นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และรองผู้อำนวยการ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ณ ศูนย์ประชุม NICE สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมด้วย นายพัฒนะ พัฒนทวีดล และนายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ.นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง และนายสุรินทร์ มั่นประสงค์ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึง ผอ.สพท. และรอง ผอ.สพท. ทั้ง 245 เขตทั่วประเทศ ผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) 77 จังหวัด เข้าร่วมกว่า 1,000 คน
นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. กล่าวว่า รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญอย่างยิ่งในงานด้านการศึกษาของประเทศ เพราะ “ทุนมนุษย์ เป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศ รัฐบาลจะเร่งส่งเสริม ผลักดัน ให้เกิดการพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัยอย่างเต็มกำลังและความสามารถ” โดยมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้ 1.การจัดสรรสวัสดิการ ด้านการศึกษา สาธารณสุขและสาธารณูปโภค รวมทั้งอุดหนุนค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานของประชาชน 2.ส่งเสริมการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพ ของเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียม 3.เด็กไทยทุกคน จะต้องเข้าถึงศูนย์ดูแลเด็กปฐมวัยที่มีมาตรฐาน เมื่อเติบโตก็ได้เรียนหนังสือ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล 4.ส่งเสริมการปลดล็อกศักยภาพ ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม และความสามารถทางกีฬา 5.พัฒนาระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น ทั้งในระบบ นอกระบบ ตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ามาสนับสนุน ตอบโจทย์ศักยภาพของผู้เรียน ลดภาระและลดความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ 6.ส่งเสริมให้เกิดการเรียนสองภาษาโดยใช้ AI เป็นตัวช่วย เน้นการสอนทักษะที่ใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตจริง เพื่อการสร้างรายได้ (Learn to Earn) 7.ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือ ระหว่างรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ในการจัดการศึกษาทุกระดับ 8.เฟ้นหา และช่วยเหลือเด็กและเยาวชน ที่หลุดจากระบบการศึกษา 9.ส่งเสริมการปฏิรูประบบอาชีวศึกษา และอุดมศึกษา เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการแรงงานในอนาคต และรองรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning)
“นอกจากนโยบายการจัดการศึกษาแล้ว ยังให้ความสำคัญในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยในส่วนของเด็กนักเรียน เราควรมุ่งสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การรับมือกับภัยธรรมชาติ และปัญหา PM2.5 โดยเฉพาะจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ และนอกจากภัยดังกล่าวแล้ว ขณะนี้ ยังประสบกับอุทกภัยอย่างหนัก โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ได้ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องชาวภาคเหนือทุกท่าน รวมถึงในจังหวัดอื่นๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ และได้ฝากให้ สพฐ. เร่งดูแลและให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วนต่อไป ทั้งนี้ ขอชื่นชมกับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ที่ปรับโฉมใหม่ เน้นการนำเสนอผลงานให้เห็นประจักษ์ เพราะจะทำให้ผู้บริหารได้มุมมอง แนวคิด วิธีการบริหารงานด้านการศึกษาที่มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น สามารถนำไปบูรณาการ และปรับใช้ตามบริบทในเชิงพื้นที่ต่อไป” รมช.ศธ. กล่าว
ทางด้าน นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ตลอดการประชุมในช่วงระยะเวลา 3 วันนี้ (14-16 กันยายน 2567) ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ โดยให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้แทนสถานศึกษาสังกัด สศศ. ได้นำเสนอผลงานการบริหารจัดการองค์กรที่นำนโยบาย ศธ.และนโยบายของ สพฐ. ไปขับเคลื่อนในพื้นที่จนประสบผลสำเร็จและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมภายใต้หลักการ 5W1H คือ Who What When Where Why และ How
“การปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ เราจะแบ่งห้องนำเสนอตามภาค จำนวน 5 ห้อง เพื่อให้ทุกเขตนำเสนอครบทุกคนในวันที่ 14 กันยายน 2567 จากนั้นแต่ละภาคจะคัดเลือกผู้แทนภาคที่นำเสนอผลงานได้ยอดเยี่ยมภาคละ 3 คน ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวน 5 คน เพราะมีเขตพื้นที่เป็นจำนวนมากกว่าภาคอื่นๆ เพื่อมานำเสนอผลงานต่อห้องประชุมใหญ่ในวันที่ 15 กันยายน 2567 ให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ว่าบริบทแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา มีวิธีการ มีการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ได้สำเร็จมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้เขตพื้นที่การศึกษาอื่นๆ ได้เห็นวิธีการ แนวทาง และนำไปบูรณาการปรับใช้กับเขตพื้นที่ฯของตนเองได้ นอกจากนี้ จะเปิดโอกาสให้ ผอ.สพท. และรอง ผอ.สพท. ทั่วประเทศ ได้นำเสนอสิ่งที่ได้รับจากการประชุมสัมมนาด้วย ฉะนั้น การประชุมครั้งนี้ไม่ใช่แค่การมานั่งฟังนโยบาย แล้วรับนโยบายไปปฏิบัติเท่านั้น แต่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมนำเสนอผลงานของเขตพื้นที่ฯที่ตนเองรับผิดชอบเพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายลงสู่พื้นที่มีประสิทธิภาพเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี