วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
บาดแผลตกค้างจากโควิด ไทยมีเด็กกำพร้ากว่า 5 หมื่นคน แนะรัฐเร่งจัดสวัสดิการ-เยียวยาผลกระทบ

บาดแผลตกค้างจากโควิด ไทยมีเด็กกำพร้ากว่า 5 หมื่นคน แนะรัฐเร่งจัดสวัสดิการ-เยียวยาผลกระทบ

วันจันทร์ ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 16.51 น.
Tag : โควิด สวัสดิการ เด็กกำพร้า รัฐบาล
  •  

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่มหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา) รศ.ดร.จงจิตต์ ฤทธิรงค์ นักวิชาการ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล บรรยายหัวข้อ “เด็กกำพร้าจากโควิด-19 ในประเทศไทย” ในงานประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 18 "ประชากรและสังคม 2567" จัดโดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล โดยระบุว่า ตามข้อมูลที่รวบรวมจากกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ในช่วงเดือน เม.ย. 2563-ก.ค. 2565  มีผู้เสึยชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ในประเทศไทย 42,194 ราย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 74 เป็นผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี

ขณะที่มีเด็กและเยาวชน อายุตั้งแต่ 0-17 ปี กลายเป็นกำพร้า เพราะสูญเสียพ่อหรือแม่ หรือทั้งพ่อและแม่ จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 จำนวน 4,139 คน และในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี 452 หรืดคิดเป็นร้อยละ 10.9 ซึ่งถือเป็นกลุ่มเปราะบางต้องการความช่วยเหลือมากเป็นพิเศษ นอกจากนั้น หากนับรวมการสูญเสียญาติคนอื่นๆ ในครอบครัว (พี่น้อง ปู่ย่าตายาย ฯลฯ) จำนวนเด็กและเยาวชนที่เผชิญความสูญเสียจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 จะสูงถึง 58,068 คน


“การกระจายตัวของผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนมาก อยู่ในโซนของจังหวัดกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ เช่นเดียวกัน ภาพการกระจายตัวของเด็กกำพร้าที่สูญเสียญาติ จะกระจุกตัวอยู่แถบกรุงเทพฯ-ปริมณฑล แล้วก็ขยับไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วก็ภาคใต้ จากภาพนี้จะเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลของผู้เสียชีวิต จากกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงมหาดไทย ทำให้เราสามารถระบุได้ว่าเด็กที่กำพร้าและต้องการความช่วยเหลืออยู่จังหวัดไหน ฉะนั้นเราสามารถให้ความช่วยเหลือในเชิงรุกได้” รศ.ดร.จงจิตต์ ระบุ

รศ.ดร.จงจิตต์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับข้อเสนอแนะ 1.หน่วยงานภาครัฐควรเชื่อมโยงข้อมูลเด็กกำพร้าเข้ากับช้อมูลด้านการศึกษาและพัฒนาการก่อนวัยเรียนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  (อปท.) และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อป้องกันปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา และนำเด็กที่หลุดออกไปแล้วกลับเข้าระบบการศึกษาด้วย 2.กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ควรทำงานเชิงรุก สนับสนุนเงินสงเคราะห์เด็กกำพร้า ตามสวัสดิการเด็กและครอบครัว จำนวน 2,000 บาท ไปจนถึงอายุ 18 ปี

และ 3.ควรจัดให้มีระบบการติดตามภาวะสุขภาพกายและสุขภาพจิตเด็กกำพร้าอย่างต่อเนื่องจากถึงอายุ 18 ปี รวมถึงส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้สมวัย และบรรเทาผลกระทบเชิงลบทางจิตใจ ส่วนที่มีผู้ตั้งคำถามว่า นิยามของเด็กกำพร้าคืออะไร เพราะโดยความเข้าใจทั่วไปจะหมายถึงการสูญเสียบุคคลที่มีบทบาทเลี้ยงดูโดยตรง เช่น พ่อแม่  แต่งานวิจัยกลับไปรวมถึงการสูญเสียญาติคนอื่นๆ ด้วย ตนขออธิบายว่า กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ให้นิยามเด็กกำพร้าไว้ว่า ประชากรอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่สูญเสียพ่อหรือแม่ หรือทั้งพ่อและแม่

แต่ที่ตนสนใจศึกษารวมไปถึงการเสียชีวิตของญาติคนอื่นๆ ในครอบครัวด้วย เนื่องจากในต่างประเทศ มีการศึกษาที่ไม่ได้เฉพาะการกำพร้าแบบปฐมภูมิ (Primary Orphanhood) หรือการสูญเสียพ่อแม่เท่านั้น แต่ยังขยายไปยังการกำพร้าแบบทุติยภูมิ (Secondary Orphanhood) หมายถึงการสูญเสียญาติคนอื่นๆ ซึ่งเป็นการสูญเสียทรัพยากรของครอบครัว ทั้งนี้ การที่ผลการศึกษาชี้ให้เห็นเด็กกำพร้าที่สูญเสียพ่อแม่ ก็เพื่อให้รัฐจัดสรรสวัสดิการตามสิทธิที่ควรได้ แต่ก็ไม่ใช่เฉพาะการสูญเสียพ่อแม่เท่านั้นที่จะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และจิตใจของเด็ก

“การสูญเสียญาติคนอื่นๆ รวมทั้งปู่ย่าตายาย ที่เขาจะเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการเลี้ยงดูเด็กในครอบครัวหนึ่งๆ ก็ส่งผลกระทบต่อเด็กด้วยเช่นเดียวกัน ฉะนั้นการให้ความช่วยเหลือ รัฐสวัสดิการต่างๆ ก็ควรจะเข้าถึงกลุ่มเด็กที่สูญเสียปู่ย่าตายายด้วยเช่นกัน” รศ.ดร.จงจิตต์ กล่าว

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'หมอธีระ\'เผยแค่อาทิตย์เดียว ป่วยโควิดเข้า รพ.กว่า 8,446 ราย 'หมอธีระ'เผยแค่อาทิตย์เดียว ป่วยโควิดเข้า รพ.กว่า 8,446 ราย
  • เปิดอาการ‘โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติก’ คร่าชีวิตคนไทยแล้วมากถึง 4 หมื่นราย เปิดอาการ‘โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติก’ คร่าชีวิตคนไทยแล้วมากถึง 4 หมื่นราย
  • แรงงานร้องรบ.  ปรับค่าแรง492บาททั่วปท.  ยื่น7ข้อเสนอดูแลเร่งด่วน แรงงานร้องรบ. ปรับค่าแรง492บาททั่วปท. ยื่น7ข้อเสนอดูแลเร่งด่วน
  • รบ.เตือนเฝ้าระวัง5โรคหลังเล่นสงกรานต์ รบ.เตือนเฝ้าระวัง5โรคหลังเล่นสงกรานต์
  • \'รองนายกฯประเสริฐ\'มอบ สสส.ทำงานคู่ขนานรัฐ สื่อสารอันตรายบุหรี่ไฟฟ้า 'รองนายกฯประเสริฐ'มอบ สสส.ทำงานคู่ขนานรัฐ สื่อสารอันตรายบุหรี่ไฟฟ้า
  • รัฐบาลเชิญฉีดวัคซีนป้องกัน‘โรคมะเร็งปากมดลูก’ฟรี เปิดบริการทั่วประเทศถึง เม.ย.นี้ รัฐบาลเชิญฉีดวัคซีนป้องกัน‘โรคมะเร็งปากมดลูก’ฟรี เปิดบริการทั่วประเทศถึง เม.ย.นี้
  •  

Breaking News

'สพฐ.' แจ้งสถานศึกษาไม่ตื่นตระหนกข่าวลือ 'โควิด' ย้ำไม่ประมาท

(คลิป) หลอกหลอน 'โฆษกพรรคเพื่อไทย' ไปตลอดชีวิต

'ดร.เสรี' ถาม 'รมว.สธ.'ตัดสินใจอย่างไร จะยึดความถูกต้องหรือจะยึดการรับใช้?

สำนักข่าวอิศราเปิดชื่อ 3 หมอโดนแพทยสภาสั่งลงโทษคดี 'ทักษิณ' ชั้น 14

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved