DSI คืนรถหรูที่ถูกโจรกรรมจากอังกฤษ 30 คัน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท พร้อมเร่งติดตามที่เหลืออีก 5 คัน
วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ที่บริเวณโถงกลางหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายมาร์ก กุดดิง (H.E Mr. Mark Gooding) ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย นายดันแคน เบอร์เรจ (Mr. Duncan Burrage) เจ้าหน้าที่ประสานงานระหว่างประเทศ ประจำกรุงเทพมหานคร หน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ แห่งสหราชอาณาจักร ((National Crime Agency (NCA)) นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานคดีพิเศษ พร้อมด้วยนายณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการพิเศษฝ่ายแผนและช่วยเหลือทางกฎหมายในฐานะรองโฆษกสำนัก งานอัยการสูงสุด ผู้แทนอัยการสูงสุด พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบ สวนคดีพิเศษ พันตำรวจโทพเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้า
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 78/2561 รวมทั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการ ร่วมสอบสวนได้ร่วมกันแถลงข่าวการส่งมอบรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษมายังประเทศไทย จำนวน 30 คัน เพื่อคืนแก่เจ้าของที่แท้จริงในประเทศอังกฤษ ผ่านการประสานความร่วมมือกับ National Crime Agency (NCA) และเร่งรัดติดตามรถยนต์อีก 5 คัน ที่ยังติดตามไม่พบส่งคืนเพิ่มเติม
สืบเนื่องช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2559 - 2560 ได้มีกลุ่มผู้กระทำความผิด นำโดย นายอินทระศักดิ์ หรือ บอย ยูนิตี้ ร่วมกับคนไทยและคนต่างชาติ ได้ไปเช่าซื้อรถยนต์หรูจากบริษัทต่าง ๆ ในประเทศอังกฤษ และมีการสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรประเทศอังกฤษว่าเป็นรถยนต์ใหม่ ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงเพื่อจะได้ส่งออกทางเครื่องบินจากสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอน ดอน ประเทศอังกฤษ มายังประเทศสิงคโปร์ และได้ส่งออกจากประเทศสิงคโปร์ทางเรือเข้ามาในประเทศไทยอีกทอดหนึ่ง มีทั้งสิ้น 35 คัน จำนวน 13 ยี่ห้อ ซึ่งล้วนแต่เป็นรถที่มีราคาแพง อาทิเช่น Porsche Lamborghini Range Rover ฯลฯ ซึ่งมีราคารวมในประเทศอังกฤษเกือบ 3 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือมากกว่า 100 ล้านบาทไทย ทางการของประเทศอังกฤษโดยหน่วยงาน National Crime Agency หรือ NCA ได้สืบทราบถึงขบวนการดังกล่าว จึงได้ประสานความร่วมมือมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ทำการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวและติดตามรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมกลับคืนประเทศอังกฤษ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงรับเรื่องไว้ทำการสอบสวนเป็น
คดีพิเศษที่ 78/2561
จากทางการสอบสวนพบว่ารถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมีการนำเข้ามาในประเทศไทยได้สำเร็จโดยกลุ่มผู้กระทำความผิดได้ใช้บริษัท 3 ราย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันเป็นผู้นำเข้า โดยนำเอกสารมาสำแดงและเสียภาษีต่อกรมศุลกากรเพื่อให้เป็นรถยนต์ที่ถูกต้อง สามารถนำไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้ จากนั้นมีการขายต่อไปให้ประชาชนทั่วไปในประเทศไทย
ต่อมาวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เปิดปฏิบัติการโดยใช้ชื่อว่า “Titanium Operation หรือ ปฏิบัติการไททาเนียม” โดยมี NCA ร่วมสังเกต การณ์ ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นจุดต้องสงสัยในกรุงเทพมหานคร ทั้งหมด 9 จุด ซึ่งจากการตรวจค้นดังกล่าว ขยายผลนำไปสู่การตรวจยึดรถยนต์ได้ทั้งสิ้น 30 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ยี่ห้อ BMW M4 จำนวน 5 คัน ยี่ห้อ Ford Mustang จำนวน 1 คัน ยี่ห้อ Honda GT Type-R จำนวน 1 คัน ยี่ห้อ Lamborghini Huracan Spyder จำนวน 1 คัน ยี่ห้อ Lexus จำนวน 1 คัน ยี่ห้อ Mercedes Benz จำนวน 8 คัน ยี่ห้อ Mini Cooper จำนวน 1 คัน ยี่ห้อ Nissan GTR จำนวน 3 คัน ยี่ห้อ Porsche จำนวน 5 คัน ยี่ห้อ Land Rover จำนวน 2 คัน และ Volkswagen GTI จำนวน 2 คัน และยังอยู่ระหว่างการติดตามรถยนต์อีก 5 คัน ประกอบด้วย
1.ยี่ห้อ Audi รุ่นQ7 S Line สีเทา เลขตัวถัง WAUZZZ4M4HD026469
2.ยี่ห้อ BMW รุ่น M4 สีบรอนซ์ เลขตัวถัง WBS3R92030K344987
3.ยี่ห้อ Ferrari สีขาว เลขตัวถัง ZFF79AMC000219631
4. ยี่ห้อ Porsche รุ่นBoxster 718 สีเหลือง เลขตัวถัง WP0ZZZ98ZHS211836
5.ยี่ห้อ LAND ROVER รุ่นRange Rover Sport สัดำ เลขตัวถัง SALWA2EE8HA132932
ทางคดีสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ได้ดำเนินคดีกับนายอินทระศักดิ์ กับพวก รวม 13 คน จากกระทำความผิด ดังนี้ ข้อหาที่1.ฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป และร่วมกันรับของโจรเพื่อค้ากำไร ตามประ มวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (7) และมาตรา 357 วรรคสอง
ข้อหาที่ 2. ฐานร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 วรรคหนึ่ง และมาตรา 268
ข้อหาที่ 3. ฐานร่วมกันหลีกเลี่ยงข้อกำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 วรรคหนึ่ง
ข้อหาที่ 4.ฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 5 (1) (2) (3) (4)
และข้อหาที่ 5. ฐานอั้งยี่หรือซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และมาตรา 210
โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 13 คน และเนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทำลงนอกราชอาณาจักร ผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งคดีในชั้นสอบสวน คือ อัยการสูงสุดต่อมาหลังจากที่อัยการสูงสุดพิจารณาสำนวนการสอบสวนแล้ว ได้มีคำสั่งให้จัดการของกลางรถยนต์ทั้ง 30 คัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 85 คือการให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงประชุมพิจารณาแล้ว เห็นว่าเมื่อพนักงานอัยการไม่ได้ขอริบย่อมมีเหตุที่จะคืนรถยนต์ของกลางให้กับผู้เสียหายชาวอังกฤษซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงและเป็นผู้มีสิทธิเรียกร้องขอคืนรถยนต์ทั้ง30คันในวันนี้
พันตำรวจโทพเยาว์ กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียหาย 2 ราย ที่เป็นผู้ครอบครองรถที่ถูกโจรกรรมจากประเทศ อังกฤษ ที่ฟ้องร้องบริษัทที่ขายรถให้ ล่าสุดเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลพิพากษาให้ บริษัทที่ขาย คืนเงินให้เต็มจำนวน ซึ่งเป็นคดีตัวอย่างที่ผู้ครอบครองรายอื่นสามารถไปดำเนินการฟ้องร้องได้เช่นกัน ส่วนกลุ่มผู้ครอบครองรถยนต์หรูในคดีอื่นที่นำเข้าโดยไม่ถูกต้อง นอกเหนือจากรถที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ ที่พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่งคืนรถกว่า 100 คัน โดยอนุญาตให้นำไปใช้แต่ห้ามซื้อขายนั้น ซึ่งต่อมาศาลมีคำพิพากษาให้ริบรถทั้งหมดคืนให้พนักงานสอบ สวน แต่ปรากฏว่ามีผู้เสียหายรายหนึ่งไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอความเห็นใจเนื่องจากไม่มีเจตนากระทำความผิด เป็นผู้เสียหายด้วยเช่นกัน ซึ่งต่อมาศาลจึงมีคำสั่งให้คืนรถคันนั้นให้แก่ผู้เสียหาย โดยพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษอายัดเล่มทะเบียนรถไว้แทน ถือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน แก่ผู้ครอบครองรถ ซึ่งผู้เสียหายกลุ่มนี้สามารถไปยื่นคำร้องต่อศาลได้เพราะมีคำพิพากษาเป็นแนวทางอยู่แล้ว ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ครอบครองรถยนต์อีก 5 คัน ให้ตรวจสอบรถในความครอบครองของท่าน หากพบเป็นรถในบัญชีดังกล่าวข้างต้น ให้ติดต่อกรมสอบ สวนคดีพิเศษ สายด่วน 1202 ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี