วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘ป.ป.ช.’ชี้มูล‘อดีตผู้การตำรวจน้ำ- 2 รองผบก.ยาเสพติด’ ร่ำรวยผิดปกติร่วมร้อยล้าน

‘ป.ป.ช.’ชี้มูล‘อดีตผู้การตำรวจน้ำ- 2 รองผบก.ยาเสพติด’ ร่ำรวยผิดปกติร่วมร้อยล้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 11.56 น.
Tag : ชี้มูล ปปช รองผบก. ร่ำรวยผิดปกติ อดีตผู้การตำรวจน้ำ
  •  

‘ป.ป.ช.’ชี้มูล‘อดีตผู้การตำรวจน้ำ- 2 รองผบก.ยาเสพติด’ ร่ำรวยผิดปกติร่วมร้อยล้าน

22 สิงหาคม 2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีร่ำรวยผิดปกติ รวมจำนวน 3 เรื่อง ดังนี้ 


เรื่องที่ 1 กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวน กรณีกล่าวหา นายบุญสืบ ไพรเถื่อน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจน้ำ กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่ำรวยผิดปกติ

ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า นายบุญสืบ ไพรเถื่อน ขณะดำรงตำแหน่งรักษาการแทนในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจน้ำ และตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจน้ำ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ สืบเนื่องจากการเรียกรับเงิน จากผู้ลักลอบจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงโดยผิดกฎหมาย และผู้ประกอบการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงหลายรายเป็นรายเดือน โดยมีการนำเงินฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตนและคู่สมรส และมีการนำเงินไปชำระเบี้ยประกันชีวิต รวมจำนวน 36,770,717.76 บาท ดังนี้

1.บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสีลม ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายบุญสืบ ไพรเถื่อน จำนวน 10 รายการ รวมเป็นเงิน 2,369,455 บาท

2.บัญชีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาประชานิเวศน์ 1 ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายบุญสืบ ไพรเถื่อน จำนวน 9 รายการ รวมเป็นเงิน 2,503,750 บาท

3.บัญชีธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขามาบุญครอง ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายบุญสืบ ไพรเถื่อน จำนวน 9 รายการ รวมเป็นเงิน 1,400,000 บาท

4.บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาประชานิเวศน์ 1 ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นางจุฑามาส ไพรเถื่อน คู่สมรส จำนวน 128 รายการ รวมเป็นเงิน 23,456,162.76 บาท

5.บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาประชานิเวศน์ 1 ประเภทประจำ 3 เดือน ชื่อบัญชี นางจุฑามาส ไพรเถื่อน คู่สมรส จำนวน 1 รายการ จำนวน 5,000,000 บาท

6.เงินที่ชำระเบี้ยประกันชีวิตกับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  จำนวน 2,041,350 บาท

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ นายบุญสืบ ไพรเถื่อน ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 36,770,717.76 บาท

ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัย พร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อสั่งลงโทษไล่ออกภายในหกสิบวัน โดยให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม

หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 125

เรื่องที่ 2 กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวน กรณีกล่าวหา พันตำรวจเอก นพดล นิลมานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการ กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่ำรวยผิดปกติ

ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า ในปี พ.ศ. 2556 - 2559 พันตำรวจเอก นพดล  นิลมานนท์ ขณะดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการ กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้นำเงินสินบนรางวัลนำจับคดียาเสพติดที่เกิดจากการทำเรื่องขอเบิกโดยปลอมสายลับหรือผู้นำจับ รวม 44 คดี ฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตนเอง จำนวน 61,652,888 บาท และมีทรัพย์สินซึ่งไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่ได้รับ จำนวน 10,786,000 บาท เป็นเงินที่นำฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตนเอง จำนวน 17 รายการ รวมเป็นเงิน 3,486,000 บาท เงินที่นำไปซื้อบ้านพร้อมที่ดิน ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย จำนวน 6,000,000 บาท และที่ดิน ตำบลท่าสาย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย จำนวน 2 แปลง รวมเป็นเงิน 1,300,000 บาท

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ พันตำรวจเอก นพดล  นิลมานนท์ ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 72,438,888 บาท

ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัย พร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อสั่งลงโทษไล่ออกภายในหกสิบวัน โดยให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม

หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 125

เรื่องที่ 3 กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวน กรณีกล่าวหา พันตำรวจเอกหญิง เพชราภรณ์ มงพลเมือง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการ กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่ำรวยผิดปกติ

ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า ในปี พ.ศ. 2558 – 2560 พันตำรวจเอกหญิง เพชราภรณ์  มงพลเมือง ขณะดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการ กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด มีรายการฝากเงินสดเข้าบัญชีเงินฝากหลายรายการ โดยพันตำรวจเอกหญิง เพชราภรณ์ ชี้แจงว่าได้นำทองคำที่ซื้อสะสมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 – 2548 น้ำหนักทองรวม 120 บาทเศษ ทยอยขายในระหว่างปี พ.ศ. 2554 – 2555 แล้วนำเงินที่ได้ไปชำระค่าที่ดิน ตำบลสันผักหวาน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2 แปลง รวมเป็นเงิน 2,200,000 บาท และชำระหนี้กับธนาคาร จำนวน 3 งวด รวมเป็นเงิน 713,200 บาท แต่จากการตรวจสอบรายได้ของพันตำรวจเอกหญิง เพชราภรณ์ ช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2538 – 2548 มีรายได้ไม่เพียงพอที่จะซื้อทองคําสะสมได้

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ พันตำรวจเอกหญิง เพชราภรณ์  มงพลเมือง ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 2,913,200 บาท

ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัย พร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อสั่งลงโทษไล่ออกภายในหกสิบวัน โดยให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม

หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 125

อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ป.ป.ช.รับพิจารณาคดีรถสองแถวขึ้น \'ภูทอก\' ไม่ส่งเงินเข้ารัฐ ป.ป.ช.รับพิจารณาคดีรถสองแถวขึ้น 'ภูทอก' ไม่ส่งเงินเข้ารัฐ
  • \'DSI\'ขนลังสำนวนฮั้วประมูลสัญญาตึก สตง.ส่ง\'ป.ป.ช.\' ไต่สวนฟัน\'บิ๊ก สตง.-70 ขรก.-6 ผู้บริหาร\' 'DSI'ขนลังสำนวนฮั้วประมูลสัญญาตึก สตง.ส่ง'ป.ป.ช.' ไต่สวนฟัน'บิ๊ก สตง.-70 ขรก.-6 ผู้บริหาร'
  • ‘ป.ป.ช.’ชี้มูล 3 อดีตข้าราชการ‘สำนักพุทธฯ’ ร่ำรวยผิดปกติเฉียด 50 ล้าน ‘ป.ป.ช.’ชี้มูล 3 อดีตข้าราชการ‘สำนักพุทธฯ’ ร่ำรวยผิดปกติเฉียด 50 ล้าน
  • ‘DSI’ส่งสำนวนถึง‘ป.ป.ช.’ ฟัน‘จนท.รัฐ’เอี่ยวเครือข่ายเว็บพนัน‘แม่มนต์’ ‘DSI’ส่งสำนวนถึง‘ป.ป.ช.’ ฟัน‘จนท.รัฐ’เอี่ยวเครือข่ายเว็บพนัน‘แม่มนต์’
  • ‘ก.ตร.’ยัน แต่งตั้ง‘รอง ผบก.’ขึ้นตามอาวุโส ‘ก.ตร.’ยัน แต่งตั้ง‘รอง ผบก.’ขึ้นตามอาวุโส
  • ป.ป.ช.สั่งฟันอดีตนายกเทศมนตรีราชบุรี ร่ำรวยผิดปกติ ชงยึดทรัพย์ 231 ล้าน ป.ป.ช.สั่งฟันอดีตนายกเทศมนตรีราชบุรี ร่ำรวยผิดปกติ ชงยึดทรัพย์ 231 ล้าน
  •  

Breaking News

ระวังภัยคุกคาม! ทอ.พบโดรนบินสำรวจพื้นที่ทหาร เตือนผู้กระทำผิดมีโทษคุกตลอดชีวิต

‘หมอวรงค์’ จวก ‘ภูมิธรรม’ หน่อมแน้ม-น่ารำคาญเป็นหุ่นเชิด ปลุกคนไทย-กัมพูชา ไล่ระบอบ‘ทักษิณ-ฮุนเซน’

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารหาญ 5 นาย ปูนบำเหน็จ-ขอพระราชยศทหารเลื่อนขั้น อย่างสมเกียรติ

’กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน‘ ร่วมไว้อาลัยรำลึกสดุดี 15 ทหารกล้า พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved