วันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘ทนายตั้ม-เมีย’ กับพวก พร้อมใจให้การปฏิเสธ  ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง-ฟอกเงิน

‘ทนายตั้ม-เมีย’ กับพวก พร้อมใจให้การปฏิเสธ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง-ฟอกเงิน

วันศุกร์ ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 15.25 น.
Tag : เจ๊อ้อย ทนายตั้ม ฟอกเงิน เมียทนายตั้ม
  •  

"ทนายตั้ม-เมีย" กับพวกให้การปฏิเสธ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง-ฟอกเงิน หลอก“เจ๊อ้อย”กว่า 100 ล้าน ศาลนัดสอบคำให้การ 10 มี.ค.นี้

วันที่ 7 มกราคม 2568 ที่ห้องเวรชี้ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอาญานัดสอบคำให้การคดี อทย.109/2568 ที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องและมอบหมายให้อัยการยื่นฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 7 คนร่วมกันฉ้อโกง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย จำนวน 111 ล้านบาท 


การกระทำผิดเกิดขึ้นในต่างประเทศ โดยฟ้องนายษิทรา ฐานฉ้อโกง (กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์) ฉ้อโกง โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม (กรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400) ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน

ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ)

ฟ้องนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา จำเลยที่ 2 และ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวของภรรยา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จำเลยที่ 5 (ได้ประกันตัว) ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน 

ฟ้อง นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือ นุ จำเลยที่ 3 และน.ส.สารินี นุชนารถ หรือ สา จำเลยที่ 4 คนสนิททนายตั้ม ฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา

ฟ้อง น.ส.แก้วสวรรค์ สุขผล จำเลยที่ 6 และน.ส.มนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ จำเลยที่ 7 (ทั้งคู่เป็นพนักงานขายรถเบนซ์) ฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ

โดยจำเลยที่ 1,2,3,4 ไม่ได้ประกันตัว ส่วน จำเลยที่ 5,6 และ 7 ได้ยื่นคำร้องประกันตัว และศาลอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างสู้คดี

นอกจากนี้ยังมีอีกสำนวนคดีที่ยื่นฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด จำเลยที่ 1, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวของภรรยา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จำเลยที่ 2 ฐานฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน

ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัว นายษิทรา หรือทนายตั้ม จำเลยที่ 1,นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด จำเลยที่ 2, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือ นุ จำเลยที่ 3 และน.ส.สารินี นุชนารถ หรือ สา จำเลยที่ 4 คนสนิททนายตั้ม มาจากเรือนจำ เพื่อสอบคำให้การ ส่วน น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวภรรยาทนายตั้ม จำเลยที่ 5 ,น.ส.แก้วสวรรค์ สุขผล จำเลยที่ 6 และน.ส.มนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ จำเลยที่ 7 ทั้งคู่เป็นพนักงานขายรถเบนซ์ ได้ประกันตัว เดินทางมาศาลตามนัด

โดยนายเริงยศ ทรัพย์เงินทอง และ นายพินิจ ลักษณวิศิษฏ์ ทนายของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เเละ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา จำเลยในคดีร่วมกับพวกฉ้อโกง และฟอกเงิน กล่าวก่อนที่จะเข้าห้องเวรชี้ว่า วันนี้เป็นการสอบคำให้การเท่านั้น เบื้องต้นตนเองยังไม่ได้คุยกับลูกความ เดี๋ยวขอขึ้นไปคุยกับลูกความก่อนว่าจะให้การอย่างไร  เมื่อถามว่าจากนี้จะมีการยื่นขอประกันอีกหรือไม่ทนายความบอกว่า ขอดูความเหมาะสมของเวลาคาดว่าจะอย่างไรและขอดูนัดตรวจพยานนัดหน้าก่อน และขอไปปรึกษากับทีมทนายก่อนว่าอย่างไร ส่วนครั้งที่แล้วที่ศาลไม่ได้ให้ประกันนั้นเป็นดุลยพินิจของศาล ซึ่งตนและลูกความไม่ได้มีความกังวลอะไรทำตามขั้นตอนของกฎหมาย อีกทั้ง ศาลไม่ได้ตัดสิทธิ์ในการยื่นขอประกันในครั้งหน้าจึงไม่ได้กังวลอะไร

ภายหลังสอบคำให้การเสร็จ นายเริงยศ ทนายความเปิดเผยว่า ในวันนี้นางปทิตตามีกำลังใจดีและในเบื้องต้นนางปทิตตาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยหลังจากนี้ศาลจะนัดตรวจสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในช่วงเช้าของวันที่ 10 มี.ค.อีกครั้ง

เมื่อถามว่าในส่วนของนายษิทราปฏิเสธข้อกล่าวหาเหมือนกับนางปทิตตาหรือไม่ ด้านนายพินิจกล่าวว่า นายษิทรามีกำลังใจดีเหมือนกับนางปทิตตาและให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน โดยนายษิทราได้อ้างว่าเขามีหลักฐานที่จะสามารถต่อสู้คดีได้และตนยังได้คุยกับทนายความของจำเลยทุกคนในคดีนี้ ยังไม่มีจำเลยคนใดให้การรับสารภาพซึ่งทุกคนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่าในวันที่ 10 มี.ค.ที่จะมีการตรวจพยานหลักฐานทางทีมทนายความจะเตรียมหลักฐานมาเสนอในชั้นศาลหรือไม่ นายเริงยศ กล่าวว่า ในวันนั้นเป็นการตรวจของโจทก์คือพนักงานอัยการที่จะนำหลักฐานมาตรวจให้ทางเราดูในการสืบพยานของฝ่ายโจทก์ แต่ในส่วนของจำเลยสามารถพิสูจน์หลักฐานได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าขั้นตอนการยื่นขอปล่อยชั่วคราวจะยื่นหลังวันที่ 10 มี.ค.หรือไม่ นายเริงยศ กล่าวว่า เท่าที่ตนคุยกับทีมทนายแล้ว ทางตนและทีมทนายจะรอดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าจะยื่นขอปล่อยชั่วคราวในช่วงใด โดยการยื่นขอปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งหมดนั้นจะแยกไปตามทนายความของแต่ละคนซึ่งในส่วนของตนจะดูแลลูกความคือนางปทิตตา ซึ่งจำเลยแต่ละคนจะยื่นขอปล่อยชั่วคราวเมื่อไหร่ตนไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ แต่ในส่วนของตนจะยื่นขอปล่อยชั่วคราวก่อนหรือยื่นในภายหลังเป็นสิ่งที่ตัวจำเลยจะต้องดูความพร้อมหรือพยานหลักฐานต่าง ๆ ก่อนว่ามีเอกสารอะไรที่เข้ามาเพิ่มหรือไม่

ทั้งนี้ภายหลังศาลอกนั่งบัลลังก์ ได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งหมดฟังแล้วสอบถามว่าจะให้การรับสารภาพ หรือ ปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งปรากฎว่าจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธขอสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 10 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ณฐพร-ลูกชาย’นอนคุก! คดีสมคบกันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น ‘ณฐพร-ลูกชาย’นอนคุก! คดีสมคบกันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น
  • ศาลรับฟ้อง‘ณฐพร-ลูกชาย’คดีสมคบกันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น เจ้าตัวปฏิเสธ ศาลรับฟ้อง‘ณฐพร-ลูกชาย’คดีสมคบกันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น เจ้าตัวปฏิเสธ
  • ปอท.รวบหนุ่มฟอกเงินให้แก๊งคอลฯพัวพันเว็บพนัน ปอท.รวบหนุ่มฟอกเงินให้แก๊งคอลฯพัวพันเว็บพนัน
  • ยกฟ้อง‘อดีต สว.อุปกิต’ทุกข้อหาคดีฟอกเงินยาเสพติด จ่อฟ้องกลับ-คืนฉายา‘ทรงเอ’ให้‘โรม’ ยกฟ้อง‘อดีต สว.อุปกิต’ทุกข้อหาคดีฟอกเงินยาเสพติด จ่อฟ้องกลับ-คืนฉายา‘ทรงเอ’ให้‘โรม’
  • รวบจีนเทาพัทยา ฟอกเงิน ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเงิน แม่ค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม รวบจีนเทาพัทยา ฟอกเงิน ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเงิน แม่ค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม
  • \'DSI\'จับกุมตัวผู้ต้องหาฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ 'DSI'จับกุมตัวผู้ต้องหาฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์
  •  

Breaking News

ไปแจงแน่!!! ​‘ไชยชนก’เผยเซ็นรับหมายเรียก​‘คดีฮั้ว สว.’แล้ว

ตำรวจสหรัฐฯเร่งล่ามือปืนยิงนักการเมือง ตั้งค่าหัว1.6ล้าน หวั่นแรงจูงใจทางการเมือง

ด่านช่องสะงำปกติ! 'กัมพูชา'ยังไม่แบนอาหารสด-ผักผลไม้จากไทย

เปิดแนวคิด‘ดร.บริดตา อินรัญ’กับความท้าทายการสานต่อธุรกิจครอบครัว ควบคู่รักษาคุณค่ายั่งยืน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved