โอละพ่อ!! หนุ่มเหยื่อโจ๋กร่างยกพวกรุมยำงานกฐินยังไม่ยืนยันถูกยิง แค่มีแผลถูกทำร้าย ยอมรับเมาปลิ้นไม่ได้สติ

ความคืบหน้ากรณีนายศุภวัฒน์ หรือบาส อายุ 20 ปี ชาวบ้านโนนขาม หมู่ 7 ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม ถูกทำร้ายขณะมาเที่ยวชมหมอลำซิ่ง ในงานฉลองกฐินสามัคคี บ้านโพนงาม หมู่ 3 ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม บังเอิญเจอกลุ่มวัยรุ่นคู่อริยกพวกรุมสกรัมจนได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลฉกรรจ์บนใบหน้า ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนมและผู้ดูแลความสงบภายในงาน ซึ่งมีลักษณะคล้ายคนเมาสุราได้ให้ข่าวว่านายบาสถูกยิงด้วยอาวุธปืน แต่ไม่มีใครได้ยินเสียงปืน ทั้งยังไม่พบหลักฐานชัดเจน และตัวนายบาสเองก็มีอาการเมาเหล้าอย่างหนักจนจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ว่าโดนทำร้ายด้วยอะไร โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณตีหนึ่งเศษ บริเวณถนนคอนกรีตในหมู่บ้าน ห่างจากวัดโพนงาม ประมาณ 100 เมตร เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ย.67) ผู้บาดเจ็บคือนายศุภวัฒน์ หรือบาส สร่างเมามีอาการปลอดภัยแล้ว แพทย์ได้อนุญาตให้ออกมาพักฟื้นรักษาตัวที่บ้านหมู่ 7 บ้านโนนขาม ต.นาทราย มีเพียงบาดแผลฉกรรจ์บนคิ้วซ้ายแห่งเดียว ทั้งนี้เจ้าตัวไม่ยืนยันว่าเป็นแผลจากการถูกยิง แต่มีลักษณะคล้ายถูกของมีคม หรือถูกตีด้วยของแข็งมากกว่า ต้องรอผลพิสูจน์ของแพทย์อีกทั้ง โดยนายบาสยอมรับว่ามีอาการเมา จนจำอะไรไม่ได้ แต่ยืนยันว่าในงานหมอลำซิ่ง ไม่มีเรื่องกับใครแน่นอน เชื่อว่ากลุ่มผู้รุมทำร้ายเข้าใจผิด หรืออาจจะโชว์กร่างแสดงความเป็นเจ้าถิ่น หลังเลิกงานหมอลำบุญกฐิน จึงทำร้ายตนในสภาพเมาไม่มีสติ ขณะเดินออกมาเอารถจักรยานยนต์กับเพื่อนอีกสองคน ห่างจากงานบุญกฐินประมาณ 100 เมตร

ส่วนการดำเนินคดี พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องและชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน แต่ยังไม่ยืนยันว่าผู้บาดเจ็บถูกยิงโดยอาวุธปืน อยู่ระหว่างการรอผลชันสูตรของแพทย์ และการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐาน เบื้องต้นสาเหตุเป็นความคึกคะนองของกลุ่มวัยรุ่นมาเที่ยวงานบุญ อย่างไรก็ตาม ได้เก็บหลักฐานคลิปวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ มีหลักฐานว่ามีแค่เสียงทะเลาะกัน โดยจะได้นำไปเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี เบื้องต้นได้คุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นเยาวชนมาสอบสวนรวบรวมหลักฐาน แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตามจะได้เร่งติดตามคนก่อเหตุมาดำเนินคดี และวางมาตรการเข้มในการดูแลป้องกันเกิดเหตุซ้ำ - 003