วันเสาร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘กันต์’โร่พบตร. ให้ปากคำคดี‘ดิไอคอนกรุ๊ป’  เหยื่อพุ่ง800/เสียหาย266ล.

‘กันต์’โร่พบตร. ให้ปากคำคดี‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ เหยื่อพุ่ง800/เสียหาย266ล.

วันจันทร์ ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 06.30 น.
Tag : ดิไอคอนกรุ๊ป
  •  

“กันต์” พิธีกรดัง โร่พบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.แจงปมเอี่ยวดิไอคอนกรุ๊ป ลั่นถูกผิดว่าไปตามข้อเท็จจริง พร้อมให้ความร่วมมือขอโทษประชาชนด้วยใจจริง ด้านผู้เสียหาย ยังแห่เข้าร้องทุกข์ต่อเนื่อง ขณะที่ “จิราพร” ยันตำรวจเร่งทำคดี ชี้จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ดีเอสไอส่วนทนายเดชา เผยผู้ถูกกล่าวหาวิ่งเต้นนายตำรวจใหญ่-นักการเมือง ช่วยเหลือ แต่ยืนยันคดีล้มยาก ชี้เหยื่อ-มูลค่าเสียหายเยอะ

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 13 ตุลาคมผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกันต์ กันตถาวร พิธีกรชื่อดัง พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.เพื่อเข้าให้ปากคำแสดงความบริสุทธิ์ใจ ภายหลังถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ที่กำลังถูกกลุ่มผู้เสียหายหลายร้อยคน เข้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะเชื่อว่าบริษัทดังกล่าวหลอกให้ร่วมลงทุน โดยทันทีที่เจ้าตัวมาถึงได้เร่งฝีเท้าเดินเข้าภายในตัวอาคารพิทักษ์สันติ แล้วรีบขึ้นลิฟต์เพื่อไปให้ปากคำพนักงานสอบสวนทันที โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก


ต่อมาเวลา 13.30น.หลังจากเสร็จสิ้นการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.นานกว่า 3 ชั่วโมง นายกันต์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ว่าเดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยนำข้อมูลที่รวบรวมไว้ทั้งหมดมามอบให้กับตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง ตนพูดได้เท่านี้จริงๆ เพราะขณะนี้เรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางตำรวจก็จะดำเนินตามขั้นตอนทุกกระบวนการ ตนยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือทุกฝ่าย

“ยืนยันว่าให้ข้อมูลได้เท่านี้ ขอไม่แสดงความรู้สึกหรือความคิดเห็นใดๆ เพราะตอนนี้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายแล้ว ต้องขอโทษสื่อด้วย เรายินดีให้ความข้อมูลทุกอย่าง เรายืนอยู่ข้างความถูกต้องเสมอ ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก” นายกันต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงที่มาของรายได้นั้นสรุปแล้วได้มาจากไหน นายกันต์ ไม่ตอบคำถามใดๆ ได้แต่ยกมือไหว้พร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นผมขอโทษจากใจจริง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากอะไรก็แล้วแต่ และเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะได้ความชัดเจนออกมาโดยเร็วที่สุด” นายกันต์ กล่าว

จากนั้นทนายความส่วนตัวของนายกันต์ ได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ช่วยเปิดทางในการเดินทางกลับ เนื่องจากนายกันต์ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในส่วนที่ให้ได้ไปหมดแล้ว

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวัน ได้มีผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.เพื่อดำเนินคดีกับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทแห่งนี้ โดย น.ส.ศิริชาดา (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี อาชีพเสริมสวย หนึ่งในผู้เสียหาย ได้นำเอกสารหลักฐาน พร้อมผลิตภัณฑ์อาหารเสริม รวมถึงกาแฟ 8 กล่อง และวิตามินซี 2 กระปุก ซึ่งเป็นยี่ห้อผลิตภัณฑ์บริษัท เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ได้จัดเตรียมสถานที่บริเวณชั้น 2 บก.ป.ไว้รองรับผู้เสียหายที่จะเข้าแจ้งความ โดยมีการสอบปากคำผู้เสียหายมาตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา หรือเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ในการรับร้องทุกข์

น.ส.ศิริชาดา กล่าวว่า เป็นสมาชิกระดับดีลเลอร์ของดิไอคอนกรุ๊ป เริ่มลงทุนเมื่อปี 2563เนื่องจากมีคนรู้จักที่เป็นแม่ข่าย ชักชวนให้ร่วมลงทุน เพราะอยากมีรายได้เสริมช่วงแรกๆ ได้กำไรประมาณ 60,000บาท แต่ระยะหลังขายสินค้าไม่ได้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่สั่งซื้อไปลองทานแค่ครั้งเดียว และต้องการทดลองผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ทำให้ต่อมาไม่สามารถขายได้ รวมมูลค่าเสียหายในระบบประมาณกว่า 3 แสนบาท ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และค่ายิงแอดโฆษณาวันละ 700 บาท คิดรวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 6 แสนบาท จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว

ขณะที่ตำรวจ บก.ปคบ.ให้ข้อมูลว่า นับตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ มีผู้เสียหายที่มาลงทะเบียนแล้วกว่า 100 ราย โดยในวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา มีทั้งหมดกว่า 200 ราย

ส่วนความเคลื่อนไหวในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทางคดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังตำรวจ บก.ปคบ.ได้เข้าตรวจค้นบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป และบริษัทในเครือรวมถึงโกดังสินค้าในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล รวม 9 จุด โดยพบสินค้าที่เกี่ยวโยงกับบริษัทหลายประเภท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำไปใช้เป็นทั้งวัตถุพยานและพยานเอกสารในทางคดีต่อไป

อีกด้านหนึ่ง น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวถึงการดำเนินการเกี่ยวกับผู้ได้รับความเดือดร้อนจากดิไอคอนกรุ๊ปว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดให้เข้าร้องทุกข์ ซึ่งขณะนี้มีผู้ร้องทุกข์แล้ว504 ราย ยอดความเสียหาย 178 ล้านบาท ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง สคบ.ได้เข้าร่วมสอบสวน เพื่อเร่งสืบหาข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด โดยวันสาร์-อาทิตย์ ก็ไม่ได้หยุดทำงาน เมื่อคืนวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมาก็ทำงานกันจนถึงเวลา 23.00 น.ภายหลังยังมีผู้เข้ามาร้องทุกข์อย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายมีจำนวนมาก เข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษและจะให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ น.ส.จิราพรกล่าวว่า ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้ามาช่วยดูแลคดีนี้ แม้หลักเกณฑ์จะเข้าเงื่อนไข แต่จะยกเป็นคดีพิเศษหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่การพิจารณาของดีเอสไอ ตอนนี้ดีเอสไอเข้ามาร่วมตรวจสอบ แต่ยังถือว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังเป็นผู้ทำคดีอยู่ และทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ยังคงดูแลคดีนี้อยู่ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียหายไม่ว่าอยู่พื้นที่ใดสามารถร้องเรียนได้ที่สถานีตำรวจในท้องที่ตนเอง และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599

เมื่อถามว่ามีกรณีคลิปเสียงปริศนาพาดพิง สคบ.โดยระบุว่ามีการติดสินบนเทวดา สคบ.น.ส.จิราพรกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานหน่วยงานที่จะมาตรวจสอบ เพราะอยากให้คนนอกเข้ามาร่วม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมมากที่สุด โดยในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าว

ต่อข้อถามว่าในกรณีที่มีการมอบโล่รางวัลให้กับดิไอคอนกรุ๊ป กลายเป็นการการันตีบริษัทดังกล่าว มีนโยบายเรื่องนี้อย่างไร น.ส.จิราพรกล่าวว่า บริษัทแห่งนี้บริจาคหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ในช่วงโควิด-19 ในปี 2563 และช่วงการสัมมนาของคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง สคบ.ส่งตัวแทนเข้าไปเป็นวิทยากรร่วม มีการเสนอชื่อรับรางวัลในปี 2564 แต่เนื่องจากมีโควิด จึงมีการรับรางวัลในปี 2565 เป็นรางวัลในการสร้างสาธารณประโยชน์ ไม่ได้เป็นรางวัลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจแต่อย่างใด แต่ก็ให้ สคบ.กลับไปดูข้อเท็จจริงว่าบริษัทนำรางวัลไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่น ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าประกอบธุรกิจได้ดีจนได้รับรางวัล หากผิดลักษณะนี้ก็จะขอให้พิจารณาเรียกรางวัลคืน

เมื่อถามถึงกรณีนักแสดงที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ดิไอคอนกรุ๊ป พยายามออกมาให้ข้อมูลว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ จะทำให้พ้นผิดหรือไม่ น.ส.จิราพรกล่าวว่า เป็นสิทธิในการชี้แจง แต่ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีข้อหาที่ชัดเจนคงมีการขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเช่นนี้เคยมีปัญหาในอดีตและมีการพัฒนาตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป หน่วยงานราชการต้องพัฒนาตัวเองตามที่สคบ.ก็เร่งทำประเด็นที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนที่สุด เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนโดยเร็ว

น.ส.จิราพร กล่าวอีกว่า ในระยะยาวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องบูรณาการรับมือสิ่งที่เกิดขึ้น และดูกฎหมายบางตัวที่ล้าสมัยไม่ทันต่อเหตุการณ์ ส่วนจะต้องทำงานเชิงรุกหรือไม่ตนได้กำชับ สคบ.ไปแล้ว ว่าเราถือกฎหมายขายตรงและตลาดแบบตรง และกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค หากอนุญาตในการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ต้องตรวจสอบอยู่ตลอด เพราะเท่าที่ดูเป็นลักษณะให้บริษัทแจ้งงบการเงินเข้ามา แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบเชิงรุก ตรงนี้อยากให้มีการแก้ไขในอนาคต

