‘รองผบช.ก.’ยันยังไม่ออกหมายจับ‘ทนายชื่อดัง’ฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน หากพบความผิดอาจออกหมายเรียกแทน

1 พฤศจิกายน 2567 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบปากคำ “เจ๊อ้อย” ที่เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เกี่ยวกับกรณีที่ถูกทนายดังหลอกลวงเงินไปกว่า 71 ล้านบาท นานกว่า 12 ชั่วโมง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘เจ๊อ้อย’ให้ปากคำ 12 ชม. ทนายมั่นใจไม่ได้ให้เงิน‘ทนายดัง’โดยเสน่หา แจ้งเอาผิด‘ลักทรัพย์’) ว่า วานนี้ (31 ต.ค.67) เจ๊อ้อย ให้ปากคำด้วยท่าทีผ่อนคลายไม่ได้มีความเครียด และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี และให้ข้อมูลทุกประเด็นที่ตนเองรู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนจะเรียกตัว เจ๊อ้อย มาสอบปากคำอีกหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาหลักฐานต่างๆว่ามีประเด็นไหนที่ขัดแย้งจากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้รับมาหรือไม่ก็จะมีการเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งในการสอบปากคำวานนี้ (31 ต.ค.67) เจ๊อ้อย ยืนยันว่าเงิน 71 ล้านบาทไม่ได้ให้กับทางทนายชื่อดังโดยเสน่หา

เมื่อถามว่าจะมีการออกหมายจับภายในวันนี้เลยหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ ระบุว่า ในส่วนของคดียังไปไม่ถึงจุดที่จะออกหมายจับ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อหา และพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งตอนนี้ในทางคดีจะมุ่งเน้นไปที่คดีฉ้อโกงที่ทาง เจ๊อ้อย แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งในการสอบปากคำเพิ่มเติม หรือการรวบรวมพยานหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนทำอยู่ตอนนี้ เพื่อเป็นการพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดอะไรบ้าง

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในคดีฉ้อโกงประชาชน ถ้าหากพยานหลักฐานเพียงพอว่ามีการกระทำความผิดจริง ในเบื้องต้นจะไม่มีการออกหมายจับแต่จะเป็นการออกหมายเรียกแทน ในส่วนของกรอบระยะเวลานั้นยังไม่สามารถที่จะตอบได้เนื่องจากจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อน อีกประเด็นหนึ่ง คือจะเป็นความผิดในเรื่องอื่นหรือไม่ทุกอย่างจะต้องทำด้วยความรอบคอบจึงอยากจะขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานสอบสวนก่อน

เมื่อถามว่าขณะนี้รวมพยานหลักฐานได้มากหรือน้อยเท่าไหร่ที่จะแจ้งข้อหาได้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ ระบุว่าในคดีนี้มีพยานหลักฐานที่ค่อนข้างเยอะก็ไม่รู้ว่าจะมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หรือพยานหลักฐานจะจบไว้ที่เพียงเท่านี้จึงอยากขอเวลาทำงาน และภายในวันนี้พนักงานสืบสวนก็ยังคงทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆกันต่อไป

-005