ผู้ว่าฯนครพนมนำทีมลุยตรวจความพร้อมเรือข้ามแม่น้ำโขงไทย-ลาว เจอทั้งลมพายุฝนกระหน่ำอย่างรุนแรงน้ำโขงเกิดคลื่นยักษ์คล้ายทะเลคลั่ง จนเรือข้ามฟากไทย-ลาวต้องหยุดบริการชั่วคราวจนฝนซา คลื่นในแม่น้ำโขงสงบ พร้อมกำชับผู้ประกอบการเดินเรือ ระมัดระวังเพราะน้ำโขงเชี่ยวกราก

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 16.30 น. นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอเมืองนครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม เดินทางไปยังท่าเทียบเรือการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองนครพนม หรือท่าด่าน ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อตรวจสอบความพร้อมของเรือโดยสารข้ามฟากไทย-ลาว (นครพนม-ท่าแขก) โดยเฉพาะเสื้อชูชีพต้องพร้อมใช้งาน โดยมี พ.ต.อ.ภัทรพงศ์ อินวรรณา ผกก.ตม.นครพนม ให้การต้อนรับ 

ขณะเดียวกันได้เกิดมีเมฆก่อตัวขึ้นที่ฝั่งประเทศลาว (สปป.ลาว) และเกิดลมแรง เสียงฟ้าร้องคำรามข้ามมาถึงฝั่งไทย จนทำให้เรือโดยสารโคลงเคล้งไปมา เจ้าหน้าที่จึงเรียกผู้โดยสารกว่า 20 คนรีบกลับขึ้นมาหลบอยู่ในอาคารที่ทำการก่อนชั่วคราว ไม่นานฝนก็ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักแทบลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ในส่วนคณะผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมที่เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยต้องกลายเป็นผู้ประสบภัยไปโดยปริยาย 

เมื่อฝนซา ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกมายืนดูสายน้ำโขงที่เกิดมีเกลียวคลื่นยักษ์คล้ายทะเลคลั่งได้ประมาณ 30 นาทีจึงหยุด จากนั้นผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวลาวออกจากอาคารเดินมาลงเรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จึงเข้าไปทักทายสอบถาม ได้ความว่าส่วนมากจะข้ามโขงมาหาแพทย์ จับจ่ายซื้อสินค้า หรือมารับญาติที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด 

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการมาตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ โดยเฉพาะเสื้อชูชีพเรือทุกลำต้องมีและห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกิน เนื่องจากน้ำโขงเชี่ยวมาก หากเดินเรือไม่ระมัดระวังอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ ซึ่งผู้ประกอบการก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี - 003