สก.ยานนาวา ติดตามความคืบหน้าเปลี่ยนรถโดยสารเป็นรถพลังงานไฟฟ้า (EV)

นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตยานนาวา ได้ยื่นกระทู้ถามสด เรื่อง ขอทราบผลการดำเนินการเรื่องการกำหนดให้รถโดยสารประจำทางให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ในที่ประชุมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 4) ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยกล่าวว่า สืบเนื่องจากการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2567 เมื่อวันพุธที่3 มกราคม 2567 ตนได้ตั้งกระทู้ถามสด สอบถามผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเรื่องความคืบหน้าในการดำเนินการเกี่ยวกับการกำหนดให้รถโดยสารประจำทางเปลี่ยนเป็นรถโดยสารประจำทางที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยกรุงเทพมหานครได้มีหนังสือต่อคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางเสนอวาระเพื่อพิจารณาการกำหนดรถสาธารณะให้เป็นพลังงานสะอาด ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับทราบผลการดำเนินจากกรมการขนส่งทางบกในประเด็นดังกล่าว จึงขอสอบถามฝ่ายบริหารว่ากรมการขนส่งทางบกได้ตอบหนังสือฉบับดังกล่าวมาแล้วหรือไม่ มีความคืบหน้าหรือผลการดำเนินการเป็นอย่างไร และกรุงเทพมหานครได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองให้วินิจฉัยเรื่องนี้หรือไม่ และโครงการนี้จะแล้วเสร็จและได้ข้อสรุปเมื่อใด

นายวิษณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวชี้แจงว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี ได้ออกมาตรการมาตรฐานขับเคลื่อนเปลี่ยนรถสาธารณะ เช่น รถโดยสารเป็นรถพลังงานไฟฟ้า ตั้งแต่ 16 ตุลาคม2566 และกรุงเทพมหานครได้มีหนังสือขอให้อาศัยอำนาจตามกฎหมายออกมาตรการเปลี่ยนเครื่องยนต์รถโดยสารประจำทางเป็นรถไฟฟ้า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน2566 และต่อมาวันที่ 2 เมษายน 2567 กรุงเทพมหานครได้มีหนังสือติดตามความคืบหน้ามติคณะรัฐมนตรีไปยังกระทรวงคมนาคม เรื่องรถโดยสารประจำทางหมวด 1 และ 4 ว่าจะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าเมื่อใดแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ

ส่วนประเด็นการยื่นเรื่องต่อศาลปกครองให้วินิจฉัยเรื่องนี้หรือไม่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จะรับเรื่องไปพิจารณา เพราะข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ กรมการขนส่งทางบก สังกัดกระทรวงคมนาคม มีหน้าที่รับผิดชอบอยู่แล้ว กรุงเทพมหานครไม่มีอำนาจในการบังคับให้หน่วยงานดังกล่าวมาตอบ “ไม่สามารถตอบได้ว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จหรือได้ข้อสรุปเมื่อใด เรื่องนี้อยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร แต่จะรับข้อมูลนี้ไปพิจารณา เราควรหันกลับมาดูเรื่องที่อยู่ตามขอบเขตอำนาจของหน่วยงานของเราเองมากกว่า ทั้งในเรื่องของการเปลี่ยนรถขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า รถในสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งก็ต้องขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันผลักดันให้โครงการของกรุงเทพมหานครเองประสบความสำเร็จก่อน”