เรื่องใหญ่แล้ว!!! ผบช.ก.สั่ง"รองเต่า"ตั้งกรรมการสอบเรือขนน้ำมันเถื่อนเครือข่าย "เสี่ยโจ้" 3 ลำ หายปริศนาจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ พร้อมน้ำมันกว่า 3 แสนลิตร คาดลูกเรืออาศัยช่วงพายุเข้าขับหนีหายเข้ากลีบเมฆ ด้าน"จรูญเกียรติ"เตรียมบุกตรวจที่เกิดเหตุพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.)
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ได้จับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนรวม 5 ลำพร้อมของกลางน้ำมันดีเซลกว่า 325,000 ลิตร โดยจับกุมได้ในทะเลห่างจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไปประมาณ 100 ไมล์ทะเล เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่าน จึงนำเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนของกลางไปไว้ในพื้นที่ควบคุมบริเวณอ่าวสัตหีบ จ.ชลบุรี ตามคำร้องขอของ สำนักงานปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งขอความอนุเคราะห์ให้ตำรวจน้ำจัดกำลังดูแลรักษาเรือและทรัพย์สินของกลางในคดีอาญาฐานร่วมกันพยายามนำเข้ามาในหรือส่งออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังไม่ผ่านพิธีทางศุลกากร แต่ปรากฏว่าเรือของกลาวง 3 ลำกลับล่องหนไปอย่างปริศนา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น ( อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แฉเส้นทางเรือขนน้ำมันเถื่อนหาย 3 ลำ คาดมุ่งหน้าไปตราด เข้าเขตทะเลเพื่อนบ้านแล้ว)
12 มิ.ย.67 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากกองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ว่า เรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่จำนวน 3 ลำบรรจุน้ำมันรวมกว่าสามแสนลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะนี้กำลังสืบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยในเบื้องต้นได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วนแล้ว พร้อมกับให้กองบังคับการตำรวจน้ำตั้งกรรมการมาสอบสวนเป็นการด่วน โดยรายงานผลให้ตนทราบโดยเร็วที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้เวลา 13.00 น. จะไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. จับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนรวม 5 ลำ ก่อนควบคุมมาจอดรวมกันอยู่ที่ท่า ในวันที่เกิดเหตุได้มีพายุลมแรงจึงนำเรือทั้งหมดออกไปทอดสมอห่างจากฝั่งประมาณ 100 เมตร จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าตำรวจที่เข้าเวรยังมองเห็นเรือดังกล่าวเปิดไฟเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 11 ม.ย. กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. เรือทั้งหมดได้ดับไฟ จนกระทั่งช่วงเช้าจึงพบว่าเรือได้หายไป 3 ลำ
"กำลังเร่งคลี่คลายคดีอย่างเร็วที่สุด โดยให้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกค้นหาทั้งทางเรือและทางอากาศ เนื่องจากของกลางหายเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะอยู่ในความควบคุมของตำรวจ โดยตนได้สั่งการให้เร่งหาลูกเรือมาสอบสวน ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. ตั้งกรรมการสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด และหาผู้กระทำผิดมารับผิดชอบต่อไป"พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรือทั้ง 3 ลำที่หายไปครั้งนี้นั้น เป็นเครือข่ายของ “โจ้ น้ำมันเถื่อน” หรือ “โจ้ ปัตตานี” ซึ่งเป็นขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในภาคใต้ ที่หลบหนีหมายจับคดีน้ำมันเถื่อนหลายคดีอยู่ในต่างประเทศ
มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา สว.ส.รน.3 กก.5 บก.รน. ได้ทำหนังสือรายงานถึง บก.รน. ระบุว่า เรือของกลาง จำนวน 3 ลำ จอดทิ้งสมอในระยะปลอดภัย ระยะห่างจากสะพานตำรวจน้ำ ประมาณ 100 เมตร ได้หายไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 06.00 น. โดย เรือของกลาง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย 1.เรือ เจ.พี. พร้อมของกลาง น้ำมันเถื่อนประมาณ 80,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ จำนวน 7 คน 2.เรือซีฮอต พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 150,000 ลิตรพร้อมลูกเรือ จำนวน 6 คน และ 3.เรือดาวรุ่ง พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 100,000 ลิตร พร้อมลูกเรือจำนวน 5 คน ได้หายไปจากจุดทิ้งสมอ เนื่องจากตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. มีพายุเข้าในพื้นที่ อ.สัตหีบ มีกระแสลมแรง ทำให้สะพานตำรวจน้ำ ไม่สามารถรองรับนำหนักเรือของกลาง ที่จอดอยู่บริเวณหัวสะพาน ทั้งหมดได้ จึงให้เรือของกลาง ๆ รวม 5 ลำ ออกลอยลำเพื่อทำการทิ้งสมอ ในระยะปลอดภัย โดยระยะห่างจากสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ ประมาณ 100 เมตร ล่าสุดตำรวจน้ำสัตหีบ ได้นำเรือตรวจการณ์ 815 และ เรือตรวจการณ์ 632 ออกทำการค้นหา เพื่อติดตามเรือของกลาง ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบเรือดังกล่าวแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี