ตร.สืบนครพนม ล่าข้ามจังหวัดจับหนุ่มฉายเดี่ยว ขนยาไอซ์ 500 กก. มูลค่า 500 ล้านบาท กลางสี่แยกไฟแดง

7 กรกฎาคม 2567 สืบเนื่อง ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (กก.สส.บก.ภ.จว.นครพนม) ตรวจยึดยาบ้าได้ประมาณ 9 ล้านเม็ด เมื่อปี 2566 สามารถขยายผลว่า เป็นนายทุนอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และมีเครือข่ายอยู่หลายจังหวัดแถบลุ่มแม่น้ำโขง จึงจับตาเฝ้าระวังอยู่เนืองๆ กระทั่งล่าสุดแหล่งข่าวรายงานว่า นายทุนเริ่มมีการเคลื่อนไหว คาดอาจลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ราชอาณาจักรไทย จึงสนธิกำลังกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ตั้งแต่ จ.บึงกาฬ,มุกดาหาร และสกลนคร

ด้าน จ.นครพนม โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ธนารัตน์ มีทองหลาง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม พ.ต.ท.ชัชวาลย์ รัชตะประกร รอง ผกก.สส.ภ.จว.นครพนม สั่งการให้  พ.ต.ท.จิรเดช อัตตพงษ์ รองผู้กำกับการฝ่ายปราบปราม (รอง ผกก.ป.) สภ.หลักศิลา อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ช่วยราชการ กก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม และ ร.ต.อ.บพิตร ชุ่มอภัย พร้อมกำลังพลชุดปฏิบัติการที่ 2 ร่วมปฏิบัติการกับหน่วยปราบปรามยาเสพติดนครพนม กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 (นปส.นครพนม กก.3 บก.ปส.2) ซุ่มเฝ้าตามจุดล่อแหลม

ต่อมาคืนวันที่ 6 กรกฎาคม 67 ตรวจพบรถกระบะตู้ทึบต้องสงสัย แล่นอยู่บนถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 22 สายนครพนม-สกลนคร ลักษณะคล้ายบรรทุกของหนัก จึงดำเนินการตรวจเช็คอย่างละเอียด ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถเช่า มีระบบ GPS นำทาง สันนิษฐานเบื้องต้น น่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายอยู่ในกระบะทึบ ตามที่แหล่งข่าวแจ้งมา พร้อมได้ขอกำลังตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร ตั้งจุดสกัดที่สี่แยกไฟแดงบ้านธาตุ ต.ธาตุนาเวง อ.เมืองสกลนคร โดยมีรถของเจ้าหน้าที่ขับไล่ตาม จากเขตนครพนมจนถึงพื้นที่สกลนคร

ก่อนถึงสี่แยกไฟแดงบ้านธาตุ ตำรวจส่งสัญญาณให้รถกระบะต้องสงสัยหยุด แต่คนขับกลับเร่งเครื่องหนี ชุดติดตามจึงขับไล่ต้อนให้ไปยังจุดสกัด โดยมีรถของเจ้าหน้าที่จอดปิดทางไว้ ทำให้รถยนต์คันดังกล่าว ไม่สามารถไปต่อได้ จึงถูกล้อมให้ลงมาตรงกลางสี่แยก พบว่าเป็นชายวัยฉกรรจ์ฉายเดี่ยวมาคนเดียว ทราบว่าชื่อนายสมศักดิ์ แสงใส อายุ 28 ปี เป็นชาว ต.เขิน อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ และเป็นบุคคลเป้าหมายมีชื่ออยู่ในแฟ้มอาชญากร

ในกระบะทึบพบกระสอบปุ๋ยสีขาว จำนวน 15 กระสอบ พบถุงสำหรับห่อใบชาจีนนับได้ 500 ห่อๆละ 1 กิโลกรัม เปิดออกดูเป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ไอซ์) จึงให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจความเข้มข้น ยืนยันว่าเป็นยาไอซ์ชัดเจน นอกจากนี้ยังมียาบ้าอีก 25 เม็ด นายสมศักดิ์ให้การว่ามีไว้เพื่อเสพเอง

จากการสอบสวนผู้ต้องหา สารภาพว่าเป็นเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติจริง เมื่อปี 2566 ได้ร่วมลำเลียงยาบ้าจากริมแม่น้ำโขง จำนวน 9 ล้านเม็ด แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดตรวจยึดได้ จึงหนีเอาตัวรอดกบดานอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะรับงานครั้งล่าสุด นายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สั่งให้ไปขับรถยนต์กระบะตู้ทึบที่ จ.บึงกาฬ โดยเช่ามาจากเต็นท์รถแห่งหนึ่ง ตนจึงเดินทางไปขับรถออกจากบึงกาฬ เข้ามายังพื้นที่ จ.นครพนม โดยนายทุนสั่งให้ไปรับยาไอซ์ที่บ้านหลังหนึ่ง อยู่ในพื้นที่บ้านกุดข้าวปุ้น ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม ซึ่งใช้เป็นสถานที่พักยา ต่อจากนั้นก็ขับรถวิ่งมาบนถนนสายนครพนม-สกลนคร เดินทางเข้า กทม. แต่ครั้งนี้ไม่รอดถูกจับได้ดังกล่าว

นายสมศักดิ์เล่าต่อว่าทำมาแล้วหลายครั้ง ค่าจ้างอยู่ที่จำนวนยาเสพติด ตั้งแต่ 5 หมื่นถึง 1 แสนบาท เงินที่ได้มาจะหมดไปกับการเที่ยวเตร่ ครั้งนี้ได้ค่าจ้าง 150,000 บาท เพราะมีของเยอะกว่าที่ผ่านมา

สำหรับมูลค่ายาไอซ์ที่จับได้ครั้งนี้  ราคาขายในประเทศไทยกิโลกรัมละ 1 แสนบาท 500 กก.อยู่ที่ราคา 500 ล้านบาท ถ้าไปถึงต่างประเทศจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว หลังสอบสวนผู้ต้องหาเสร็จเรียบร้อย ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันกับพวกจำหน่ายยาเสพติดให้โทษร้ายแรงประเภท 1 โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าฯ นำตัวและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 บช.ปส. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป