ตามนโยบายเรียนดี มีความสุขของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุรุสภาในฐานะสภาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา มุ่งเน้นการได้มาซึ่งครูดี มีคุณภาพ เข้าสู่ระบบการศึกษา โดยได้ดำเนินการจัดสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ครั้งที่ 2/2567 จำนวน 8 รอบ ใน 4 วัน ระหว่างวันที่ 17-18 สิงหาคม 2567 และวันที่ 31 สิงหาคม-1 กันยายน 2567 มีผู้เข้ารับการทดสอบฯ จำนวนทั้งสิ้น 53,541 คน ใน 15 จังหวัด 18 สนามสอบทั่วประเทศ และการจัดทดสอบครั้งนี้เป็นการจัดทดสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้รับเข้าการทดสอบสามารถเข้าสอบได้อย่างทั่วถึง ลดภาระทั้งด้านเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ารับการทดสอบฯ การดำเนินการจัดการทดสอบฯ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่คุรุสภากำหนด และมีการกำกับติดตามการจัดการทดสอบในทุกสนามสอบ

ในการนี้ ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา พร้อมด้วย ผศ.ดร.พลรพี ทุมมาพันธ์ รองเลขาธิการคุรุสภา รศ.ดร.ทิวัตถ์ มณีโชติ ดร.ประทีป ปะสัน คณะอนุกรรมการอำนวยการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครูรายวิชาครู ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2567 ณ สนามสอบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า สนามสอบมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ถือเป็นสนามสอบที่ใหญ่ที่สุดจากจำนวน 18 สนามสอบทั่วประเทศ มีผู้เข้ารับการทดสอบฯ จำนวน 8,412 คน จากการตรวจเยี่ยมสนามสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูในวันนี้ พบว่าการดำเนินการจัดการทดสอบฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สนามสอบดำเนินการได้เป็นอย่างดี รวมถึงการบริหารจัดการดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้ารับการทดสอบฯ ก็ทำได้รวดเร็วและเรียบร้อยทุกขั้นตอน ทั้งการลงทะเบียนและการบริหารจัดการห้องทดสอบ และที่สำคัญนั้นไม่พบปัญหาการทุจริตใดๆ ซึ่งมั่นใจได้ว่าการจัดสอบครั้งนี้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในทุกกระบวนการ

ขณะเดียวกัน ดร.สุดา สุขอ่ำ รองเลขาธิการคุรุสภา ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามสอบมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ผลปรากฏว่า การดำเนินการจัดการทดสอบฯเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเช่นเดียวกัน

สำหรับการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูฯ ครั้งที่2/2567 คุรุสภาได้จัดขึ้นใน 15 จังหวัด18 สนามสอบทั่วประเทศ ประกอบด้วยสนามสอบภาคเหนือ 4 แห่ง จำนวน11,363 คน แบ่งเป็น มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย 2,385 คน, มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 4,577 คน, มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์1,440 คน และมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง 2,961 คน 

สนามสอบภาคกลาง 6 แห่งจำนวน 24,888 คน แบ่งเป็น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1,883 คน,มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 8,412 คน,มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 7,247 คน, มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี 1,771 คน, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 2,318 คน และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 3,257 คน

สนามสอบภาคตะวันออก 1 แห่ง จำนวน 2,866 คน ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี สนามสอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 แห่ง จำนวน 6,633 คน แบ่งเป็น มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 1,000 คน, มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ 1,478 คน, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ในเมือง) 1,880 คน,มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (สามพร้าว) 1,237 คน และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี 1,038 คน 

สนามสอบภาคใต้ 3 แห่งจำนวน 7,791 คน แบ่งเป็น มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 2,240 คน, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 2,515 คน และ มหาวิทยาลัยทักษิณ 3,036 คน ในจำนวนทั้งหมด แบ่งเป็นผู้เข้าสอบทั้งชาวไทย 53,117 คน,ชาวต่างประเทศ 119 คน, ชาวต่างด้าว246 คน และไม่มีสัญชาติ 59 คน

ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวต่อไปว่า ในการจัดทดสอบครั้งที่ 2/2567 นี้คุรุสภาได้ให้ความสำคัญแก่ผู้เข้ารับการทดสอบฯ ที่มีความต้องการพิเศษให้ได้รับการอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม จากการรายงานพบว่าทุกสนามสอบทั่วประเทศ มีพระภิกษุสงฆ์ 211 คน ตั้งครรภ์ 86 คน บกพร่องทางสายตา 54 คน บกพร่องทางร่างกาย 40 คน และบกพร่องทางได้ยิน 31 คนรวมผู้มีความต้องการพิเศษ ทั้งสิ้น422 คน ซึ่งทุกสนามสอบได้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าสอบได้อย่างเพียงพอและเหมาะสม เป็นไปตามมาตรฐานการทดสอบฯที่คุรุสภากำหนด

“เมื่อเสร็จสิ้นการทดสอบทั้ง 8 รอบแล้ว คุรุสภาจะประกาศผลการทดสอบฯ ในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ผ่านทางเว็บไซต์คุรุสภา https://www.ksp.or.th และ https://ksp67-2.thaijobjob.com และหากประสงค์ที่จะพิมพ์ ผลการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูเป็นรายบุคคล ให้ผู้เข้ารับการทดสอบดำเนินการด้วยตนเองผ่านระบบ “KSP Self-Service” ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา” เลขาธิการคุรุสภา
กล่าว