ศึกสายเลือดทาสสุรา! พี่ฟันน้องปางตาย หมอยังยื้อชีวิตน้องรอแค่ปาฏิหาริย์ ส่วนพี่ชายถูกตำรวจ สภ.ท่าอุเทนคุมตัวไว้ที่โรงพัก พร้อมแจ้งข้อหาเบื้องต้น "ทำร้ายร่างกายคนอื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส" ขณะที่ผู้ต้องหารับสารภาพย้ำ "ผมไม่ฆ่ามัน มันก็ฆ่าผม"

ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีเกิดเหตุทะเลาะวิวาทในครอบครัว ทำให้นายศักราช หรือวร อายุ 52 ปี ชาวบ้านหนองเทา หมู่ 1 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ถูกพี่ชายที่คลานตามกันมาคือ นายสมพร อายุ 59 ปี ใช้อาวุธมีดพร้าจู่โจมเข้าทำร้ายฟันตามร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัสปางตาย โดยนายศักราชหรือวร เสียเลือดมากจนช็อคหมดสติ กระทั่งชาวบ้านต้องช่วยกัน นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลท่าอุเทน ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนครพนม ทีแรกนึกว่าเสียชีวิตแล้ว แพทย์พยาบาลจึงทำการปั๊มหัวใจช่วยชีวิต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ บริเวณถนนกลางหมู่บ้านสายบ้านหนองเทา-บ้านเสียวสงคราม ใกล้วัดโพนสว่าง หมู่ 1 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุดวันที่ 18 ก.ย.67 แพทย์ยังพยายามให้การรักษายื้อชีวิตนายวร คนเจ็บสุดความสามารถ โดยยังรักษาอาการที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลนครพนม แต่ยังไม่รู้สึกตัว รอแค่ปาฏิหาริย์ เนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์ตามตัวหลายจุด ส่วนพี่ชายนายสมพร ผู้ก่อเหตุ ตำรวจ สภ.ท่าอุเทน ได้คุมตัวไปที่โรงพัก เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น ทำร้ายร่างกายคนอื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สารภาพเป็นความแค้นส่วนตัว ไม่มีปัญหาอื่น

พร้อมเล่าว่าน้องชายเป็นคนก่อเหตุก่อน ใช้อาวุธมีดไล่ฟันตนจนมีบาดแผลที่ใต้ใบหูขวา ขวาขวา และตามร่างกายหลายแห่ง แต่หนีเอาตัวรอดได้ โดยได้รับการช่วยเหลือจากกู้ชีพ อบต.หนองเทา ส่งโรงพยาบาลท่าอุเทน เวลาประมาณ 18.00 น.พอทำแผลเสร็จก็กลับมาไปเอามีดพร้าที่อยู่ในเถียงนาเพื่อล้างแค้น ประจวบเหมาะพอดีเจอน้องชายปั่นรถจักรยาน 3 ล้อมาบนถนนสายหนองเทา-บ้านเสียวสงคราม จึงไม่รีรอตรงปรี่ไปฟัน ตั้งใจฟันกะเอาให้ตาย และนั่งดูผลงานตัวเองมองน้องชายนอนจมกองเลือด ก่อนจะมีผู้มาประสบเหตุแจ้งหน่วยงานรับผิดชอบมาควบคุมตัวไป ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามนายสมพรมือมีด ว่า อยากจะขอโทษน้องชายหรือไม่ นายสมพรมีสีหน้านิ่งเฉยและตอบกลับว่าไม่ เพราะถ้าผมไม่ฆ่ามัน มันก็ฆ่าผม

ล่าสุดจากการลงพื้นที่สอบถามนายสวรรค์ อายุ 76 ปี ชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ โดยบริเวณเกิดเหตุยังมีกองเลือดคนเจ็บ มีทรายกลบรอยเลือดอยู่ ซึ่งตนไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร รู้เพียงว่าเป็นปัญหาระหว่างสองพี่น้อง ที่ทะเลาะกันประจำ ช่วงเกิดเหตุบริเวณดังกล่าวมืด จึงไม่มีคนเห็นหรือห้ามทัน รู้ภายหลังตอนที่นายสมพรถือมีดเดินมาบอกว่า ได้ฟันนายศักราชน้องชายคนนอนจมกองเลือดอยู่บนถนน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพมาช่วยกันปฐมพยาบาล นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนคนก่อเหตุยังบอกชาวบ้านอย่างหน้าตาเฉยและไม่สะทกสะท้อนว่าให้ตำรวจมาจับเลย ยอมรับถือเป็นเรื่องปกติที่สองพี่น้องคู่นี้ มีเรื่องทะเลาะวิวาท เพราะชาวบ้านพบเห็นเป็นประจำ แต่ไม่รุนแรงถึงขนาดนี้

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามพูดคุยกับนางกร อายุ 83 ปี แม่ของทั้งสองคนที่ก่อเหตุทะเลาะกัน ซึ่งรู้เรื่องแต่เมื่อคืนแต่ไม่รู้จะพูดอะไร เนื่องจากที่ผ่านมาสร้างความเอือมระอา ชกต่อยสร้างปัญหามาตลอด แม้กระทั่งญาติพี่น้องรู้ข่าวยังไม่ได้ไปดูอาการ ปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรม อีกทั้งตนก็อายุมากแล้ว เจ็บป่วยด้วยโรคความดันสูงและเบาหวาน

ส่วนนายมนูญ อายุ 57 ปี ฐานะเป็นน้องเขย คนก่อเหตุทั้งสองคน เปิดเผยว่าครอบครัวนี้มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน หญิง 3 ชาย 2 นายสมพรคนก่อเหตุเป็นลูกคนที่สอง ส่วนนายศักราชคนเจ็บเป็นคนที่สี่ที่ผ่านมาเคยมีครอบครัว แต่หลังเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เรียกว่าไปเสียนามาเสียเมีย ก็หันหน้าไปพึ่งเหล้าเป็นเพื่อน พอเมาก็อาละวาด และไม่ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง ถ้าไม่มีเงินก็มาขอเงินแม่ หากไม่ได้จะทุบทำลายข้าวของในบ้านเสมอ ซึ่งตนและภรรยามีหน้าที่ดูแลแม่ยาย ที่มีอายุ 80 กว่าปีแล้ว

จึงขอร้องให้นายสมพรไปอยู่กระท่อมนา ส่วนนายศักราชให้ไปอยู่เฝ้าสวนยางพารา ยอมรับว่าทั้งสองคนสร้างปัญหามาตลอด ชอบเมาประจำทุกวัน ไม่มีงานทำแต่รับจ้างรายวัน ได้เงินมาก็ซื้อเหล้ากิน เมาแล้วก็ตีกันจนกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าทั้งสองไม่เมาจะนิ่งสงบ ส่วนมากนายสมพรคนพี่พอเมาจะเป็นคนเริ่มหาเรื่องชกต่อยก่อน ส่วนนายศักราชคนน้องมีแต่คำพูด ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องไร้สาระทั้งนั้น และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นายศักราชเป็นคนใช้มีดฟันพี่ชายก่อน พอพี่ชายกลับจากทำแผลที่โรงพยาบาล ก็ถือมีดมาฟันล้างแค้นยืนยันไม่มีปัญหามรดกทรัพย์สิน เป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด จนสุดท้ายพอเมาก็ฆ่ากันเอง ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย