ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าเขื่อนพระยาสาย ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส ได้จัดให้มีพิธีการร่วมละหมาดฮายัต โดยผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน กว่า 200 คน เข้าร่วมในกิจกรรมละหมาดฮายัต เพื่อให้พื้นที่เกิดความสงบและสันติสุข หลังจากมีเหตุการณ์คนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งติดตั้งในรถจักรยานยนต์ และจอดไว้บริเวณหน้าเขื่อนท่าพระยาสาย ถนนภูผาภักดี ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ขณะที่ประชาชนพาบุตรหลานมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในบริเวณเขื่อนท่าพระยาสาย โดยแรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ อส. และประชาชนได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน

ด้าน นายมูฮำหมัด สันหมาน อิหม่ามประจำมัสยิดพงปือเราะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ในฐานะผู้ร่วมละหมาดฮายัตและผู้บรรยาย “อิสลามกับการสร้างสันติ” กล่าวว่า “เขื่อนท่าพระยาสาย เป็นอีก 1 แหล่งท่องเที่ยว ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายขึ้น และเกิดความรุนแรง โดยเฉพาะเหตุระเบิด จนประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่นี้จะมีเด็กประชาชนใช้พื้นที่ในทุกวัน ทั้งเช้าและค่ำ ไม่เพียงแต่คนพื้นที่ ยังเป็นพื้นที่นักท่องเที่ยวไทยมาชม และชาวมาเลเซีย มาแวะเวียน มาชมมาเที่ยว มากินในย่านนี้สร้างรอยยิ้มกับคนในพื้นที่ จึงอยากลดความขัดแย้ง หรือมองข้ามความขัดแย้ง และหันหน้ามาใช้แนวทางสันติวิธี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อพื้นที่ประชาชน จะได้มีกินมีใช้ ปากท้องอิ่ม สร้างรอมยิ้มกับคนพื้นที่ผู้มาเยือน การละหมาดฮายัต อนึ่ง เป็นการละหมาด ของพรจากพระเป็นเจ้า (อัลลอฮ) และดุอา เพื่อให้พื้นที่เกิดควาสงบสุขโดยเร็ว ประชาชนทุกคน ไม่ยากเห็นความรุนแรงอีก และยากเห็นการพัฒนาจังหวัดนราธิวาส และจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป”

ขณะที่นายไพศาล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ได้กล่าวหลังเสร็จสิ้นร่วมละหมาดฮายัตว่า “ต้องขอบคุณผู้นำศาสนาและประชาชน ที่ร่วมใจละหมาดฮายัต เพื่อความสันติสุขและสงบสุข จากเหตุการณ์ความไม่สงบ”