วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ดับแล้ว12-เดือดร้อน6แสนหลัง 7จว.ใต้ท่วมหนัก ตั้ง213ศูนย์พักพิง/โรงครัว18จุด

ดับแล้ว12-เดือดร้อน6แสนหลัง 7จว.ใต้ท่วมหนัก ตั้ง213ศูนย์พักพิง/โรงครัว18จุด

วันจันทร์ ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag :
  •  

ดับแล้ว12-เดือดร้อน6แสนหลัง

7จว.ใต้ท่วมหนัก

ตั้ง213ศูนย์พักพิง/โรงครัว18จุด

สทนช.เตือนใต้รับมือพายุระลอก2

นายกฯสั่งจ่ายทันทีหลังละ9พัน

ชี้เดือดร้อนหนัก/ไม่ต้องประเมิน

ปภ.สรุปสถานการณ์น้ำท่วม7 จังหวัดภาคใต้ ปชช.เดือดร้อนกว่า6.1แสนครัวเรือน เสียชีวิตแล้ว 12 ศพสั่งระดมทรัพยากรเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มที่ พร้อมสั่ง 4 จว.เปิดศูนย์พักพิง 213 แห่ง-ตั้งโรงครัว 18 จุด ด้านมท.1 คาดถานการณ์น้ำท่วมใต้เริ่มคลี่คลาย หลังอุตุฯระบุปริมาณฝนลดลง เตรียมเสนอครม.อังคารนี้ของบกลางเยียวยาเหยื่อน้ำท่วม เผยนายกฯบอกไม่ต้องประเมินสั่งจ่ายทันทีหากพบความเสียหายควรให้ 9,000 บาท ชี้เหตุน้ำมากกว่าปกติถึง2เท่าและไม่ได้มาตามฤดูกาล“ภูมิธรรม”สั่งเกาะติดสถานการณ์รายชั่วโมง พร้อมส่งเรือกู้ภัย-รถยกสูง-เจ็ทสกี เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำลงพื้นที่เร็วที่สุด

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ว่า จากพยากรณ์อากาศชัดเจนว่า ปริมาณฝนน่าจะเริ่มลดลงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จึงเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะเริ่มคลี่คลาย


น้ำท่วมใต้เริ่มดีขึ้น-เร่งดันน้ำลงทะเล

นายอนุทินกล่าวต่อว่า อุทกภัยภาคใต้นั้นต่างจากภาคเหนือ เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนมากเพียงอย่างเดียว หากผลักดันน้ำลงสู่ทะเลได้ทุกอย่างก็จะดีขึ้น จากการติดตามความคืบหน้าจากผู้ว่าราชการจังหวัด พบว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ขณะที่การประเมินความเสียหาย ทั้งบ้านเรือนประชาชนและระบบสาธารณูปโภค ต้องรอให้น้ำลดลงก่อนถึงจะเข้าไปตรวจสอบได้ รวมทั้งเรื่องสุขภาพของประชาชน เพราะช่วงที่วิกฤตที่สุดก็คือหลังน้ำลด

มท.1สั่งจว.เปิดศูนย์พักพิงรองรับปชช.

นอกจากนี้ จังหวัดจัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งมีการอพยพประชาชนเข้ามาพักพิง ตนได้กำชับให้ดูแลชาวบ้านอย่างมีมาตรฐาน ทั้งเรื่องอาหารการกิน ที่นอนหมอนมุ้ง ตลอดจนสุขอนามัย สะอาดได้มาตรฐาน พร้อมทั้งอนุมัติเงินใช้ทดลองฉุกเฉินเพิ่มอีก 50 ล้านบาท ในจังหวัดเสี่ยงภัย รวมเป็นจังหวัดละ 70 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เหมาะสม เชื่อว่า สามารถดูแลประชาชนได้

ชงของบกลางเข้าครม.สัปดาห์นี้

ส่วนเงินเยียวยานั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) อยู่ระหว่างประสานกับจังหวัดที่ประสบภัย ซึ่งส่วนใหญ่ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยทั้งจังหวัดอยู่แล้ว จะทำให้สามารถดำเนินการได้เร็วมากยิ่งขึ้น เมื่อการสำรวจความเสียหายเข้าเกณฑ์ ก็จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) แล้วจะโอนเงินเข้าสู่บัญชีผู้ประสบภัยโดยตรง แบบเดียวกับการเยียวยาอุทกภัยที่ภาคเหนือ ก็พยายามจะเร่งเสนองบประมาณเข้าสู่ที่ประชุมครม. ให้ได้ในสัปดาห์นี้ เป็นการใช้งบกลางของนายกรัฐมนตรีจึงต้องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาข้อมูลก่อน

นายกฯสั่งเยียวยา9พันทันทีไม่ต้องประเมิน

“หลักเกณฑ์เยียวยา เป็นไปตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งปฏิบัติตามหลักเกณฑ์นี้มาตั้งแต่อุทกภัยในภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ ทางนายกฯสั่งการว่าความเดือดร้อนขนาดนี้ไม่ต้องประเมินความเสียหาย ควรใช้เกณฑ์สูงสุดครัวเรือนละ 9,000 บาท เนื่องจากปริมาณน้ำมากกว่าปกติถึง 2 เท่า และไม่ได้มาตามฤดูกาล น่าจะต้องใช้หลักเกณฑ์นี้ไปจนถึงสิ้นปี ก่อนที่ปีหน้าต้องสู้กับปัญหาหมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 และปัญหาภัยแล้งอีก” รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย กล่าว

7จว.ใต้จม-ดับ12-เดือดร้อน6.1แสนครัว

วันเดียวกัน กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)รายงานสถานการณ์อุทกภัยใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 78 อำเภอ 508 ตำบล 3,387 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 617,386 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 12 ราย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ เร่งช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

นครฯระดับน้ำคลองท่าดีเพิ่มขึ้น

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. - 1 ธันวาคม 67 ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด โดยจ.นครศรีธรรมราช เกิดน้ำท่วม 15 อำเภอ ได้แก่ อ.ชะอวด อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.พระพรหม อ.เมืองฯ อ.ร่อนพิบูลย์ อ.จุฬาภรณ์ อ.ปากพนัง อ.พรหมคีรี อ.นบพิตำ อ.หัวไทร อ.เชียรใหญ่ อ.พิปูน อ.สิชล อ.นาบอน และอ.บางขัน รวม 79 ตำบล 545 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 51,081 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองท่าดีมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น

พัทลุง น้ำท่วม 9 อำเภอได้แก่ อ.เมืองฯ อ.ควนขนุน อ.ปากพะยูน อ.บางแก้ว อ.ป่าพะยอม อ.ป่าบอน อ.ตะโหมด อ.กงหรา และอ.เขาชัยสน รวม 45 ตำบล 308 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 96,122 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาระดับลดลง สตูล น้ำท่วม 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนโดน อ.เมืองฯ อ.ท่าแพ อ.มะนัง และอ.ละงู รวม 10 ตำบล 43 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,604 ครัวเรือน ปัจจุบันแม่น้ำละงูระดับน้ำลดลง สงขลา น้ำท่วม 16 อำเภอ ได้แก่ อ.ระโนด อ.สะเดา อ.หาดใหญ่ อ.สิงหนคร อ.เทพา อ.บางกล่ำ อ.สะบ้าย้อย อ.นาทวี อ.จะนะ อ.รัตนภูมิ อ.เมืองฯ อ.นาหม่อม อ.กระแสสินธุ์ อ.ควนเนียง อ.คลองหอยโข่ง และอ.สทิงพระ รวม 123 ตำบล 910 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 186,858 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาระดับน้ำลดลง

ปัตตานี เกิดน้ำท่วม 12 อำเภอ ได้แก่ อ.มายอ อ.ทุ่งยางแดง อ.หนองจิก อ.แม่ลาน อ.ไม้แก่น อ.โคกโพธิ์ อ.ยะรัง อ.ยะหริ่ง อ.เมืองฯ อ.สายบุรี อ.กะพ้อ และอ.ปะนาเระ รวม 116 ตำบล 651 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 144,702 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันแม่น้ำปัตตานีระดับน้ำลดลง ยะลา เกิดน้ำท่วม 8 อำเภอ ได้แก่ อ.บันนังสตา อ.เมืองฯ อ.ยะหา อ.รามัน อ.กาบัง อ.เบตง อ.ธารโต และอ.กรงปินัง รวม 58 ตำบล 358 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 43,168 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันแม่น้ำสายบุรีระดับน้ำลดลง นราธิวาส เกิดน้ำท่วม 13 อำเภอ ได้แก่ อ.บาเจาะ อ.แว้ง อ.รือเสาะ อ.เจาะไอร้อง อ.สุคิริน อ.ยี่งอ อ.ระแงะ อ.ตากใบ อ.จะแนะ อ.ศรีสาคร อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงปาดี และอ.เมืองฯ รวม 77 ตำบล 572 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 92,851 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ปัจจุบันแม่น้ำสายบุรีระดับน้ำลดลง

ระดมจนท.-ชุดกู้ภัย-ตั้งศูนย์พักพิง213จุด

อธิบดี ปภ.กล่าวต่อว่า ปภ.ระดมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันละบรรเทาสาธารณภัย KA 32 จำนวน 1 ลำ พร้อมด้วย The Guardian Team ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อุทกภัย โดยตั้งศูนย์พักพิง/ จุดอพยพใน 4 จังหวัด ได้แก่สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวม 213 แห่ง และโรงครัว/รถประกอบอาหารในพื้นที่ประสบอุทกภัย 18 แห่ง นอกจากนี้ ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป

“ภูมิธรรม”สั่งเกาะติดน้ำท่วมใต้รายชั่วโมง

ขณะที่น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งระดมความช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้ โดยเฉพาะ 8 จังหวัด ยะลา ปัตตานี สงขลา นราธิวาส นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล ตรังเต็มกำลัง พร้อมสั่งการให้เกาะติดสถานการณ์เป็นรายชั่วโมง และสั่งการให้กระทรวงกลาโหม กรมเจ้าท่า จัดหา รถยกสูง เรือรูปแบบต่างๆพร้อมเจ็ตสกี เข้าพื้นที่เพื่อเคลื่อนย้ายประชาชนไปยังจุดปลอดภัย และสั่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำ พร้อมนำถุงยังชีพ อาหารแห้งแจกจ่ายประชาชน รวมถึงให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค งดการระบายน้ำของเขื่อนบางลาง ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำ สำหรับถนนที่เสียหาย กระทรวงคมนาคมสำรวจความเสียหาย และแก้ไขให้รถสัญจรได้ รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางรถไฟที่อาจได้รับผลกระทบจากดินถล่ม

“รัฐบาลให้ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้อย่างเต็มกำลังความสามารถ และให้กรมบัญชีกลางอนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการให้ 6 จังหวัด ที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเพิ่มเติมจังหวัดละ 50 ล้านบาท จาก 20 ล้านบาท รวมเป็น 70 ล้านบาท เป็นงบประมาณในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด สำหรับใช้ช่วยเหลือประชาชนเร็วที่สุด” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว

นายกฯลงช่วยภาคใต้สัปดาห์หน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นดราม่าในโซเชียลที่ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ลงพื้นที่แก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดภาคใต้ เบื้องต้น น.ส.แพทองธารเตรียมลงพื้นที่สั่งการ การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย เร่งรัดการเยียวยา และฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้สัปดาห์หน้า โดยจะเป็นพื้นที่ จ.สงขลา และปัตตานี นอกจากนี้ นายกฯยังสั่งการนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ให้ประสานหน่วยงานเร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะจุดที่ขาดแคลนเครื่องมือ ได้ประสานกระทรวงกลาโหม ให้ทหารเข้าช่วยเหลือประชาชน และเร่งรัดขั้นตอนเยียวยา

