นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพพนังคอนกรีตป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ เกิดการทรุดตัวประมาณ 50 เมตร โดยมีนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน นายชุติมันต์ สกุลพราหมณ์ ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 11 กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่บริเวณสถานีสูบน้ำบางกรวย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า โครงสร้างพนังคอนกรีตแห่งนี้ ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2555 เกิดการชำรุดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ ประกอบกับระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับต่ำจึงเกิดการทรุดตัว ส่งผลให้ปัจจุบันน้ำสามารถไหลผ่านพนังคอนกรีตที่ทรุดตัวเข้าสู่คลองบางกรวย ตามกระแสน้ำขึ้น-ลงได้ตลอดเวลา จึงติดป้ายประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่ใช้สัญจรเดินผ่าน ทั้งนี้ ไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ประชาชนผู้อยู่อาศัยบริเวณดังกล่าวสามารถใช้เส้นทางอื่นสัญจรได้

“กระทรวงเกษตรฯ ไม่นิ่งนอนใจต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน จึงมอบหมายให้กรมชลประทาน ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสาเหตุที่พนังคอนกรีตเกิดการทรุดตัวพังเสียหาย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน สำหรับแนวทางการป้องกันความเดือดร้อนในระยะเร่งด่วน ขณะนี้กรมชลประทาน ได้ประสานขอความอนุเคราะห์กับเจ้าของที่บริเวณใกล้เคียง เพื่อก่อสร้างคันกั้นน้ำชั่วคราว ป้องกันช่วงที่น้ำขึ้น ไม่ให้ไหลเข้าชุมชน และในระยะที่ 2 เตรียมแผนสร้างทำนบหลังกำแพงกึ่งถาวร ป้องกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะหลากเข้าไปท่วมพื้นที่ในช่วงฤดูฝน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 30 วัน อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ข้อยุติจากการตรวจสอบหาสาเหตุการทรุดตัวแล้วนั้น ก็จะดำเนินโครงการสร้างพนังคอนกรีตให้แล้วเสร็จ และขอความร่วมมือผู้ใช้เรือไม่ใช้พนังคอนกรีตตลอดแนวในการผูกเรือเพื่อจอดเทียบ เนื่องจากอาจทำให้โครงสร้างของพนังคอนกรีตเกิดการชำรุดได้” นายประยูร กล่าว