“โฆษกดีเอสไอ” เผยคดี 18 บอสคืบหน้า 80% ทันส่งอัยการฟ้อง ธ.ค.นี้ ส่วนคดี"สามารถ-แม่"ร่วมกันฟอกเงิน-สมคบกันฟอกเงินดิไอคอน ทางพงส.พร้อมรับฟังคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน หากชี้แจงรับฟังได้เหตุพิจารณาไม่สั่งฟ้อง ระบุตอนนี้เร่งขยายผลไปยังบุคคลปลายทางบัญชีของ"สามารถ"โอน-รับโอน

วันที่ 28 พ.ย.67 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยว่า สำหรับการประชุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ทราบว่ามีการรับทราบมติในที่ประชุมและรายงานความคืบหน้าจากการได้ไปรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี รวมถึงติดตามสถานการณ์ทางคดีพิเศษที่ 119/2567 การดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก หรือแชร์ลูกโซ่ดิไอคอนฯ ที่จะต้องมีการสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ ทราบว่าคืบหน้าไปมากพอสมควรเกือบ 80% ยืนยันว่าส่งสำนวนอัยการทันกำหนดการครบรอบฝากขังของ 18 บอสดิไอคอนฯ ภายในเดือน ธ.ค.นี้ แน่นอน

ส่วนความคืบหน้าในคดีพิเศษที่ 115/2567 คดีฟอกเงินทางอาญากรณีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ซึ่งปัจจุบันมีผู้ต้องหา 3 ราย คือ 1.นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล 2.นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่ของนายสามารถ และ 3.นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิชนั้น พ.ต.ต.วรณัน เผยความคืบหน้าว่า ส่วนที่ทำให้พนักงานสอบสวนมีการแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 3 รายว่าเป็นการกระทำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน เนื่องจากเวลาสอบสวน พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานจากเส้นทางการเงินที่ไหลเวียนออกจากบุคคลในคดีมูลฐานก่อน จากนั้นหากพบว่าเชื่อมโยงไปยังบุคคลใดก็จะต้องมีการตรวจสอบ หากตรวจสอบแล้วเห็นว่ามีลักษณะปกปิดอำพรางแหล่งที่มาของเงิน ก็จะนำไปสู่การขอศาลออกหมายจับ ดังนั้น เมื่อมีการจับกุมตามข้อกล่าวหาแล้ว ผู้ที่ถูกกล่าวหาก็สามารถนำพยานหลักฐาน พยานเอกสาร เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ภายใน 15 วัน แต่ในตอนนี้ยังไม่ได้มีผู้ต้องหารายใดนำพยานหลักฐานเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับดีเอสไอ แต่ยืนยันว่าพร้อมรับฟังทั้งหมด

พ.ต.ต.วรณัน เผยถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษตรวจพบเอกสารภายในบ้านพักของนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช ที่มีการระบุข้อความถึงเรื่องเงิน 2.5 ล้านบาทระหว่างนางวิลาวัลย์ (แม่ของนายสามารถ) และนายวรัตน์พล (บอสพอล) ว่าเป็นเงินกู้ยืมกันและบางส่วนเป็นเงินทำบุญ ว่า ดีเอสไอรับพยานหลักฐานทั้งหมด แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องนำพยานหลักฐานเหล่านี้มาชั่งน้ำหนัก  ว่าสิ่งที่พบนั้นสามารถใช้หักล้างกับข้อกล่าวหาได้หรือไม่ หากหักล้างได้ ก็จะมีความเห็นทางคดีสั่งไม่ฟ้องในวันสรุปสำนวนส่งอัยการ แต่ถ้าไม่สามารถใช้หักล้างได้ ก็จะต้องมีความเห็นสั่งฟ้อง

ส่วนถ้าเอกสารฉบับดังกล่าวเป็นเอกสารที่ถูกสร้างขึ้นภายหลัง หรือพิสูจน์แล้วพบว่าเป็นพยานเอกสารเท็จนั้น ตนต้องเรียนว่า ในทางกฎหมาย ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่ในส่วนของหลักฐานที่มีการสร้างขึ้นมาก็ต้องไปดูว่าเข้าข่ายความผิดใดหรือไม่ และใครคือผู้จัดทำเอกสารดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลักฐานใดที่พนักงานสอบสวนพบเจอ เราต้องรับฟังทั้งหมด จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบสักระยะ ไม่ว่าใครจะเป็นจัดทำเอกสารฉบับดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากดีเอสไอก็อยากฟังคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาประกอบกันด ว่าจะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไร ใช้อะไรเป็นหลักฐานในการแก้ข้อกล่าวหาบ้าง ถึงจะกล่าวได้ว่าหลักฐานนั้น ๆ รับฟังได้หรือรับฟังไม่ได้

พ.ต.ต.วรณัน เผยด้วยว่า สำหรับพฤติการณ์อย่างไรจึงจะเป็นการนำเข้าพยานหลักฐานเท็จจนส่งผลต่อสำนวนคดี หรือผู้จัดทำมีความผิดในโทษทางอาญานั้น ตนต้องเน้นย้ำว่าหลักการตามกฎหมาย ผู้ต้องหาจะให้การหรือต่อสู้คดีอย่างไรก็ได้ แต่การเอาหลักฐานมาใช้ในการพิสูจน์กับพนักงานสอบสวน หากมีบุคคลช่วยสร้างหลักฐานที่ไม่จริงขึ้นมาเพื่อช่วยผู้ต้องหา อันนี้ก็ต้องไปดูว่ามีความผิดทางอาญาหรือไม่ และเป็นเอกสารปลอมหรือไม่ คงจะได้สรุปกันอีกครั้ง

พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า กรณีที่ผู้ต้องหารายหนึ่งรับโอนเงินจำนวน 2.5 ล้านบาท แต่เมื่อจะคืนเงินผู้ให้ยืม กลับใช้เงินสดคืนนั้น เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องไปดู ต้องตรวจสอบว่าในตอนนี้ผู้ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหามีสิทธินำพยานหลักฐานชี้แจงความบริสุทธิ์ของตน ดังนั้น เราจะไม่ตั้งประเด็นว่าคำชี้แจงผิดถูกอย่างไร แต่ต้องรับฟังทั้งหมดก่อนเพื่อนำไปเทียบเคียงกับพยานหลักฐานว่าดีเอสไอจะมีความเห็นทางคดีสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องอย่างไร นอกจากนี้ ในเรื่องใบอนุโมทนาบุญที่จะใช้ยืนยันการรับโอนเงินระหว่างกันนั้น คงต้องรอคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาก่อน แล้วจึงนำไปตรวจสอบต่อ และในเรื่องนี้ก็ยังไม่มีรายใดชี้แจงเข้ามา ซึ่งภายใน 15 วัน ถ้าผู้ต้องหาได้ยื่นเอกสารแก้ข้อกล่าวหาเข้ามา ดีเอสไอก็จะได้นำไปตรวจสอบต่อไปตามขั้นตอน

เมื่อถามถึงปลายทางเส้นทางการเงินของบัญชีนายสามารถ ว่าเมื่อรับโอนมาจากบัญชีของมารดาแล้ว ได้โอนต่อไปยังปลายทางใดบ้าง พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนจะเจอบัญชีใครบ้างที่รับโอนต่อจากนายสามารถ ตนขอเรียนว่าดีเอสไอเจอหลายเส้นทางการเงิน เพราะตามปรากฏในข่าวมันมีทั้งเส้นเงินจากบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และเส้นทางการเงินจากบุคคลอื่นปะปนในบัญชีด้วย จึงต้องดูทั้งหมดว่าจริงๆสุดท้ายเงินอื่นที่เราไม่เจอนั้น อ้อมมาจากบัญชีบริษัทฯด้วยหรือไม่ แต่ยืนยันว่า ณ ตอนนี้ยังพบเพียงบัญชีของบอสพอล และบอสปีเตอร์ ที่โอนเข้าบัญชีของนางวิลาวัลย์ แต่ก็ต้องขยายผลต่อไป เจ้าหน้าที่เร่งทำงานอยู่ เเละจะดูกรณีของบอสปีเตอร์ด้วย เพราะก็เป็นหนึ่งในผู้โอนเงินไปยังบัญชีของนางวิลาวัลย์

ต่อข้อถามถึงกรณีที่นายสามารถ ประกาศอดข้าวภายให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกออกหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ดีเอสไอมองสถานการณ์ครั้งนี้อย่างไร พ.ต.ต.วรณัน แจงว่า ต้องถามว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร เพราะการทำงานของดีเอสไอ เราฟังความสองฝ่าย ดังนั้น เวลาท่านถูกแจ้งข้อกล่าวหา ท่านก็มีหน้าที่ในการยื่นชี้แจงข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เราพร้อมรับฟัง และให้ความเป็นธรรมตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนการตั้งข้อสังเกตเรื่องการออกหมายจับโดยไม่ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาก่อนนั้น มันมีอยู่ 2 กรณี แต่กรณีของนายสามารถและมารดา อยู่ในกรณีที่ 2 ซึ่งเป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุกเกินกว่าสามปี

ส่วนกรณีที่ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายของบอสพอล จะเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนการทำหน้าที่ของดีเอสไอ ต่อสำนักงาน ป.ป.ช. นั้น พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ตนได้รับแจ้งว่าในวันนี้ยังไม่เห็นมีพยานของเขามาที่ดีเอสไอตามที่ได้นัดหมายไว้ ซึ่งเราเตรียมพนักงานสอบสวนไว้แล้ว จึงไม่หนักใจ เพราะเราทำหน้าที่ปกติ