ล่าแก๊งอุ้มโหด!ลักพาตัว‘หนุ่มเกาหลี’รีดค่าไถ่ ก่อนตัดนิ้วเหยื่อ-ฆ่ายัดถังโบกปูนถ่วงน้ำ

12 พฤษภาคม 2567 ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้รับการประสานจากสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ว่า มีนักท่องเที่ยวสัญชาติเกาหลี ถูกคนร้ายสัญชาติเดียวกัน ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท หากไม่ยอมจ่ายจะชำแหละอวัยวะขายทอดตลาด โดยยังไม่รู้ชะตากรรม จนกระทั่งสืบทราบเส้นทางว่าได้มีการพาเข้ามาในพื้นที่ จ.ชลบุรี

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.36 น.วันที่ 11 พ.ค.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล , ชุดสืบสวนชลบุรี , ชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ , เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ลงพื้นที่ขอบอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ในพื้นที่กรมชลประทาน ใต้สะพานต่างระดับมอเตอร์เวย์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่ามีการลักพาตัวนายโรห์ มาไว้ในบริเวณนี้

จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ชุดประดาน้ำ ปูพรมลงค้นหาในอ่างลึกกว่า 6 เมต โดยนักประดาน้ำ 2 ชุด ใช้เวลางมนาน 2-3 ชั่วโมง จนกระทั่งพบวัตถุต้องสงสัยเป็นถังน้ำขนาด 200 ลิตร สีดำ จมห่างจากริมตลิ่งของบ่อน้ำประมาณ 5 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร นักประดาน้ำและเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันเคลื่อนย้ายถังน้ำวัตถุต้องสงสัยขึ้นมาบนตลิ่งอย่างทุลักทุเล พบว่า ฝาถังถูกโบกปูนปิดทับ เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้มีดเปิดก้นถังเพื่อตรวจสอบ ปรากฏว่าพบศพที่คาดว่าเป็นเหยื่อชาวเกาหลี ถูกแก๊งคนร้ายฆาตกรรมยัดใส่ถังน้ำโบกปูนอย่างโหดเหี้ยม เบื้องต้นประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บรายละเอียดจากตัวถังและจุดเกิดเหตุโดยรอบ

จากการชันสูตรพลิกศพ เจ้าหน้าที่ได้ยกถังออกมาต้องถึงกับตะลึงเมื่อพบศพเหยื่อชาวเกาหลี สภาพแก้ผ้า นิ้วมือถูกตัดทั้ง 2 ข้าง มีรอยคล้ายบาดแผลบริเวณตรงหน้าอก นอนขดตัวอยู่ในถังน้ำติดกับปูนที่โดนโบก ส่งกลิ่นคละคลุ้งกระจายไปไกลกว่า 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องมือทำให้ปูนแตกก่อนจะสามารถยกศพขึ้นมาได้ เพื่อที่จะตรวจสอบในการชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังจากได้รับแจ้งจากว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีหายตัวไป เชื่อว่าถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ จากการตรวจสอบพบว่าชาวเกาหลีคนดังกล่าวชื่อ นายโรห์ อายุ 34 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 เม.ย. และปรากฏว่าในวันที่ 7 พ.ค. แม่ของนายโรห์ได้รับโทรศัพท์ปริศนา บอกว่าลูกชายนำยาเสพติดไปทิ้งน้ำ ทำให้ได้รับความเสียหาย แม่ต้องเอาเงินมาให้จำนวน 3 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นลูกชายจะถูกฆ่าตาย แม่ของนายโรห์ ไม่สบายใจจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับสถานทูตเกาหลีเพื่อประสานมาทางตำรวจ สน.คลองตัน ให้ทำการเร่งติดตามตัว

ภายหลังได้รับเรื่องจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาและตั้งชุดทีมสืบสวนระดมกำลังติดตามตัว กระทั่งสืบทราบว่านายโรห์ มีภรรยาเป็นคนไทยจากการสอบปากคำภรรยาให้การว่าเจอนายโรห์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผับย่านอาร์ซีเอ เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าวันที่ 3 พ.ค. เวลาประมาณตี 2 มีชายชาวเกาหลี 2 คนประกบแล้วพานายโรห์ขึ้นรถไป เมื่อตรวจสอบพบว่ารถดังกล่าวเป็นรถเช่า มุ่งหน้าเส้นทางพัทยาก่อนที่จะเปลี่ยนรถเช่าคันใหม่เป็นรถกระบะและเช่าที่พักใกล้กับอ่างเก็บน้ำมาบประชันพัทยา

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ประมาณ 3 ทุ่ม รถกระบะคันดังกล่าวขับออกมาจากที่พัก โดยมีผ้าคลุมสีดำปิดอยู่ และมีวัตถุอยู่ในกระบะสีดำ ตำรวจจึงได้ทำการไล่กล้องวงจรปิด พบว่ารถคันดังกล่าวได้มีการไปซื้อถังพลาสติกสีดำ ซื้อเชือกที่ร้านค้าเพื่อเตรียมการ ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนต่อพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวได้มาจอดรถบริเวณอ่างน้ำมาบประชันประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะกลับไปยังที่พักที่เช่าไว้ ตำรวจจึงได้ระดมทีมนักประดาน้ำมาที่อ่างเก็บน้ำเพื่องมและตรวจสอบ พบมีถังน้ำสีดำถูกโบกปูนไว้ และมีคนอยู่ข้างใน เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล แต่เชื่อว่าเป็นนายโรห์ชาวเกาหลีที่หายตัวไป

ส่วนคนร้าย 2 ราย สามารถระบุตัวบุคคลได้แล้วว่าเป็นใคร ซึ่ง 1 รายได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ส่วนอีก 1 รายยังไม่พบการเดินทางออก อยู่ระหว่างการติดตามตัว

ขณะที่ภาพกล้องวงจรปิด ร้านขายถังน้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 800 เมตร พบว่าช่วงประมาณบ่าย 3 โมงเย็นวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา พบรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีขาว จอดที่บริเวณหน้าร้านก่อนจะมีคนร้ายชายเกาหลีใส่ชุดดำ 2 คน ลงจากรถเข้าไปซื้อเชือก 2 มัด และถังน้ำสีดำ ขนาด 200 ลิตร แล้วยกขึ้นท้ายกระบะ นำไปใส่ศพเหยื่อและโบกปูนปิดทับเอาไปทิ้งที่อ่างเก็บน้ำดังกล่าว

ขณะที่ น.ส.นิตยา อายุ 31 ปี เจ้าของร้านขายอุปกรณ์พลาสติก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค.67 มีชาวต่างชาติขับรถกระบะ 4 ประตูสีขาว เข้ามาหาซื้อถังพลาสติกขนาดใหญ่ เชือกไนลอน 2 ม้วน กรรไกร โดยไม่มีท่าทีพิรุธแต่อย่างใด ขณะที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพชาวต่างชาติต้องสงสัยที่เข้าไปซื้อถัง เชือก กรรไกร ไว้ได้อย่างชัดเจน จึงมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน

-005