วันเดียวกัน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดังได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับกรณีของบริษัทขายตรงแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการหลอกลวงประชาชน ว่า “ขอพูดแทนตำรวจเลยว่าเขาจะแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 12”พร้อมทั้งยังระบุว่า การดำเนินคดีกับบริษัทดังแห่งนี้ พวกที่ให้คำปรึกษาฝ่ายผู้ต้องหา ที่บอกว่าคดีนี้หลุดแน่ ทำอะไรไม่ได้ เพราะ 1.เงินเยอะ 2.เส้นใหญ่ เพราะมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นแหล่งข่าวที่ตนได้มา แต่หากให้นายตำรวจใหญ่ หรือนักการเมืองสีเทา มาช่วยก็ไม่รอด เพราะผู้เสียหายเยอะ ฉะนั้นโอกาสวิ่งเต้นล้มคดี คงยาก

นายเดชา กล่าวต่อว่า แหล่งข่าวที่ตนได้มาบอกว่าผู้ถูกกล่าวหาติดต่อตำรวจระดับนายพลที่เคยเกี่ยวข้องกับเว็บพนันด้วย อีกทั้งพยายามติดต่อผู้ใหญ่ อัยการ นักการเมือง อันนี้เรื่องจริง แต่งานนี้ไม่มีใครช่วยได้ ซึ่งผู้เสียหายเบื้องต้นตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 3แสนคน

ส่วนนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า “ตำรวจอย่านิ่งดูดาย.. ตอนนี้คลิปต่างๆของ The icon กำลังถูกลบ นี่คือการทำลายพยานหลักฐานหรือไม่!?”

นอกจากนี้ยังแจ้งว่า ในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ตนเอง พร้อมด้วยนายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล นายนิติธร แก้วโต นายเกิดผล แก้วเกิด นายรัชพล ศิริสาคร นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ รวมทั้งกลุ่มสายไหมต้องรอด และมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม จะพาผู้เสียหายจากการกระทำของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ “บอส” ทุกคน ในความผิดตาม พ.ร.ก.กู้เงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน , ฉ้อโกงประชาชน , ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดฐานฟอกเงิน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ดีเอสไอ’เห็นแย้งอัยการ เห็นควรสั่งฟ้อง‘บอสแซม-บอสมิน’คดีดิไอคอน ‘ดีเอสไอ’เห็นแย้งอัยการ เห็นควรสั่งฟ้อง‘บอสแซม-บอสมิน’คดีดิไอคอน
  • ศาลนัดสืบพยานคดี\'ดิไอคอน\' 18 ก.พ.ปีหน้า ขณะบรรยากาศนัดตรวจพยาน ผู้สนับสนุนล้นห้อง ศาลนัดสืบพยานคดี'ดิไอคอน' 18 ก.พ.ปีหน้า ขณะบรรยากาศนัดตรวจพยาน ผู้สนับสนุนล้นห้อง
  • เบิกตัวจำเลยคดีดิไอคอน สอบคำให้การ \'แม่สามารถ\'มั่นใจหลักฐานสู้คดีได้ เบิกตัวจำเลยคดีดิไอคอน สอบคำให้การ 'แม่สามารถ'มั่นใจหลักฐานสู้คดีได้
  • \'ดีเอสไอ\'ประชุมร่วมพนักงานอัยการ เปิดคดี\'ดิไอคอน ภาค 2\' พบผู้เสียหายใน ตปท. 'ดีเอสไอ'ประชุมร่วมพนักงานอัยการ เปิดคดี'ดิไอคอน ภาค 2' พบผู้เสียหายใน ตปท.
  • เลื่อนตรวจหลักฐาน\'บอสพอล\'กับพวก เหตุพยานเอกสาร-บุคคลมีจำนวนมาก เลื่อนตรวจหลักฐาน'บอสพอล'กับพวก เหตุพยานเอกสาร-บุคคลมีจำนวนมาก
  • DSIส่งสำนวนเสนออัยการ สั่งฟ้อง‘บอสพอล-สามารถและแม่’ร่วมกันฟอกเงินดิไอคอน DSIส่งสำนวนเสนออัยการ สั่งฟ้อง‘บอสพอล-สามารถและแม่’ร่วมกันฟอกเงินดิไอคอน
  •  

Breaking News

อย่าก้มหัวให้การเมือง! กลุ่มแพทย์อาวุโส ให้กำลังใจแพทยสภา

ปิดด่านแม่สายชั่วคราว! เร่งนำท่อนซุงออก-อพยพคนออกริมฝั่งรับมือน้ำสายทะลักระลอก 2

วงจรปิดจับภาพรถเก๋งสีดำปริศนา! เสียงอาก้าลั่น 2 ชุด ดับหนุ่ม 29 ปีกลางเมืองสงขลา

'สนธิรัตน์'เตือน! ประเทศขาดถ่วงดุล-ปชช.อ่อนแอ หวั่นไทยจมกับดักเศรษฐกิจ-สังคม-การเมือง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved