อัยการฟ้องแล้ว หมอเหรียญทอง ลูกชาย กับพวก ตบเด็กวัย14 อัดบุหรี่ในรพ.มงกุฎวัฒนะ  บังคับเเก้ผ้าเดินออกนอก รพ. เรียกเงินค่าปรับ5 พันเด็กไม่มีเงิน ยึดโทรศัพท์ เจ้าตัวให้การปฏิเสธ ศาลให้ประกัน คนละ1.6 แสนนัดตรวจหลักฐาน 9 ธันวาคมนี้

วันที่ 21 สิงหาคม 2567 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 4 นำตัว นพ.หรือนายเหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ  ,นพ.หรือนายเหรียญตรา แน่นหนา บุตรชาย ,นางอรพรรณ ระหงษ์ ,นายวุฒิภัทร ทองพรม มายื่นฟ้องเป็นจำเลยที่ 1-4 ต่อศาลในความผิดฐาน ร่วมกันกรรโชก, ทำร้ายร่างกายผู้อื่น, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, กระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแกข่มเหง คุกคาม หรือให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ, กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก

โดยอัยการโจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 จำเลยทั้งสี่ได้ร่วมกันกระทำความผิดโดยบังอาจร่วมกันข่มขืนใจเด็กชาย เอ (นามสมติ)ผู้เสียหาย อายุ 14 ปีเศษให้ยอมให้หรือยอมจะให้จำเลยทั้งสี่ได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยบังคับให้ผู้เสียหายชำระเงินค่าปรับเรื่องผู้เสียหายสูบบุหรี่ภายใน รพ.มงกุฎวัฒนะ จำนวน 5 พันบาทให้แก่พวกจำเลย ด้วยการขู่เข็ญว่าหากไม่ชำระเงินจำนวนดังกล่าว จำเลยทั้งสี่จะยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหายไว้เป็นประกัน อันเป็นการขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อทรัพย์สินของผู้เสียหาย จนผู้เสียหายเกิดความกลัว แต่เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีเงินจำนวนดังกล่าว จำเลยทั้งสี่จึงยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหายไว้เป็นประกัน โดยผู้เสียหายไม่ยินยอม

ทั้งนี้ จำเลยที่ 1 ได้บังอาจทำร้ายร่างกายเด็กชายเอ ผู้เสียหาย โดยตบไปที่ใบหน้าของผู้เสียหายหลายครั้ง จากนั้นจับแขนผู้เสียหายจูงออกจากห้องโถง อาคาร 3 รพ.มงกุฎวัฒนะไปข้างนอกอาคารบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน ขณะเดินออกนอกอาคารนั้น จำเลยที่ 1 ตบใบหน้าผู้เสียหายอย่างแรงอีกครั้ง  เป็นเหตุให้ผู้เสียหายร้องไห้และได้กล่าวขอโทษจำเลยที่ 1 เมื่อถึงบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน ผู้เสียหายนั่งลงและยกมือไหว้ขอโทษ แต่จำเลยที่ 1 ยังเตะหน้าและบริเวณหลังและใช้เข่ากระแทกที่บริเวณหางคิ้วข้างซ้ายของผู้เสียหายอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็ก เป็นเหตุให้ผู้เสียหายเป็นอันตรายแก่กาย มีบาดแผลถลอกบริเวณคิ้วซ้ายและหางตาซ้าย  มีรอยช้ำรอบบาดแผล  และมีรอยฟกช้ำบริเวณสะบักข้างซ้าย 

ภายหลังเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 ได้บังอาจข่มขืนใจกระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย เด็กชายเอ.นามสมมุติ ผู้เสียหายโดยจำเลยที่ 1 บังคับให้ผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ออกทั้งหมด โดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ จนผู้เสียหายผู้ถูกข่มขืนใจต้องยอมถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ออกจนหมดอยู่ในสภาพเปลือยกาย จากนั้นจำเลยที่ 1 บังคับให้ผู้เสียหายเดินไปจากโรงรพ.มงกุฎวัฒนะไปตามถนนแจ้งวัฒนะ  อันเป็นการเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รังแก ข่มเหง คุกคาม หรือให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ เป็นการกระทำทารุณต่อร่างกายหรือจิตใจผู้เสียหาย

เหตุตามฟ้อง เกิดที่รพ.มงกุฎวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

การกระทำเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58, 83, 90, 91, 279 วรรคหนึ่งและวรรคสาม, 295, 309, 337, 397  พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2558 มาตรา 8 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ.2560 มาตรา 4  พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ.2562 มาตรา 9  พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 4, 26, 78  และขอใหศาลบวกโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1015/2565 หมายเลขแดงที่ อ.2008/2566 ของศาลอาญา เข้ากับโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ด้วย

ต่อมาเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2567 จำเลยทั้งสี ทยอย เข้าพบพนักงานสอบสวน รับทราบข้อกล่าวหา ทำการสอบสวนแล้ว

ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ บางข้อหา แต่ ให้การรับสารภาพบางข้อหา 

ก่อนคดีนี้ จำเลยที่ 1 เคยต้องคำพิพากษาของศาลอาญา เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1015/2565 หมายเลขแดงที่ อ.2008/2566 โดยศาลพิพากษาให้จำคุก 2 ปีปรับ 2 เเสนบาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี จำเลยที่ 1 กลับมากระทำความผิดในคดีนี้ อันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือลหุโทษ ภายในเวลาที่ศาลรอการลงโทษไว้ในคดีดังกล่าว ปรากฏตามสำเนาประวัติการกระทำความผิด กองทะเบียนประวัติอาชญากรท้ายฟ้องหากจำเลยทั้งสี่ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล

ศาลประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ.2465/2567 โดยอ่านเเละอธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง จำเลยทั้งสี่ฟังจนเข้าใจแล้วสอบถามปากฏว่า จำเลยทั้งสี่แถลงให้การปฏิเสธ  ขอต่อสู้คดี
ศาลจึงนัดตรวจหลักฐาน ทั้ง2ฝ่ายวันที่ 9 ธันวาคมนี้ เวลา 09.00 น.

ต่อมาจำเลยทั้งสี่ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างพิจารณา  ศาลพิจารณาเเล้ว อนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสี่ โดยตีราคาประกันคนละ 160,000 บาท.