กรมอุตุฯ เตือนพายุฝน ถล่มทั่วไทย มีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางพื้นที่ ร้อยละ 40-60 ให้เฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกสะสม ลมกระโชกแรงภาคเหนืออากาศร้อนแตะ 40 องศา กทม.ปริมณฑล แค่ 37 องศา
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ระหว่างวันที่ 8–14 พฤษภาคม 2567 ว่าช่วงวันที่ 9–14 พฤษภาคม 2567 ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมทั้งมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้ ช่วงวันที่ 9–11 พฤษภาคม 2567 ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนช่วงวันที่ 12–14 พฤษภาคม 2567 ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง รวมทั้งระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่ฝนฟ้าคะนอง
ส่วนพยากรณ์อากาศรายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ช่วงวันที่ 8–10 พฤษภาคม 2567 มีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมทั้งมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 36–40 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงวันที่ 9–11 พฤษภาคม 2567 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนช่วงวันที่ 12–14 พฤษภาคม 2567 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 35–38 องศาฯ
ภาคกลาง ช่วงวันที่ 9–14 พฤษภาคม 2567 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมทั้งมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 32 – 38 องศาฯ ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมทั้งมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 33–37 องศาฯ ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ช่วงวันที่ 9–12 พฤษภาคม 2567 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 33–36 องศาฯ ส่วนช่วงวันที่ 13–14 พฤษภาคม 2567 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ช่วงวันที่ 9–11 พฤษภาคม 2567 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนช่วงวันที่ 12–14 พฤษภาคม 2567 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34–37 องศาฯ ขณะที่ กทม.และปริมณฑล ช่วงวันที่ 9-14 พฤษภาคม 2567 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 33–37 องศาฯ
ที่ จ.เชียงราย แพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้ให้การรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากฟ้าผ่าจำนวน 2 ราย รวมทั้งชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ล่าสุดได้ให้ญาตินำศพกลับภูมิลำเนาเพื่อดำเนินการตามประเพณีแล้ว โดยเหตุฟ้าผ่าดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากได้มีฝนตกหนักและพายุลมพัดแรงทั่วพื้นที่ จ.เชียงราย รวมทั้งที่หมู่บ้านดอยฮางใน หมู่ 1 ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นป่าเขาสูงชัน ต่อมาเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกฟ้าผ่าในหมู่บ้านดังกล่าวจึงร่วมกับอาสากู้ภัยมูลนิธิสยามเชียงราย จุดจอดดอยฮาง นำรถพยาบาลไปให้การช่วยเหลือซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเป็นทางดินลูกรังขึ้นภูเขา
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงจุดเกิดเหตุพบเป็นดอยสูงที่กำลังมีการปรับหน้าดินและที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งตั้งอยู่เพียงต้นเดียวอย่างโดดเด่นมีร่างของผู้ที่ถูกฟ้าผ่านอนกระจัดกระจายอยู่จำนวน 3 คนโดยเป็นผู้ที่เสียชีวิตแล้ว 1 คน ทราบชื่อต่อมาว่านายเอกพันธ์ อายุ 31 ปี ชาว ต.ดอยฮาง ที่เป็นคนงานและสวมเสื้อยืดสีครีมกางเกงยาวสีดำและสวมร้องเท้าบูทที่ใช้ทำงาน ส่วนอีก 2 คน แต่งกายชุดทำงานเหมือนกันได้รับบาดเจ็บล้มอยู่บนพื้นดิน เจ้าหน้าที่จึงได้นำทั้งหมดส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
จากการสอบถามทราบว่าบริเวณดังกล่าวกำลังมีการขุดปรับหน้าดินและปลูกต้นไม้ดอกไม้โดยมีคนงานหลายคนช่วยกันทำงาน และในช่วงเย็นได้เกิดฝนตกหนักลงมาทำให้คนงานส่วนใหญ่ลงจากดอยแล้วไปหลบฝนอยู่ที่อาคารพัก แต่ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้ง 3 คน ไม่ได้ตามลงไปด้วย โดยแยกไปพักที่เพิงพักไม้ไผ่ใต้ต้นไม้ดังกล่าว และปรากฎว่าได้มีฟ้าผ่าลงมาที่ต้นไม้ ทำให้นายเอกพันธ์เสียชีวิตทันทีและเพื่อนคนงานอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี