วันศุกร์ ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
จัดการ‘ปลาเถื่อน’ป้องลอบนำเข้า

จัดการ‘ปลาเถื่อน’ป้องลอบนำเข้า

วันจันทร์ ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567, 17.49 น.
Tag : ลักลอบนำเข้า ปูดำเถื่อน ปลาเถื่อน สัตว์น้ำต่างถิ่น
  •  

การลักลอบนำเข้าปูดำเถื่อนจากเมียนมาเกิดขึ้นอีกแล้วที่ จ.ระนอง เหมือนกับหลายๆ ครั้งที่ไทยต้องพบเจอปัญหาการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำต่างถิ่น ตอกย้ำว่านี่เป็นปัญหาเรื้อรังคาราคาซังมานาน และไม่มีการขยับจัดการอย่างเข้มข้นจริงจัง กลายเป็นช่องโหว่ให้สัตว์น้ำต่างถิ่น (มีชีวิต) แทรกตัวเข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้อย่างไม่ยากเย็น บางกรณีที่เกิดแพร่ระบาดจนกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว จึงจะตื่นตัวตามหาคนแอบนำเข้า ซึ่งสุดท้ายก็ไม่เคยตามหาพบเลยแม้แต่กรณีเดียว

ประเด็นหลักน่าจะเป็นเรื่องของความอ่อนด้อยของการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือแบบบูรณาการของหน่วยงานต่างๆ เข้าด้วยกันเหมือน “หมูเถื่อน” ที่เมื่อมีการลักลอบนำเข้าอย่างหนัก จนกระทบเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู เป็นเหตุให้ภาครัฐเดินหน้าตรวจสอบจริงจังจนจับหมูเถื่อนได้หลายล้านกิโลกรัมแม้จะตามหาตัวผู้กระทำผิดไม่ได้แต่ก็กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการควบคุมการลักลอบนำเข้ามากขึ้น


นักการเมืองรายหนึ่งกล่าวถึงการทำงานของภาครัฐในการตรวจสอบการลักลอบนำเข้า “ปลาเถื่อน” ว่าไม่มีระบบหรือวิธีตรวจสอบที่รัดกุม กระทำได้เพียงการสุ่มตรวจ ณ ด่านสุวรรณภูมิ ด้วยการยกถุงขึ้นมาดู และใช้ประสบการณ์พิจารณาเอาว่าปลาในถุงคือปลาอะไร ไม่มีเครื่องตรวจนับหรือตรวจสอบอะไรทั้งนั้น และวิธีการเหล่านี้เองจะทำให้ปลาต่างถิ่นเล็ดลอดเข้ามาประเทศไทยได้ทุกวัน

วิธีการที่มักจะใช้ในการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำก็เช่นการขออนุญาตนำเข้าปลาชนิดหนึ่งบังหน้า แต่ลักลอบใส่ปลาที่ต้องการอีกชนิดหนึ่งปะปนเข้ามาในถุงเดียวกันหรือจะเรียกว่าสำแดงเท็จก็ได้ หรืออีกลักษณะหนึ่งคือการนำปลามีชีวิตแอบใส่กระเป๋าเดินทางแบบนักท่องเที่ยวทั่วไปถือขึ้นเครื่องเข้ามา ส่วนใหญ่ก็เพื่อจุดประสงค์ในการเลี้ยงส่วนตัว และเพาะพันธุ์ขาย ไม่ว่าจะในรูปแบบปลาสวยงาม ปลาแปลก หรือถ้าเพื่อการอื่นก็เป็นไปเพราะไม่ต้องการขออนุญาตให้ยุ่งยากนั่นเอง

นอกเหนือจากด่านท่าอากาศยานแล้ว ยังมีช่องทางที่ปลาเถื่อนสามารถแทรกเข้ามาในประเทศไทยได้อีกหลายช่องทาง เช่น ทางบกหรือทางด่านชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทุกทิศทางรวมถึงทางเรือ แต่ทั้งหมดก็มี “มนุษย์” นี่ล่ะเป็นคนแอบนำเข้ามา และเมื่อเข้ามาแล้วหากปลาดังกล่าวเหมาะสมเป็น ปลาเหยื่อ ก็เป็นมนุษย์อีกเช่นกันที่ช่วยกันแพร่กระจาย นำมันไปใช้เป็นเหยื่อล่อปลาชนิดอื่นในแหล่งน้ำต่างๆ

ปลาหมอมายัน ปลาหมอบัตเตอร์ ปลาหมอคางดำ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของปลาที่ยังไม่สามารถหาผู้ลักลอบนำเข้าได้ ซึ่งขณะนี้แพร่กระจายอยู่ในหลายแหล่งน้ำธรรมชาติ แม้กระแสของปลาหมอคางดำ จะช่วยให้เกิดการตื่นตัว มีการติดตามตรวจสอบและชี้เบาะแสการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำมากขึ้น หากไม่มีการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นขึ้น หรือไม่มีการยกระดับบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐให้มากขึ้น ก็คงน่าเสียดาย

ข้อมูลของกรมประมงระบุว่ากรมมีมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำผิดกฎหมาย โดยจัดชุดเฉพาะกิจของกรมประมงลงพื้นที่ร่วมปฏิบัติการกับชุดพญานาคราชของกระทรวงเกษตรฯ และประสานขอความร่วมมือจากกระทรวงกลาโหม กองทัพบก ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีจังหวัดติดด่านชายแดนเพื่อร่วมกันตรวจสอบแนวชายแดนและป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้ ยังปรับปรุงประกาศกรมประมง เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตนำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ พ.ศ.2560 ตามมาตรา 92 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยต้องสามารถตรวจสอบและยืนยันแหล่งที่มาของสัตว์น้ำที่ขอนำเข้าได้ ปริมาณนำเข้าจริงต้องตรงตามเอกสารการขอนำเข้า รวมถึงปรับปรุงมาตรการควบคุมการนำเข้าตามชายแดนด้วย

เจ้าหน้าที่กรมประมงรายหนึ่งให้ความเห็นว่าการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำลดลงไปมากแล้ว จากการจัดระบบราชการ กฎหมาย และการบริหารความเสี่ยง เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกันมากขึ้น มีการแบ่งหน้าที่กัน ขณะที่สัตว์บางชนิดเช่น กุ้งเครย์ฟิช ที่เคยยอดฮิตในช่วงที่ผ่านมาก็มีการลักลอบลดลง เนื่องจากตลาดอิ่มตัวไม่มีความต้องการซื้อ

กระแสปลาหมอคางดำ ช่วยจุดประเด็นเรื่องการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำได้แล้ว ภาครัฐควรใช้โอกาสนี้แสดงให้เห็นความตั้งใจที่จะยกระดับการป้องกันการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำต่างถิ่นให้เห็นเป็นรูปธรรม ผนึกกำลังกับหน่วยงานรัฐด้วยกัน แล้วเพิ่มความถี่ในการสุ่มตรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่างๆ อย่างถึงลูกถึงคน คล้ายๆ การจัดการ “หมูเถื่อน” ก็น่าจะเป็นอีกวิธีที่จะทำให้ประชาชนอุ่นใจว่า “ปลาเถื่อน” จะไม่สามารถเข้ามาอาละวาดในประเทศไทยได้ง่ายๆ เช่นในอดีตที่ผ่านมา

โดย อาจหาญ วิจารณ์ทัศน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'กรมปศุสัตว์\'บูรณาการ 3 หน่วยงานรัฐ ตรวจยึดเนื้อสัตว์แช่แข็งลักลอบนำเข้า 'กรมปศุสัตว์'บูรณาการ 3 หน่วยงานรัฐ ตรวจยึดเนื้อสัตว์แช่แข็งลักลอบนำเข้า
  •  

Breaking News

‘ประเสริฐ’มอง‘ยิ่งลักษณ์’ไม่ได้รับความเป็นธรรม ปัดตอบกระทบกลับไทย

กทม. ปิดประชุม CMC 2025 แลกเปลี่ยนองค์ความรู้จัดการภัยพิบัติ พร้อมส่งไม้ต่อ ‘กรุงโซล’

กกต.ชงศาลฎีกาฟันอาญา 2 ผู้สมัครสว.สมุทรปราการ เสนอผลประโยชน์แลกลงคะแนน

กทม.เช็กลิสต์แก้น้ำท่วมจากการก่อสร้างรฟฟ.สีส้มตะวันตกและม่วงใต้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved