นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ว่าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 39,274 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) 51% ของความจุอ่างฯ รวมกันเฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์)มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 10,259 ล้าน ลบ.ม. (41% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) โดยขณะนี้มีการจัดสรรน้ำช่วงฤดูฝนปี’67 ทั้งประเทศไปแล้วกว่า 3,053 ล้าน ลบ.ม. (20% จากแผนฯ) เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 1,124 ล้าน ลบ.ม.(23% จากแผนฯ) ด้านผลการเพาะปลูกข้าวนาปี ทั้งประเทศมีพื้นที่เพาะปลูกแล้ว 1.25 ล้านไร่ เฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยามีการเพาะปลูกแล้วประมาณ 0.96 ล้านไร่ ซึ่งได้กำชับไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ บริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอเป็นไปตามแผนที่วางไว้

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้งเตือนเรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ประกาศแจ้งเตือนเรื่องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลากในหลายพื้นที่ จึงสั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้สามารถรองรับปริมาณน้ำฝน ควบคู่กับการตรวจสอบอาคารชลประทาน ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา กำจัดผักตบชวา/สิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอ และปฏิบัติตาม 10 มาตรการรับมือฝนปี 2567 ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบ

อย่างไรก็ดี กรมชลประทานได้บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนข้อมูลสถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมช่วยเหลือพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบ