ผู้บริหารมาบตาพุดแทงค์ฯ แถลงแสดงความเสียใจเหตุไฟไหม้ถังเก็บสารเคมี เผยเกิดขึ้นขณะ 4 พนักงานขึ้นไปตรวจวัดปริมาณสารบนถังเก็บ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเกิดจากสาเหตุใด ล่าสุดอุณหภูมิกลับมาเกือบปกติแล้ว เตรียมเยียวยาชาวบ้าน ผู้บาดเจ็บ ส่วนผู้เสียชีวิตจะส่งเสียลูกให้เรียนจนถึงปริญญา
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 9 พ.ค.67 ที่ศูนย์บัญชาการตอบโต้เหตุการณ์ฉุกเฉินฯ เทศบาลเมืองมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง นายกัฬชัย เทพวรชัย รอง ผวจ.ระยอง นายคณพศ ขุนทอง รองผู้ว่า กนอ. นายอัธยา นวลอุทัย ปภ.ระยอง และนายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจีกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทซิเมนต์ไทยโฮลดิ้งจำกัด ผู้บริหารบริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินอล จก.พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวการเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมีของ บ.มาบตาพุด แท็งค์ เทอร์มินอล จก. จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ
นายธรรมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 10.45 น.ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ถังเก็บสารซิไนพลัส สารผลิตปิโตรเคมี สารตั้งต้นโซเว้นท์ โดยมีพนักงานขึ้นไปตรวจวัดปริมาณสาร 4 คน บนถังเก็บ แล้วเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียดเกิดจากสาเหตุใด รู้แต่ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยพนักงานทั้ง 4 คน ได้ตกจากที่สูง และถูกไฟลวกทำให้เสียชีวิต 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย นอกจากนี้ยังมีพนักงานดับเพลิง ได้รับบาดเจ็บขณะเข้าระงับเหตุ 2 ราย
โดยขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ทางบริษัทใช้ทั้งน้ำ และโฟมระงับเพลิง ซึ่งเพลิงได้ดับลงในเวลาประมาณ 12.00 น. แต่ว่าถังที่ถูกไฟไหม้ยังมีความร้อนอยู่ทำให้ไฟปะทุขึ้นมาอีกรอบที่จุดเดิมตอนเวลาประมาณ 13.00 น. ซึ่งไฟไหม้เสียหายเพียง 1 ถัง จนกระทั่งในเวลา 18.00 น.จึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ ซึ่งมีการตรวจอุณหภูมิที่ถังทุกชั่วโมงป้องกันไฟปะทุอีก จนล่าสุดอุณหภูมิอยู่ที่ 47-50 องศาเซลเซียส ถือว่ากลับมาอยู่ระยะที่เกือบปกติ ซึ่งจะมีการเฝ้าระวังจนมั่นใจว่าปลอดภัยจึงจะดึงสารในถังออกมาให้หมด
ส่วนข้อกังวลในเรื่องของน้ำทั้งหมดจะไหลลงทะเลหรือไม่เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับทะเลขอยืนยันว่าไม่มีทางไหลลงทะเลเพราะการก่อสร้างถังทั้งหมดมีการสร้างเขื่อนโดยรอบป้องกันน้ำที่เกิดจากการดับไฟและน้ำจากในถังไหลลงทะเล
ส่วนอีกเรื่องต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ซึ่งทางบริษัทจะดูแลเต็มที่โดยเฉพาะบุตรจะส่งให้เรียนจนจบปริญญา และผู้บาดเจ็บทั้งพนักงาน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะรับผิดชอบทั้งหมด อย่างไรก็ตามทางบริษัทเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งจะดำเนินการหาสาเหตุ แต่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ส่วนพี่น้อง ปชช.ที่อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงโรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ทางบริษัทได้มีตรวจคัดกรองว่ามี ปชช.ที่ได้รับผลกระทบหรือไม่ และจะเฝ้าระวังต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นขณะนี้หลังทราบข่าวไฟดับแล้ว ประชาชนและพนักงานได้ทยอยกันกลับบ้าน เรือนตัวเองหมดแล้ว
ด้านนายอัธยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางจังหวัดระยอง ได้ประกาศให้ชุมชนหนองแฟบ ตา-กวน ,อ่าวประดู่ เป็นพื้นที่ประสบเหตุสาธารณภัยด้วย เพื่อให้การดำเนินการเข้าระงับเหตุได้สะดวก และให้การช่วยเหลือ ปชช.ได้อย่างเต็มที่.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี