับผลกระทบ 74 ครัวเรือน บ้านเรือน 73 หลัง ยุ้งฉาง 1 แห่ง ต.นาด่าน 11 หมู่บ้าน หมู่ 1-11 ผู้รับผลกระทบ 799 ครัวเรือน บ้านเรือน เสียหาย 733 หลัง ยุ้งฉาง/โรงสี 66 แห่ง และ ต.กุดผึ้ง หมู่ 4 ผู้รับผลกระทบ/บ้านเรือน 1 ครัวเรือน/หลัง
สำหรับ 3 อำเภอ คือ อ.โนนสังอ.เมือง และ อ.ศรีบุญเรือง เสียหายไม่มาก แบ่งเป็น อ.โนนสัง 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ปางกู่ หมู่ 3 ผู้รับผลกระทบ 1 ราย บ้านเรือน 1 หลัง ต.โคกม่วง หมู่ 2 ผู้รับผลกระทบ 1 ราย คอกสัตว์ 1 หลัง อ.เมือง 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน คือ ต.นามะเฟือง หมู่ 7 ผู้รับผลกระทบ 3 ราย บ้าน 3 หลัง และ อ.ศรีบุญเรือง 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน คือ ต.นากอก หมู่ 8, 11, 15 ผู้รับผลกระทบ 13 ราย บ้านเรือนเสียหาย 13หลัง ซึ่งการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ได้มีหน่วยงานต่างๆ ลงพื้นที่ระดมให้ความช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว โดยชาวบ้านต่างระบุว่า เหตุความรุนแรงของวาตภัยครั้งนี้รุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปี
ด้าน ส.ต.ต.ชัยวัฒน์ อินอ่อน นายอำเภอสุวรรณคูหา ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้กำลังชาวบ้านที่ประสบภัย พร้อมกับชี้แจงถึงผลกระทบและการให้ความช่วยเหลือซึ่งจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของทางราชการ โดยอาจจะไม่ได้เต็มจำนวนซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจดี รวมทั้งได้แจ้งถึงการดูแลผู้เดือดร้อนจะแบ่งเป็นกลุ่ม คือเดือดร้อนหนัก ปานกลาง และเล็กน้อย มีหน่วยทหาร และจิตอาสา คอยให้การช่วยเหลือ
ขณะเดียวกัน นายสุวิทย์ จันทร์หวรผวจ.หนองบัวลำภู ประธานที่ปรึกษากรรมการเหล่ากาชาด จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วยนางณัฐติกานต์ จันทร์หวร นายกเหล่ากาชาด จ.หนองบัวลำภู พร้อมคณะและผู้เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ ต.นาด่าน อ.สุวรรณคูหา และ ต.เก่ากลอย อ.นากลาง เพื่อนำถุงยังชีพ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบวาตภัย และติดตามการแก้ปัญหา ตลอดจนติดตามผลการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเหตุวาตภัยครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บ 33 คน ซึ่งบาดเจ็บเล็กน้อย
นอกจากนี้การช่วยเหลือเร่งด่วนอื่นๆ ยังมีส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตัดแต่งกิ่งไม้ที่หักล้มทับถนนกีดขวางเส้นทางการจราจร สำหรับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.หนองบัวลำภู ได้เข้าแก้ปัญหาเสาไฟฟ้าล้มและสายไฟฟ้าที่ขาด เรียบร้อยแล้ว ส่วนการสำรวจความเสียหายทั้งหมดทางอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะเร่งสำรวจให้ครบถ้วน เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
ด้าน นายจักรพรรณ สุวรรณภักดี นายอำเภอท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ พร้อมปลัดอำเภอ เกษตรอำเภอท่าปลา และผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นางพญา อ.ท่าปลา ลงพื้นที่ออกสำรวจความเสียหายของต้นทุเรียนของชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ ต.นางพญา หลังเกิดพายุฤดูร้อนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีต้นทุเรียนที่ถูกพายุพัดอย่างแรงหักโค่นเสียหายจำนวนมาก ผลทุเรียนที่อายุเหลือแค่ไม่กี่วันก็จะตัดขายได้กลับหล่นเสียหายจำนวนมากเช่นเดียวกัน ซึ่งรวมพื้นที่ทั้งหมดราว 500 ไร่ และมีบางส่วนที่ต้นโค่นล้ม ผลผลิตที่แก่ต้องประสานงานให้พ่อค้าเข้ามารับซื้อจากชาวสวน เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น ส่วนความเสียหาย ในวันเปิดราชการจะมีการประชุมคณะกรรมการระดับอำเภอ เพื่อคำนวณเป็นเงินชดเชยให้กับชาวสวนอย่างเป็นธรรม
นายจักรพรรณกล่าวต่อว่า อำเภอท่าปลาเกิดพายุฤดูร้อนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งอำเภอ หรือ 7 ตำบล 50 หมู่บ้าน 160 หลังคาเรือน ซึ่งบ้านเรือนที่เสียหายส่วนใหญ่คือ หลังคาเปิด ส่วนใหญ่เป็นหลังคาเหล็กและสังกะสี เพราะแผ่นยาว เมื่อโดนลมแรงมากก็จะเปิดยกแผง มีประชาชนเดือดร้อนและได้รับผลกระทบ 720 คน เบื้องต้นหลังเกิดเหตุ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็ให้การช่วยเหลือทันที โดยนำงบประมาณสะสมออกมาใช้เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับประชาชนไปแล้วส่วนใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการซ่อมแซมระบบกระแสไฟฟ้าในเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักหลังเกิดพายุฤดูร้อนเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดยังมีถนนอีกหลายสายที่ต้องปิดการสัญจรชั่วคราว บางสายก็เปิดให้เดินรถทางเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จ.อุตรดิตถ์ ทำการซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่หัก เอียง สายไฟฟ้าที่ขาด ก็ทำการเปลี่ยนสายใหม่ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ก็ใช้รถเครน และรถกระเช้าขนาดใหญ่ ยกป้ายโฆษณา ของบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่ถูกกระแสลมแรงพัดหลุดออกจากสถานที่ติดตั้งมาเกี่ยวอยู่กับสายไฟฟ้าตามอาคารต่างๆ และต้นไม้ใหญ่ คาดว่าอีก 1-2 วันทุกอย่างก็คงเข้าสู่ภาวะปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี