วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘พิพัฒน์’ปล่อยแถวชุดปฏิบัติการสแกนแรงงานข้ามชาติผิดกม. หากพบ ‘จับ ปรับ ผลักดัน’ ทันที

‘พิพัฒน์’ปล่อยแถวชุดปฏิบัติการสแกนแรงงานข้ามชาติผิดกม. หากพบ ‘จับ ปรับ ผลักดัน’ ทันที

วันพุธ ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 14.04 น.
Tag : กระทรวงแรงงาน ต่างด้าว แนวหน้าออนไลน์ แรงงานข้ามชาติ แรงงานผิดกฎหมาย
  •  

‘รมว.แรงงาน’ ปล่อยแถวชุดปฏิบัติการสแกนแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย ลั่นหากพบ ‘จับ ปรับ ผลักดัน’ ทันที ตั้งเป้าบูรณาการร่วมเร่งเดินหน้ากวาดล้าง แนะรีบมาลงทะเบียนต่างด้าวภายใน31ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2567 ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายและปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบการทำงานของแรงงานข้ามชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวรายงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และผู้แทนจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นเกียรติในพิธี


รมว.แรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยจำเป็นต้องพึ่งพาภาคแรงงาน รักษาความสมดุลระหว่างการจ้างงานคนสัญชาติไทยให้มีงานทำ และบริหารจัดการการทำงานของแรงงานข้ามชาติ ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการ สามารถขับเคลื่อนกิจการทั้งภาคการผลิต ภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมอบนโยบายในวันนี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบการทำงานของแรงงานข้ามชาติ เพื่อใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบ จับกุม และดำเนินคดีนายจ้าง สถานประกอบการ และคนต่างชาติ ที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว การปราบปรามการลักลอบเข้าประเทศตามช่องทางธรรมชาติ และทำงานโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้นายจ้าง สถานประกอบการ และคนต่างชาติ เร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ซึ่งการบรรลุวัตถุประสงค์ได้นั้น ต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ในการนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี ประกอบด้วย กรมการจัดหางาน โดยเจ้าหน้าที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหางานจังหวัดปริมณฑล และเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 จำนวน 85 นาย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กรุงเทพมหานคร จำนวน 45 นาย รวมทั้งสิ้น 130 นาย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานที่ประจำอยู่ ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด จะเข้าร่วมพิธีเพื่อรับมอบนโนยายพร้อมกันทั่วประเทศ ผ่านทางการถ่ายทอดสด Facebook Live กรมการจัดหางานด้วย โดยทันทีที่การรับมอบนโยบายเสร็จสิ้น กำลังพลจะออกปฏิบัติการตรวจสอบการทำงานของแรงงานข้ามชาติ และนายจ้าง สถานประกอบการโดยพร้อมเพรียงกัน

“ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ คำนึงถึงผลประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติเป็นหลัก และขอให้ได้รับความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจทุกครั้ง ในนามของกระทรวงแรงงาน ขอขอบคุณสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ได้ให้ความร่วมมือส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมปฏิบัติงานกับพนักงานเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานในครั้งนี้” นายพิพัฒน์ กล่าว

ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม “คนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่ทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศต้นทาง รวมทั้งไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี และนายจ้าง/สถานประกอบการที่รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี” 

อธิบดีกรมการจัดงาน กล่าวด้วยว่า ในส่วนคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ซึ่งนายจ้างได้ดำเนินการยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนในช่วงที่ผ่านมา (สิ้นสุดการดำเนินการวันที่ 15 มกราคม 2567) และได้รับอนุญาตทำงาน มีจำนวน 813,869 คน แบ่งเป็นสัญชาติเมียนมา 676,515 คน กัมพูชา 103,442 คน ลาว 31,170 คน และเวียดนาม 2,742 คน จะต้องไปดำเนินการจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล จัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางและตรวจลงตราหรือตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว จัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติและทำบัตรประจำตัวคนต่างด้าว (บัตรชมพู) ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 หากไม่ดำเนินการหรือดำเนินการไม่ครบถ้วนจะส่งผลให้การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงานเป็นอันสิ้นสุด ทั้งนี้สำนักบริหารแรงงานต่างด้าวให้ข้อมูลว่า แรงงานสัญชาติเมียนมา ได้ไปดำเนินการจัดทำเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity: CI) (เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง) ณ ศูนย์บริหารจัดการการทำงานของแรงงานเมียนมาแบบเบ็ดเสร็จ จำนวน 369,156 คน หรือร้อยละ 54.57 ของแรงงานสัญชาติเมียนมาที่ได้รับอนุญาตทำงานตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว จึงขอฝากถึงนายจ้าง สถานประกอบการอย่านิ่งนอนใจ พาแรงงานของท่านไปดำเนินการตามกระบวนการที่กำหนดให้ครบถ้วนภายในวันที่ 31ต.ค.67 หากไม่ดำเนินการหรือ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เคาะแล้วเพิ่ม‘ค่าแรง’ 400 บาททั่วกทม. จังหวัดอื่นได้บางกลุ่มอาชีพ มีผล 1 ก.ค. เคาะแล้วเพิ่ม‘ค่าแรง’ 400 บาททั่วกทม. จังหวัดอื่นได้บางกลุ่มอาชีพ มีผล 1 ก.ค.
  • ‘ชนินทร์’ถกสภาผู้บริโภค หนุนใช้รายได้ รฟม.อุดหนุนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ‘ชนินทร์’ถกสภาผู้บริโภค หนุนใช้รายได้ รฟม.อุดหนุนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
  • ‘วทบ.รุ่น69’ร่วมส่งกำลังใจสู่แนวหน้า หนุนจนท.ทหารชายแดน ปกป้องอธิปไตยไทยเต็มที่ ‘วทบ.รุ่น69’ร่วมส่งกำลังใจสู่แนวหน้า หนุนจนท.ทหารชายแดน ปกป้องอธิปไตยไทยเต็มที่
  • ‘รมว.แรงงาน’ นำทัพ Safe@Work 2025 ชู ‘ความปลอดภัย’ เป็น ‘ยุทธศาสตร์ชาติ’ ‘รมว.แรงงาน’ นำทัพ Safe@Work 2025 ชู ‘ความปลอดภัย’ เป็น ‘ยุทธศาสตร์ชาติ’
  • \'สมศักดิ์\'ขอปชช.สบายใจ โควิดสายพันธุ์ XEC ติดง่าย หายเร็ว แต่ขอระวังกลุ่มเปราะบาง 'สมศักดิ์'ขอปชช.สบายใจ โควิดสายพันธุ์ XEC ติดง่าย หายเร็ว แต่ขอระวังกลุ่มเปราะบาง
  • แรงงานไทยเฮ! กรมการจัดหางานเปิดรับสมัครงานฮ่องกง พ่อครัว-เสิร์ฟ รายได้กว่า8หมื่น/เดือน แรงงานไทยเฮ! กรมการจัดหางานเปิดรับสมัครงานฮ่องกง พ่อครัว-เสิร์ฟ รายได้กว่า8หมื่น/เดือน
  •  

Breaking News

เคาะแล้วเพิ่ม‘ค่าแรง’ 400 บาททั่วกทม. จังหวัดอื่นได้บางกลุ่มอาชีพ มีผล 1 ก.ค.

เช็ครายชื่อ! ครม.มีมติแต่งตั้งข้าราชการหลายตำแหน่ง

บึงกาฬรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคแอนแทรกซ์ในโค กระบือ แพะ พื้นที่เสี่ยง

สรุปมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved