nn วิพากษ์วิจารณ์กันหนักพอสมควรสำหรับประธานสภา กทม. คนใหม่ (ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา) หรือฉายาสุดฮอต“จอห์น คานที” เขาคนนี้เป็น สก.หน้าใหม่ถอดด้าม (ลูกครึ่งอินเดีย-ไทย) จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งว่ากันว่าถ้าเปรียบเป็นพระก็เท่ากับเป็นพระบวชใหม่เพียงแค่ครึ่งพรรษาเท่านั้น แต่กลับได้เป็นประธานสภา กทม.คนใหม่ แทน นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์สก.มีนบุรี พรรดเดียวกัน ท่ามกลางความสงสัยข้องใจกว้างขวางวันนี้พรรคเพื่อไทยกำลังคิดอะไรที่ส่ง สก.ครึ่งพรรษาเข้ารับตำแหน่งประธานสภาฯ หรือคิดจะแข่งกับพรรคก้าวไกล ซึ่งมีจุดยืนมั่นคงไม่โลเลหวังเอาตัวรอด ที่สำคัญเมื่อ จอห์น คานทีเหาะขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานสภาฯไปแล้ว ฝ่ายตรงกันข้ามก็สอนมวยทันทีเช่นกันชนิดไม่ไว้หน้า แถมยังเตือนและขู่ว่าให้ระวังอาจจะโดนมาตรา 157 แน่นอนคนที่ออกโรงลั่นกลองทุบโต๊ะอบรมเทศนาดังกล่าวก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพราะเขาคือ นภาพล จีระกุลนักกฎหมายเกรดเอ สก.ผู้คงขลังหลายสมัยเลือดเข้มข้นจากพรรคประชาธิปัตย์นั่นเอง ยิ่งกว่านั้นบรรดาข้าราชการน้อยใหญ่หลายคนของ กทม. ต่างก็มึนงงกับพรรคเพื่อไทยที่ผลักดัน สก.หน้าใหม่ครึ่งพรรษานั่งเก้าอี้ประธานสภาฯ เนื่องจาก สก.เก๋าเก่าๆ หลายคนช่ำชองกฎระเบียบ กฎเกณฑ์มีอยู่เพียบพรรคกลับไม่มอง ไม่สนับสนุน รวมถึงไม่ให้ สก.ใหม่ได้ฝึกวิทยายุทธ์เสียก่อน ก่อนนำทัพออกรบกับข้าศึก หรือปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นเพราะผู้นำพรรคเพื่อไทยก็เด็กไร้พรรษาประสงค์ต้องการคนหนุ่มสาวเป็นเสมือนตนที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยส่ายหัวกับคำพูดคำจาแบบเด็กๆ โดยลืมคนแก่พรรษาผู้เคยสร้างพรรคเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาชนิดถวายชีวิต คล้ายๆ มวลมหา “เสื้อแดง” ที่พรรคเพื่อไทยเมินมองไม่ให้ค่า จน “คนเสื้อแดง” พากันกระอักโลหิตสาปแช่งทั่วหน้า รวมถึงประกาศตัดขาดเพื่อไทยอย่างไม่เหลือใยในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

nn การปลุกเสก สก.ครึ่งพรรษาขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานสภาฯกทม.แม้จะเป็นวิถีทางที่ถูกต้อง แต่ควรเห็นหัวผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งฟากการเมืองและข้าราชการประจำด้วยว่า เขาเหล่านั้นจะคิดอย่างไร หรือรับได้กี่มากน้อย คนหนุ่มสาวเล่นการเมืองไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือไม่ดี แต่การผลักดัน สก.ใหม่นั่งเก้าอี้ประธานสภาฯวันนี้ยังไม่เหมาะสม แม้วิธีการได้มาจะถูกต้องทว่า ก็เหมือนมีเสียงเคาะออกมาจากใครบางคนกำหนดคนนั้นคนนี้ลักษณะไม่มองสิ่งแวดล้อมรอบข้าง 

nn แน่นอนทุกตำแหน่งเมื่อมาตามครรลองใครก็เป็นได้ แต่การนิมนต์พระครึ่งพรรษาเป็นเจ้าอาวาสย่อมเป็นปมที่น่าขบคิดไม่น้อยเกี่ยวกับความเหมาะสมนี่เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ของข้าราชการ “เสาชิงช้า” ที่มองสอดคล้องต้องกันกับคนเสื้อแดงผู้หมดใจและหันหลังให้เพื่อไทยที่ไร้สัจจะ ไร้จุดยืนประเภทเจ็บแล้วไม่จำกลุ่มหนึ่ง พร้อมตั้งคำถามลั่นพรรคเพื่อไทยกำลังคิดอะไร หรือเตรียมโละคนเก่าที่เคยพายเรือให้นั่ง พอถึงฝั่งแล้วถีบหัวส่ง...(มีต่อ) nn

ไผ่ฎำ