นายอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ อำเภอแม่สะเรียง ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้กับราษฎรผู้ประสบเหตุอุทกภัยบ้านท่าตาฝั่ง ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง ที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำสาละวินท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร
วันที่ 13 ก.ย.67 เมื่อเวลา 08.00 น.โดยการอำนวยการของนายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบความเดือดร้อน จากสถานการณ์แม่น้ำสาละวินเอ่อล้น ท่วมบ้านเรือนริมฝั่งเสียหาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ยวม ผู้ใหญ่บ้านท่าตาฝั่ง ผู้แทนหน่วยงานสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ บ้านท่าตาฝั่ง ม.7 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
โดยช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำสาละวินมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นทำให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ตลอดสองฝั่งแม่น้ำสาละวินได้รับผลกระทบ โดยช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมามีปริมาณน้ำเพิ่มสูงมากขึ้นจากเดิมมีราษฎรได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมประมาณ 12 หลังคาเรือนและช่วงเช้าของวันนี้ได้รับผลกระทบเพิ่มเป็น 20 หลังคาเรือน โดยผู้ใหญ่บ้านท่าตาฝั่งและเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้ร่วมกันลำเลียงสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นของราษฎรไปไว้ในที่สูง
นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียงได้เน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาความปลอดภัยในชีวิตของพี่ น้องประชาชนเป็นสำคัญ รวมถึงการดูแลช่วยเหลือการอพยพโยกย้ายประชาชนไปอยู่ในที่ที่มีความปลอดภัย โดยเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีนายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน/นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีความห่วงใยและได้ส่งถุงยังชีพของเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอนมามอบให้แก่ประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนในพื้นที่ เนื่องจากในขณะนี้เส้นทางมายังบ้านท่าตาฝั่งถูกตัดขาด น้ำท่วมสูงปิดทางสัญจร ทำให้ราษฎรไม่สามารถเดินทางออกไปยังภายนอกได้ สามารถเดินทางได้เฉพาะทางเรือเท่านั้น
โดยอำเภอแม่สะเรียงร่วมกับเทศบาลตำบลแม่ยวมได้นำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีพชั่วคราวบรรจุในถุงยังชีพ ซึ่งประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม มอบให้แก่ราษฎรที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น จำนวน 20 ชุด จากนั้นจะดำเนินการสำรวจบ้านเรือนที่เสียหาย เพื่อเสนอส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ และสนับสนุนงบประมาณในการซ่อมแซมอาคาร บ้านเรือน โดยมีผู้ใหญ่บ้านท่าตาฝั่ง และเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจกรมพรานที่ 36 ซึ่งอยู่ในพื้นที่เป็นกำลังหลักในการช่วยเหลือ
สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันปริมาณน้ำในแม่น้ำสาละวินเริ่มคงที่แล้ว ส่วนถนนที่เป็นเส้นทางไปยังบ้านท่าตาฝั่งบางจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ทั้งนี้ นายอำเภอแม่สะเรียงขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนตลอดช่วงระยะเวลาที่ประสบความเดือดร้อนที่ผ่านมา โดยเฉพาะหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ที่ได้สนับสนุนกำลังพล ตลอดจนยานพาหนะในการเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน
จากการคาดการณ์สถานการณ์มวลน้ำของ สทนช. พบว่ากลุ่มฝนลดลงและมวลน้ำสูงสุดได้มาถึงสบเมยแล้ว ดังนั้น ในพื้นที่สบเมย แม่สะเรียง ระดับน้ำในสาละวินจะคงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในระดับไม่เกิน 50 ซม.และคงทรงตัวแบบนี้อีกประมาณ3 วัน จนถึงประมาณวันที่15 กันยายน 2567 ปริมาณน้ำในแม่น้ำสาละวินจะเริ่มลดลง
จากแผนที่คาดการณ์กลุ่มฝน พบว่าบริเวณทางตอนใต้ของจีน และตะวันออกประเทศเมียนมาใกล้กับบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอนของประเทศไทย มีปริมาณฝนตกอย่างต่อเนื่องปริมาณลำน้ำสาขาสูงขึ้นส่งผลให้แม่น้ำสาละวินมีปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้นเกิดผลกระทบต่อชุมชนริมตลิ่ง ในเขตประเทศไทย ที่ได้รับผลกระทบ เช่น บ้านท่าตาฝั่ง ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง และบ้านแม่สามแลบ บ้านสบเมย หย่อมบ้านพะละอึ ตำบลสบเมย อำเภอสบเมย คาดการณ์ฝนใน 7 วันข้างหน้ามีปริมาณฝนลดลงหากไม่มีปริมาณฝนมาเติมคาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในสัปดาห์นี้ แต่พื้นที่เสี่ยงยังเฝ้าระวัง อย่างต่อเนื่อง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี