'สส.กอล์ฟ'ประกาศข่าวดี ครม.มีมติให้ผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินรัฐเข้าถึง น้ำ-ไฟ ประเดิม "กาญจนบุรี" จังหวัดแรกของประเทศ

วันนี้ (30 พ.ย.67) นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ หรือ สส.กอล์ฟ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟสบุ๊กแจ้งข่าวดีกับพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี ว่า ในที่สุดเราก็ทำสำเร็จครับทุกคน!!! กาญจนบุรี เป็นจังหวัดนำร่องจังหวัดแรกของประเทศไทย ในการการผ่อนผันให้กาญจนบุรีสามารถเข้าถึงไฟฟ้าและประปาได้แล้ว

“ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567” ที่ได้ประกาศให้ “กาญจนบุรี เป็นจังหวัดแรกในการนำร่องในการขอไฟฟ้าและประปาได้” มันคือผลประโยชน์ที่พี่น้องประชาชนของพวกเราควรจะได้รับ ในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานอย่างเท่าเทียม ผมถือว่า นี่คือความสำเร็จ ของ สส.พรรคเพื่อไทยจังหวัดกาญจนบุรี ทุกคน ที่ร่วมกันผลักดัน ให้เกิดขึ้นจริง นับเป็นนิมิตหมายที่ดีมากๆ อีกเรื่องหนึ่ง ที่พวกเราได้ร่วมมือ ร่วมใจกันทำเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของคนเมืองกาญจน์ทุกคน

พี่น้องครับ…วันนี้ เป็นวันที่ 540 ของการดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต1 สมัยแรกของผม ผมยิ่งรู้สึกมีความหวังกับสิ่งที่ทำมากครับ ที่ปัญหาได้รับการแก้ไข แต่เหนืออื่นสิ่งใดที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ผมต้องกราบขอบพระคุณท่านอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่เป็นผู้สั่งการให้เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นจริง ซึ่งท่านได้เข้าใจถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องคนเมืองกาญจน์ที่ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ มาตลอดหลายปี

และอีกท่านที่ผมต้องกราบขอบคุณ คือ ท่านนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่รับฟังปัญหาเรื่องนี้ และได้สั่งการ ให้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม. จนออกเป็นมติของ ครม. ได้ในที่สุด พี่น้องชาวกาญจนบุรีที่เคารพครับ “กาญจนบุรี” ภายใต้การนำของ ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านสุรพงษ์ ปิยะโชติ กำลังพาจังหวัดของเรานั้น พัฒนามากขึ้นไปอีก ผมเชื่อว่าสิ่งดีๆ หลายสิ่งกำลังจะเกิดขึ้นกับบ้านเราแน่นอนครับ

นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ กล่าวว่า สำหรับประชาชนกลุ่มที่ 1 ประเภทที่ 1 คือผู้ที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน มีอยู่ประมาณ 33,019 แปลง ประเภทที่ 2 คือ ผู้ที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่26 พฤศจิกายน 2561 มีอยู่ประมาณ 5,582 ครัวเรือน ให้ได้รับการผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 เพื่อให้สามารถขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาได้ โดยไม่ต้องมีทะเบียนบ้านชั่วคราวหรือได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน

ส่วนประชาชนกลุ่มที่ 2 คือประชาชนที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐประเภทอื่น ๆ นอกเหนือจากกลุ่ม 1 มีอยู่ประมาณ 6,086 ครัวเรือน ให้พิจารณาเหตุผลและความจำเป็นในการผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 เพื่อให้สามารถขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นรายกรณีไป