ไข้เลือดออกพุ่ง  ลามทั่วประเทศ  8 เดือนป่วยแล้ว  6.3 หมื่น-ตาย 47

ไข้เลือดออกพุ่ง ลามทั่วประเทศ 8 เดือนป่วยแล้ว 6.3 หมื่น-ตาย 47

วันพุธ ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 06.10 น.
Tag :

ไข้เลือดออกพุ่ง

ลามทั่วประเทศ

8 เดือนป่วยแล้ว

6.3 หมื่น-ตาย 47

 

แพทย์เตือนให้ระวังโรคไข้เลือดออกหลัง 8 เดือนประเทศไทยพบผู้ป่วย 63,350 ราย เสียชีวิต47 ศพ ส่วน 7 จังหวัดใต้พบผู้ป่วย 7,124 รายเสียชีวิต 5ราย ชี้มีโอกาสเป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ระบาดได้ทั้งปี แนะประชาชน “อย่าให้ยุงกัด อย่าให้ยุงเกิด”

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออก วันที่ 1 มกราคม-14 สิงหาคม 2567 (ข้อมูลจากระบบเฝ้าระวัง Digital 506 กรมควบคุมโรค) ประเทศไทยพบผู้ป่วย 63,350 ราย เสียชีวิต 47 ราย สำหรับเขตสุขภาพที่ 12 พบผู้ป่วย 7,124 ราย เสียชีวิต 5 ราย (จังหวัดสงขลา 2 ราย, ยะลา 1 ราย, ปัตตานี 1 ราย และพัทลุง 1 ราย) จังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงสุดคือจังหวัดสงขลา 2,623 ราย รองลงมาคือ ปัตตานี 1,090 ราย, พัทลุง 1,030 ราย, ยะลา 816 ราย, นราธิวาส 792 ราย, ตรัง 639 ราย และสตูล 134 ราย


นายแพทย์เฉลิมพลเน้นย้ำให้ประชาชนสังเกตอาการตนเองและคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ไข้สูงลอย 2-7 วัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หน้าแดง ตาแดง และหลังจากไข้ลด มีอาการคลื่นไส้ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีเลือดออกตามไรฟัน มีผื่นจ้ำเลือดใต้ผิวหนังบริเวณท้องแขน ขา ข้อพับ หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง และเน้นย้ำ ไม่ซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาแก้ปวดกลุ่มไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนก เป็นต้น เพราะอาจทำให้มีอาการแทรกซ้อนรุนแรงและเลือดออกมากขึ้น ส่งผลให้เสียชีวิตได้

สำหรับร้านขายยาและคลินิก หากผู้ป่วยมีอาการเข้าข่าย ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นโรคไข้เลือดออก ไม่ควรจ่ายยาแก้ปวดกลุ่มไม่ใช่สเตียรอยด์ และแนะให้ผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลทันที

นายแพทย์เฉลิมพล ยังได้แนะนำประชาชน 2 อย่าง คือ “อย่าให้ยุงกัด อย่าให้ยุงเกิด” อย่าให้ยุงกัดด้วยการนอนกางมุ้งหรืออยู่ในห้องติดมุ้งลวด ใส่เสื้อผ้ามิดชิด ทาโลชั่นกันยุง ใช้ยาจุดกันยุง และอย่าให้ยุงเกิดด้วยมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ได้แก่ 1) เก็บบ้านให้ปลอดโปร่งไม่ให้ยุงลายเกาะพัก จัดเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ให้เป็นระเบียบ 2) เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เช่น เศษภาชนะ เศษวัสดุที่ทิ้งไว้รอบๆ บ้าน เช่น กะลา กระป๋อง ถุงพลาสติก ควรเก็บทิ้งหรือฝังดินไม่ให้มีน้ำขัง ยางรถยนต์เก่า สามารถดัดแปลงนำมาใช้ประโยชน์หรือขายให้สถานประกอบการ และ 3) เก็บน้ำ ภาชนะบรรจุน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคปิดฝาให้มิดชิดเพื่อไม่ให้ยุงลายมาวางไข่ และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ สามารถป้องกันได้ทั้งโรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลายและโรคติดเชื้อไวรัสซิกาหากประชาชนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก หรือโรคติดต่ออื่นๆ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top