วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
สาวใบ้หลอกทอมใบ้ให้รัก ผลาญเงินหมดตัว ควงผัวตัวจริงทำร้าย-พาทิ้งพัทยา

สาวใบ้หลอกทอมใบ้ให้รัก ผลาญเงินหมดตัว ควงผัวตัวจริงทำร้าย-พาทิ้งพัทยา

วันจันทร์ ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 09.51 น.
Tag : ทอมใบ้ สาวใบ้
  •  

ทอมใบ้ถูกสาวใบ้หลอกให้รัก ผลาญเงินขายรถ เงินดิจิตอล จนหมดตัว ช้ำควงผัวตัวจริงสวมกั๊กตำรวจ ทำร้ายพาทิ้งพัทยา ด้านจนท.เร่งสอบ-ประสานพื้นที่เกิดเหตุจริง

28 ตุลาคม 2567 จากกรณี น.ส.ชุติพัฒน์ หรือแอร์ อายุ 33 ปี เดินทางมาขอความช่วยเหลือ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยา หลังถูกแฟนสาวหลอกพามาทิ้งไว้ที่ชายหาดเมืองพัทยา ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ติดต่อญาติและกลุ่มเพื่อนให้เดินทางมารับกลับ แต่ด้วยเจ้าตัวมีความบกพร่องทางการได้ยินและสื่อสาร (เป็นใบ้หูหนวก) จึงเป็นอุปสรรค์ในการสื่อสาร ระหว่างเจ้าตัวและเจ้าหน้าที่ กว่าจะสอบถามกันได้ใจความนานกว่า 3 ชม. ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุด เมื่อเวลา 03.06 น.วันที่ 28 ตุลาคม 2567 น.ส.กระจั่น อายุ 56 ปี มารดา ญาติ และกลุ่มเพื่อนของ น.ส.ชุติพัฒน์ เดินทางจากกาญจนบุรีและสมุทรปราการ มาถึงสภ.เมืองพัทยา ด้วยอาการดีใจ หมดความกังวลใจ เมื่อเจอตัวน.ส.แอร์ ยังคงปลอดภัย แต่มีร่องรอยถูกทำร้าย เขียวช้ำตามร่างกาย ทั้งที่ใบหน้า ศีรษะ และขาทั้งสองข้าง ถูกของแข็งตีจนเขียวเป็นจ้ำหลายจุด จึงขอเข้าพบ ร.ต.อ.อนิรุจน์ เจ๊ะเหราะ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อรับตัวกลับและปรึกษาในด้านการดำเนินคดี 

ในขณะที่มารดาและญาติเปิดเผยว่าแฟนสาวของน.ส.ชุติพัฒน์  ชื่อน.ส.น้ำ คบหาดูใจกันได้ประมาณ 3 เดือน และเคยไปมาหาสู่ที่บ้านในจังหวัดกาญจนบุรี กระทั่งเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จับได้ว่าน.ส.น้ำ มีสามีอยู่แล้ว ก็คิดว่าทั้งสองคงจะเลิกลากันไป แต่กลับไม่ได้เป็นอย่างที่ทางครอบครัวคิด จู่ๆเมื่อ 2-3 วันก่อนก็ไม่สามารถติดต่อน.ส.แอร์ ได้ ตอนแรกก็คิดว่า น.ส.แอร์ จะประชดแม่ เดี๋ยวจะต้องติดต่อมาเอง เพราะก่อนหน้านี้น.ส.แอร์ มักจะขู่ฆ่าตัวตาย แต่เมื่อทางบ้านปลอบใจ และส่งเงินให้ก็สามารถยุติเหตุการณ์นั้นได้ ซึ่งทุกคนก็ไม่รู้ว่าที่น.ส.แอร์ ทำลงไปนั้นเพราะถูกใครบังคับหรือไม่ 

แต่ครั้งนี้ไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด ทั้งยังไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อสอบถามไปหากลุ่มเพื่อนก็ไม่มีใครเจอตัวเช่นกัน จึงพากันออกตาม จากจังหวัดกาญจนบุรีสมุทรปราการกระทั่งรู้ว่า เจ้าตัวถูกทำร้ายร่างกายและได้หายไปกับน.ส.น้ำ และสามีของน.ส.น้ำ สร้างความเป็นห่วงให้กับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนเป็นอย่างมาก จึงช่วยกันออกตามหา กระทั่งได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยาว่า น.ส.แอร์ มาขอความช่วยเหลือ ให้ติดต่อญาติและพากลับบ้าน จึงรีบพากันเดินทางมาที่สภ.เมืองพัทยาดังกล่าว

ด้านกลุ่มเพื่อนให้ข้อมูลพร้อมเปิดเผยคลิปวิดีโอ ที่บันทึกภาพ น.ส.แอร์ ถูกแฟนสาวคือน.ส.น้ำ ทำร้ายร่างกาย และสามีของน.ส.น้ำ ซึ่งสวมเสื้อกั๊กสกรีนด้านหลังเป็นภาษาอังกฤษ คำว่าโปลิศ ขว้างโทรศัพท์มือถือใส่ ก่อนจะเดินปรี่เข้าไปหา น.ส.แอร์ ด้วยท่าทีขึงขัง ข่มขู่ ขณะเดียวกันน.ส.แอร์ ก็อยู่ในอาการหวาดผวาอย่างมาก ซึ่งกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ไม่มีใครกล้าที่จะลุกขึ้นช่วยเหลือหรือห้ามปรามแต่อย่างใด เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บไปด้วย

ต่อมาน.ส.แอร์ ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผ่านเพื่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษามือ ด้วยการดขียนบ้างและพูดบ้างแต่ไม่ชัดนัก พอได้ใจความว่าเมื่อวันเสาร์ 26 ต.ค. ที่ผ่านมาเป็นวันที่เกิดเหตุตามที่ปรากฏในคลิป โดยสาเหตุที่ทำร้ายนั้นเพราะทั้งสองต้องการเงิน จึงได้บังคับให้ตนเองนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 สีเทาดำ ไปขายที่ร้านแถวพระราม 3 ในราคา 30,500 บาท รวมถึงโทรศัพท์มือถือ บัตรคนพิการรวมถึงเงินดิจิตอล 10,000 บาท ซึ่งตนเองอยู่ในกลุ่มเปราะบางจึงได้ก่อน แต่ก็ถูกสองผัวเมียยึดไปทั้งหมด ก่อนจะพาตนเองนั่งรถ มาปล่อยทิ้งในพื้นที่เมืองพัทยา ตนเองจึงมาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อสองผัวเมียคู่นี้รู้ว่าตัวเองเข้าแจ้งความก็พยายามจะมารับตัวไป โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้การช่วยเหลือไว้ก่อน 

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นพื้นที่เมืองพัทยาเป็นเพียงพื้นที่ปลายเหตุ ที่ผู้เสียหายถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้เท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.อนิรุจน์ เจ๊ะเหราะ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ร.ต.ท.กิตติพงษ์ แถลงกัน รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เกรงว่าผู้เสียหายจะได้รับอันตราย จึงรับแจ้งความและสอบปากคำไว้ในเบื้องต้น ซึ่งก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากการสื่อสารกับกลุ่มผู้เสียหายนั้น ซึ่งมีความบกพร่องทางด้านการสื่อสารและได้ยิน ถึงแม้จะมีกลุ่มญาติและเพื่อนช่วยแปลได้ในบางประเด็น

เบื้องต้นทราบชื่อและนามสกุลจริงของสองสามีผู้ก่อเหตุแล้ว โดยฝ่ายชายยังปรากฏว่าเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของหน่วยงานหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ก่อนประสานให้ข้อมูลต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อขยายผลหาเบาะแสเพิ่มเติมทั้งพยานบุคคล รวมไปถึงกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองรายมาสอบปากคำหากมีการกระทำผิด ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันอาทิตย์ 22 มิถุนายน 2568

‘สวนดุสิตโพล’ชี้คนไทยยังไม่เชื่อมั่นแคมเปญท่องเที่ยวของรัฐบาล

‘กรณ์’กระตุก‘พีระพันธุ์-เอกนัฏ’เลิกอุ้ม‘อิ๊งค์’ นำ รทสช.‘ถอยมาตั้งหลัก’

จัดหนัก! ‘แม่ทัพภาคที่ 2’จ่อลงนามปิดอีก 2 ด่าน‘ช่องสะงำ-ช่องจอม’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved