เจอแล้ว 12 ศพ! ฝัง‘ลัทธิประหลาด’หู-ตาทิพย์ พบโรยเกลือทับ เร่งหาช่องฟันผิด

21 พ.ย.67 ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 20 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร , เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี , ฝ่ายปกคลองอำเภอขาณุวรลักษบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดสลกบาตร ลงพื้นที่บริเวณโดยรอบ และบริเวณป่าทึบหลังสำนักสงฆ์ป่าสิริจันทร์ หมู่ 2 ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ที่ลัทธิประหลาดใช้ทำกิจกรรมการฝึกนั่งวิปัสสนากรรมฐานกับศพ เพื่อทำการขุดศพออกมาจากหลุมและโลงศพ เพื่อเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อทุกศพนำไปตรวจ DNA และพิสูจน์อัตลักษณ์ หลังจากก่อนหน้านี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ภาพการสอนหูทิพย์-ตาทิพย์ จนต้องสั่งยุติกิจกรรมดังกล่าวอย่างเด็ดขาด (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผงะ!! เจอแล้ว 13 หลุม เร่งขุดพิสูจน์ศพสำนักสงฆ์หูทิพย์-ตาทิพย์ ส่งตรวจ DNA)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้หยุดค้นหาศพในช่วงหัวค่ำวันที่ 20 พ.ย.67 โดยจุดที่ลงไปขุดพบมีทั้งหมด 17 หลุม พบศพทั้งหมด 12 ศพ แยกเป็นศพสด 4 ศพ และที่เป็นกระดูกแล้ว 8 ศพ หนึ่งในศพที่มีญาตินำมามอบไว้ล่าสุดอายุเพียง 55 วันเท่านั้น

ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขุดศพขึ้นมาจากหลุมนั้น ภายในโลงได้มีการใช้เกลือโรยลงไปทับศพทั่วร่าง ซึ่งจะมีหยวกกล้วยรวมอยู่ภายในด้วย ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ศพเน่าเละก่อนเวลาอันควร เพื่อที่จะใช้ในการประกอบกิจกรรมนั่งสมาธิกรรมฐานได้นานกว่าปกติ จากการตรวจสอบทุกศพมีใบอนุญาตยินยอมมอบศพให้กับทางสำนักสงฆ์

เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชรได้นำชิ้นส่วนศพทุกศพไปตรวจ DNA หาอัตลักษณ์ และให้ญาติเข้ามายืนยันตัวตนเพื่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา โดยเตรียมที่จะขนย้ายศพไปไว้ที่วัดคูหาสวรรค์ ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร

พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศ รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานตามข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งเตรียมที่จะให้เจ้าหน้าที่นำศพเข้าไปไว้ที่วัดในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้ญาติได้ติดต่อเข้ามารับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ส่วนการพิสูจน์ว่าศพเป็นญาติใครนั้น จะตรวจชิ้นเนื้อจากกระพุ้งแก้มนำไปเทียบเคียง DNA ว่าตรงกัน ทุกศพมีหนังสืออนุญาตยินยอมจากญาติให้ทางสำนักสงฆ์ได้นำมาใช้ในการทำกิจกรรมนั่งสมาธิกรรมฐานหน้าศพ โดยจะต้องตรวจสอบที่มาที่ไปสำหรับการนำศพมาว่าถูกต้องหรือไม่ มีการกระทำผิดจากที่อื่น และย้ายมาที่นี่หรือไม่ หากพบว่ามีการนำมาโดยไม่ถูกต้องจะต้องดูว่าจะเข้าข่ายอำพรางซ่อนเร้นศพหรือไม่ ซึ่งจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย หากพบว่ามีการกระทำความผิด เพราะว่าเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจไปทั่วประเทศในขณะนี้