นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า แหนแดงเป็นปุ๋ยชีวภาพชนิดหนึ่งที่มีสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินที่สามารถตรึงไนโตรเจนได้อาศัยอยู่ภายในโพรงใบ ให้ธาตุอาหารพืชสูง ใช้ต้นทุนน้อย สามารถผลิตได้ต่อเนื่องและประกอบด้วยสารเพิ่มประสิทธิภาพพืช เช่น กรดอะมิโนต่างๆ และสารคล้ายฮอร์โมนพืช แต่การนำแหนแดงสดไปใช้ในการผลิตพืชผักมีข้อจำกัดเนื่องจากมีน้ำเป็นองค์ประกอบสูง หากจะนำมาใช้ในการผลิตพืชผักจำเป็นต้องใส่แหนแดงสดปริมาณมากเพื่อให้ได้ธาตุอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืชผัก ดังนั้น กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร จึงได้วิจัยและพัฒนาการใช้แหนแดงแห้งในการจัดการธาตุอาหารพืช เพื่อให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับพืชผักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน ดร.ศิริลักษณ์ แก้วสุรลิขิต นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กล่าวว่า ได้ศึกษาการปลดปล่อยธาตุอาหารของแหนแดงแห้ง และศึกษาผลของการใช้แหนแดงแห้งต่อการเจริญเติบโตของผักสลัดคอสในเรือนทดลอง จากการศึกษาการปลดปล่อยธาตุอาหารในแหนแดงแห้ง พบว่าการใส่แหนแดงแห้ง 35 กรัมต่อดิน 1 กิโลกรัม ผักสลัดคอสมีการเจริญเติบโตสูงสุด โดยมีน้ำหนักสดและน้ำหนักแห้งเพิ่มขึ้น 736% และ 286% เมื่อเปรียบเทียบกับกรรมวิธีที่ไม่ใส่แหนแดงแห้ง
จากการทดลองในพื้นที่ปลูกผักสลัดคอส จ.นครราชสีมา เมื่อใช้แหนแดงแห้งอย่างเดียวอัตรา 1 กิโลกรัม/ตารางเมตร ให้ผลผลิตผักสลัดคอสสูงกว่าการใช้ปุ๋ยยูเรีย อัตรา 20 กรัมต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นอัตราแนะนำตามค่าวิเคราะห์ดิน โดยให้ผลผลิตเท่ากับ 2,603 กิโลกรัมต่อไร่ หรือให้ผลผลิตมากกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีในอัตราแนะนำ 69% ดังนั้น แหนแดงแห้งจึงสามารถใช้เป็นแหล่งของธาตุอาหารทดแทนปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำได้ 100% ซึ่งเหมาะแก่การนำไปใช้ผลิตพืชผักอินทรีย์ เนื่องจากแหนแดงแห้ง 1 กิโลกรัม สามารถปลดปล่อยไนโตรเจนให้พืชได้ใช้ประโยชน์ประมาณ 16 กรัม รวมทั้งยังมีธาตุอาหารของแคลเซียมและแมกนีเซียมที่เป็นประโยชน์กับพืชและช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุแก่ดิน ขณะที่ปุ๋ยยูเรีย 20 กรัม มีไนโตรเจน 9.4 กรัมเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้เมื่อใช้แหนแดงแห้งร่วมกับปุ๋ยยูเรีย อัตรา 5, 10, 15 และ 20 กรัมต่อตารางเมตร พบว่าทุกกรรมวิธีทำให้ผลผลิตผักสลัดคอส สูงขึ้น แตกต่างจากการใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียวทุกอัตรา
“แหนแดงมีศักยภาพในการนำไปใช้เป็นปัจจัยการผลิตที่ช่วยในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชผักรับประทานใบ โดยเกษตรกรสามารถผลิตแหนแดงได้จากการใช้เทคโนโลยีการผลิตแหนแดงของกรมวิชาการเกษตร และสามารถนำความรู้จากงานวิจัยนี้ไปปฏิบัติได้ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชผักรับประทานใบและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน” ดร.ศิริลักษณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี