ป.ป.ช.สนธิกำลังร่วม 3ป.เข้าจับกุม อัยการคาสำนักงาน พร้อมเงินของกลาง 1.5 แสนบาทคาโต๊ะห้องทำงาน หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินวิ่งเต้นเคลียร์คดี ให้ผู้เสียหาย ด้านอสส.สั่งย้ายด่วนอัยการเมืองคอน เรียกรับเงินวิ่งเคลียร์คดี โฆษกอัยการ ชี้เป็นเรื่องร้ายเเรงกระทบภาพลักษณ์ต้องดำเนินการเฉียบขาด

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ท.นำกำลังเข้าจับกุมนายชาตินรินทร์ เกตุกำพล อายุ 53 ปี อัยการประจำสำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมของกลาง เงินสด150,000 บาท จับกุมได้ที่สำนักงานฯ

ทั้งนี้ นายชาตินรินทร์ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นพนักงานอัยการเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียกรับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่

การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากผู้ต้องหาซึ่งมีตำแหน่งเป็นอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรอง แต่กลับมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ จากผู้เสียหายรายหนึ่งที่ถูกดำเนินคดีในคดีลักทรัพย์โฉนดที่ดิน โดยอ้างว่า สามารถวิ่งเต้นเคลียร์คดีให้กับผู้เสียหายได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการ 200,000 บาท แต่ด้วยความที่ผู้เสียหายเกรงว่า หากไม่ยอมทำตามจะทำให้ถูกกลั่นแกล้ง เนื่องจากคดีของผู้เสียหายปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของชั้นอัยการ จึงตัดสินใจยอมจ่ายเงินงวดแรกให้ก่อน 50,000 บาท จากนั้น จึงรีบนำเรื่องดังกล่าว เข้าปรึกษากับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จนมีการบูรณาการกำลังร่วมกับทางตำรวจ บก.ปปป.และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.รวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมวางแผนเข้าจับกุมในวันเดียวกันนี้ ซึ่งได้นัดหมายเพื่อจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 150,000 บาท จนนำมาสู่การเข้าจับกุมพร้อมเงินของกลางดังกล่าว

โดยทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าตรวจค้นเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายในห้องทำงานของนายชาตินรินทร์ ส่วนจากการสอบปากคำเบื้องต้น นายชาตินรินทร์ ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะมีการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งที่ บก.ปปป.