วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เสี่ยงลดคน-ปิดกิจการ!เอกชนแนะ 5 ข้อ ยื่นหนังสือวอนขอรัฐทบทวนขึ้น‘ค่าแรง 400 บาท’

เสี่ยงลดคน-ปิดกิจการ!เอกชนแนะ 5 ข้อ ยื่นหนังสือวอนขอรัฐทบทวนขึ้น‘ค่าแรง 400 บาท’

วันศุกร์ ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 16.21 น.
Tag : ค่าแรง ค่าแรงขั้นต่ำ ค่าจ้างขั้นต่ำ แรงงาน บอร์ดค่าจ้าง ค่าแรง400 ปิดกิจการ เชียงใหม่
  •  

‘องค์กรภาคเอกชนเชียงใหม่’ผนึกกำลังยื่นหนังสือขอภาครัฐทบทวนการปรับขึ้น‘ค่าแรง 400 บาท’ ชี้การปรับขึ้นแบบก้าวกระโดด ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในภาพรวม อาจต้องทำใจลดจำนวนพนักงาน สุดยื้อพร้อมปิดกิจการ แนะรัฐ 5 ข้อ

5 กรกฎาคม 2567 สืบเนื่องจากการพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ องค์กรภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่  หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่  สมาคมธนาคารไทยจังหวัดเชียงใหม่  สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่  สมาคมส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการไทยจังหวัดเชียงใหม่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่  สมาคมผู้ผลิตและส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ และ สมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะตัวแทนของสถานประกอบการทุกขนาดและทุกประเภทกิจการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ทบทวนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เนื่องจากส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ยังผันผวน ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดการลดจำนวนพนักงาน การเลิกจ้าง และปิดกิจการในที่สุด


ภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่ได้ขอแสดงความคิดเห็นคัดค้านต่อการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำดังกล่าวด้วยเหตุผล ดังต่อไปนี้

1. การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำซ้ำซ้อน ในปี 2567 นี้มีการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำมาแล้วถึงสองครั้ง การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอีกครั้งในเวลาอันใกล้นี้ มีผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ

2. ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภาระต้นทุน การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทเท่ากัน ทั่วประเทศ ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและบริบทของแต่ละจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านค่าครองชีพ ระดับราคาสินค้าและบริการ ตลอดจนศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่ การปรับขึ้นค่าจ้างที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยเหล่านี้ เป็นการเพิ่มภาระต้นทุนแก่ผู้ประกอบการอย่างไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

3. ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการจ้างงานและการลงทุน การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอย่างก้าวกระโดด ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในภาพรวม โดยอาจทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงาน ลดกำลังการผลิต หรือชะลอการลงทุน เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินของธุรกิจ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวได้

4. ผลกระทบต่อค่าครองชีพ การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ อาจส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีรายได้น้อย เช่น ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และผู้ประกอบอาชีพอิสระขนาดเล็ก ที่ไม่ได้รับผลประโยชน์ที่เป็นสัดส่วนเมื่อเทียบกับค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น

ข้อเสนอแนะ

1. เห็นด้วยกับการสนับสนุนยกระดับรายได้ของแรงงาน แต่ควรพิจารณาจากทักษะฝีมือแรงงาน (Pay By Skils) เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะฝีมือให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและเพิ่มผลิตภาพแรงงาน (Labor Productivity)

2. การพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามหลักการที่เป็นธรรมและยั่งยืนนั้น  ควรยึดหลักการที่เป็นธรรมและคำนึงถึงความสามารถในการจ่ายของผู้ประกอบการ ควบคู่ไปกับการดูแลสวัสดิภาพของลูกจ้าง โดยอาจพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างในอัตราที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและบริบทของแต่ละพื้นที่

3. ควรใช้สูตรคำนวณที่เป็นมาตรฐานและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ซึ่งการคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ควรใช้สูตรคำนวณที่เป็นมาตรฐานสากลและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยคำนึงถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค อัตราเงินเฟ้อ และผลิตภัณฑ์มวลรวมของแต่ละจังหวัด ทั้งนี้ การพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ผ่านมา ได้ยึดตามสูตรที่มีการจัดทำโดยนักวิชาการหลากหลายสาขาที่เกี่ยวข้อง และเป็นสูตรที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่ามีความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ไม่ได้มีส่วนได้เสียโดยตรงจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมอย่างแท้จริง สูตรการคำนวณที่ใช้ควรเป็นสูตรที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยอมรับ และสามารถอธิบายได้ในเชิงวิชาการอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อสร้างความมั่นใจในระบบไตรภาคีที่ร่วมกันพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ

4. ควรเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ ได้มีส่วนร่วมในการหารือและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นธรรมและยั่งยืนสำหรับทุกฝ่าย

5. ภาครัฐควรสร้างสมดุลด้านรายได้และค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพให้กับแรงงาน เพื่อสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น องค์กรภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่ พิจารณาเห็นว่าจังหวัดเชียงใหม่ควรจะทำหนังสือถึงกระทรวงแรงงาน  และขอให้คณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดเชียงใหม่  และคณะกรรมการค่าจ้าง ได้โปรดพิจารณาข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าว เพื่อให้การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย อันส่งผลดีต่อการพัฒนาภาคเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของจังหวัดเชียงใหม่และของประเทศโดยรวมต่อไป

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เชียงใหม่ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยยึดโยงกับอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ ผ่านกิจกรรม\'ชาติพันธุ์ สีสันแห่งล้านนา\' เชียงใหม่ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยยึดโยงกับอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ ผ่านกิจกรรม'ชาติพันธุ์ สีสันแห่งล้านนา'
  • ททท. เปิดเที่ยวฤดูกาลผลไม้ \'อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน\' ตอน \'อุตรดิตถ์ติดจันท์\' ททท. เปิดเที่ยวฤดูกาลผลไม้ 'อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน' ตอน 'อุตรดิตถ์ติดจันท์'
  • ตร.ภูพิงคราชนิเวศน์จับอาวุธสงครามกำลังขนส่งให้ชนกลุ่มน้อยชายแดนแม่ฮ่องสอน ตร.ภูพิงคราชนิเวศน์จับอาวุธสงครามกำลังขนส่งให้ชนกลุ่มน้อยชายแดนแม่ฮ่องสอน
  • กองกำลังผาเมืองปะทะเดือดกลุ่มขบวนการขนยาเสพติดยึดฝิ่นดิบ 16 กิโลกรัม กองกำลังผาเมืองปะทะเดือดกลุ่มขบวนการขนยาเสพติดยึดฝิ่นดิบ 16 กิโลกรัม
  • นายกฯแวะจุด\'อาชีวะ-ขนส่งเชียงใหม่\' ตั้งจุดตรวจซ่อม-เช็ครถยนต์ช่วยปชช. นายกฯแวะจุด'อาชีวะ-ขนส่งเชียงใหม่' ตั้งจุดตรวจซ่อม-เช็ครถยนต์ช่วยปชช.
  • ปชช.ทำบุญตักบาตรโชติกา-ห่มผ้าพระธาตุเจดีย์หลวง-เป็นสิริมงคลรับปี๋ใหม่เมือง ปชช.ทำบุญตักบาตรโชติกา-ห่มผ้าพระธาตุเจดีย์หลวง-เป็นสิริมงคลรับปี๋ใหม่เมือง
  •  

Breaking News

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหารราชองครักษ์ในพระองค์ จำนวน 18 นาย

'แรปเปอร์มะกัน'ไม่จบ! เหยียดแรงยันห้องน้ำไทย ลั่นประเทศนี้ไร้ระบบบำบัดน้ำเสีย

'ไพศาล'ชี้แพทย์ 3 รายโดนฟันจริยธรรม! เสี่ยงคดี 157 ละเมิดอำนาจศาล

เช็กเลยพื้นที่ไหนบ้าง!! ปลดล็อกวันนี้ขาย‘เหล้า-เบียร์’ 5 วันพระใหญ่ หนุนปีเที่ยวไทย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved