เสียงแตก‘หวยเกษียณ’! คนซื้อหนุน คนขายสลากโอด แค่ทุกวันนี้ยังเหลือบาน จี้รัฐซื้อคืน

9 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ รายงานว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายผักในตลาดสดเทศบาลนครบุรีรัมย์ ส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยที่กระทรวงการคลังจะออกหวยเกษียณ หรือสลากสะสมทรัพย์ดิจิทัลเพื่อเงินออมยามเกษียณ ในต้นปี 2568 ที่จะถึงนี้ เพื่อส่งเสริมการออมสำหรับสมาชิก กอช. ผู้ประกันตน ประกันสังคมมาตรา 40 และแรงงานนอกระบบ โดยขายใบละ 50 บาท มีรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท ออกรางวัลทุกวันศุกร์ สลากที่ไม่ถูกรางวัลจะเก็บเป็นเงินออม เมื่ออายุครบ 60 ปี ก็สามารถถอนเงินที่รัฐออมสะสมไว้ให้ไปใช้ได้  สำหรับผู้ที่อายุเกิน 60 ปี ก็สามารถซื้อได้  แต่ต้องถือครองเงินสะสมต่อเนื่อง 10 ปี ก่อนที่จะสามารถถอนเงินออกได้ 

ทั้งนี้ ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า ต่างบอกตรงกันว่าหากซื้อหวยเกษียณดังกล่าว นอกจากจะได้ลุ้นรางวัลแล้ว แม้จะไม่ถูกรางวัลเงินที่ซื้อสลากก็ยังสามารถเป็นเงินออมไว้ใช้ในยามเกษียณหรือสูงอายุได้ด้วย ถือเป็นโครงการที่ดีมาก

นางวิลัย รอบแคว้น และ น.ส.สวง วิโสรัมย์ แม่ค้าขายผักในตลาดสดเทศบาลนครบุรีรัมย์ กล่าวว่า หากกระทรวงการคลังออกหวยเกษียณต้นปี 68 จริง ถือเป็นโครงการที่ดีมากสำหรับประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อยแต่ชอบเสี่ยงโชค ก็สามารถซื้อได้ในราคาเพียง 50 บาท แต่ได้ลุ้นรางวัลถึง 1 ล้านบาท และแม้จะไม่ถูกรางวัลเงินที่ซื้อสลากก็ยังจะถูกเก็บเป็นเงินออมในบัญชี กอช. ของผู้ซื้อสลากฯ สามารถถอนใช้ตอนสูงอายุหรือยามเกษียณได้อีกด้วย   เพราะปกติก็ชอบเสี่ยงโชคอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาหากซื้อลอตเตอรี่ หรือหวยในรูปแบบต่างๆ ทั้งบนดินใต้ดิน เงินที่ซื้อก็สูญทิ้งไป แต่หวยเกษียณดังกล่าวหากไม่ถูกรางวัลยังออมไว้ใช้ได้อีก

แตกต่างจากบรรดาแม่ค้าขายลอตเตอรี่ในเขตเทศบาลนครบุรีรัมย์หลายราย ไม่เห็นด้วยที่รัฐจะออกหวยเกษียณ เพราะเชื่อว่าจะส่งผลกระทบกับคนขายลอตเตอรี่แน่นอน เพราะปกติก็ขายลำบาก สลากเหลือทุกงวดๆละ 200 – 300 ใบอยู่แล้ว หากสลากฯที่เหลือขายไม่หมดหากถูกรางวัลก็โชคดีไป แต่ส่วนใหญ่จะไม่ถูกรางวัลทำให้ขาดทุน โดยเฉพาะคนที่ไม่มีโควตาเป็นของตัวเองต้องรับซื้อต่อมาจากยี่ปั๊วในราคาใบละ 80 – 90 บาท ทำให้มีต้นทุนสูง แถมสลากยังขายไม่หมดอีก แต่ยังจำเป็นต้องขายเพราะหลายคนที่ขายก็อายุ 50 – 60 ปีแล้ว ก็ไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไร จึงต้องการให้รัฐบาลเห็นใจ

ทั้งนี้ ถ้าจะออกหวยเกษียณมาเพื่อช่วยประชาชนให้มีเงินออม ก็ต้องช่วยพ่อค้าแม่ค้าด้วยเช่น อาทิ สลากที่ขายไม่หมดรัฐหรือกองสลากฯ ควรจะรับซื้อคืนในราคา 10 – 20 บาทก็ได้ ส่วนคนที่ไม่มีโควตาเป็นของตัวเองก็ควรจะจัดสรรโควตาให้ด้วย เพราะที่ผ่านมาสมัครหลายรอบไม่เคยได้เลย พอไปซื้อต่อจากยี่ปั๊วก็แพงต้นทุนสูงขายได้กำไรใบละไม่กี่บาท งวดไหนเหลือเยอะก็ขาดทุน จึงอยากให้รัฐทบทวนหามาตรการช่วยเหลืออย่างเป็นธรรมด้วย ไม่ใช่ช่วยอีกฝ่ายแล้วกระทบอีกฝ่าย ///-005