เมื่อวันทึ่ 29 สิงหาคม 2567 ที่หอประชุมเทศบาลตำบลหงาว อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ร่วมกับ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทาน จำนวน 1,000 ชุด มอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่อำเภอเทิง อำเภอขุนตาล และอำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย โดยมี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดเชียงราย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย นายอำเภอ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ร่วมพิธี

จากนั้น องคมนตรี และคณะ ได้ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยือนและมอบถุงยังชีพให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเทิง อำเภอขุนตาล และอำเภอพญาเม็งราย โดยจังหวัดเชียงราย มีฝนตกตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนของราษฎร และพื้นที่การเกษตร ในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย รวมทั้งสิ้น 18 อำเภอ 83 ตำบล 649 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 29,186 ครัวเรือน

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย ได้บูรณาการหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสถาบันการศึกษา สภาวิศกร ชมรมช่าง ในการช่วยเหลือซ่อมแชมบ้านเรือน และสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับ ความเสียหายให้กลับสู่สภาพเดิม และจัดหาสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพ ส่วนการช่วยเหลือด้านการเกษตรนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายทั้งหมด เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วนต่อไป

โอกาสนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่มอบสิ่งของพระราชทานให้แก่กลุ่มเปราะบางจำนวน 9 จุด ของอำเภอเทิง 3 จุด ได้แก่ นายเทพ หมอเก่ง ตำบลหงาว นางฟองจันทร์ ถิรารางค์กูล ตำบลหงาว และนางคำเอ้ย ผ่องใส ตำบลหงาว อำเภอขุนตาล 3 จุด ได้แก่ นางบัวคำ หลักคำ ตำบลต้า นางทองดี คิดดี ตำบลต้า และนายประสิทธิ์ แก้วมาไกล ตำบลป่าตาล และอำเภอพญาเม็งราย 3 จุด ได้แก่ นายเฉลิม เร็วสูงเนิน ตำบลเม็งราย นายบรรจง บุณราญลือ ตำบลเม็งราย และนางจันใด ประเสริฐสังข์ ตำบลเม็งราย สร้างความปราบปลื้มปีติยินดีแก่ทุกครอบครัว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ที่ได้ทรงห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ อย่างหาที่สุดมิได้