เทพไทให้นายกฯสอบตก-เมินน้ำท่วมใต้

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรืออุ๊งอิ๊งค์สอบตก และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ต หลังมีการเผยแพร่ภาพของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดเชียงใหม่ นำครอบครัวช้อปปิ้ง และท่องเที่ยวอย่างสุขสบายใจ ทั้งที่สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้หนักหนาสาหัส ชาวเน็ตบอกควรพิจารณาเรื่องการประชุม เช่นย้ายสถานที่ หรือยกเลิกประชุมเพื่อลงพื้นที่ดูแลประชาชนให้ทันท่วงที แต่กลับปล่อยให้กำหนดการดำเนินต่อไป ทำให้ถูกมองว่า ไม่ใส่ใจในปัญหาอุทกภัยใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ ยังมีคนวิจารณ์เพิ่มขึ้นอีก เมื่อมีภาพนางสาวแพทองธาร พาสามีและลูกๆ ติดตามไปร่วมบรรยากาศ ครม.สัญจร และชอปปิ้งในบูทที่จัดไว้ต้อนรับรัฐมนตรี และคณะด้วย หลังจากการประชุม ครม.สัญจรเสร็จแล้ว ยังพาครอบครัวสามีและลูกๆเที่ยวชมสวนสัตว์ ชมสวนดอกไม้แลนด์มาร์กใหม่ แบบชิลๆอย่างมีความสุข สร้างภาพครอบครัวอบอุ่นจริงๆ

C-130ขนสิ่งของ-ถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัย

อีกด้านหนึ่ง นาวาอากาศเอก นเรศ เยี่ยมสถาน ผู้บังคับการกองบิน 56 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 56 ให้การสนับสนุนยานพาหนะ เจ้าหน้าที่และกำลังพล เร่งลำเลียงสิ่งของและถุงยังชีพลงจากเครื่องบิน C-130 เดินทางมาจากดอนเมืองนำไปช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ที่ลานจอดอากาศยานฝูงบิน 561 กองบิน 56โดยมอบหมายให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบิน 56 นำเจ้าหน้าที่และกำลังพลจิตอาสา 23 นาย และรถบรรทุกขนาดใหญ่ 1 คัน ออกช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบถุงยังชีพและน้ำดื่ม ในต.ท่าช้าง อำเภอบางกล่ำ และตำบลคลองหลา อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา นอกจากนี้ ยังช่วยขนย้ายสิ่งของไปที่ปลอดภัย ในพื้นที่ชุมชนหาดใหญ่ใน อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมีผู้นำชุมชนท้องถิ่นในเขตพื้นที่ดังกล่าวร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบโรคในครั้งนี้ด้วย

ปัตตานียังจมเทศบาลเมืองน้ำสูง2ม.

ทางด้านสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้ยังน่าเป็นห่วง ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจ.ปัตตานีว่า น้ำจากจ.ยะลา และนรธิวาส ไหลลงแม่น้ำปัตตานีต่อเนื่องก่อนไหลลงทะเล ทำให้หลายพื้นที่ในจ.ปัตตานียังเกิดน้ำท่วมสูง แม้ว่าน้ำทะเลไม่หนุน ระดับน้ำลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ยังน่าเป็นห่วง ขณะที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานีที่ถูกน้ำท่วมหนักที่สุดคือ ต.จะบังติกอ อ.เมืองปัตตานี โดยชุมชนวังเก่า บริเวณถนนหลังวังมี 300 กว่าครัวเรือน ได้รับผลกระทบน้ำท่วมสูง 80-1 เมตร บางจุดสูง 2 เมตร ต้องใช้เรือสัญจรเข้าออกชุมชน ความเป็นอยู่ยากลำบาก ส่วนบ้านเรือนที่มีเพียงชั้นเดียวต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว คือโรงเรียนเทศบาล 1

เช่นเดียวกับชุมชนริมคลอง ต.จะบังติกอ อ.เมืองปัตตานี ซึ่งติดกับริมแม่น้ำปัตตานี มีประชาชนอยู่อาศัยกว่า 300 ครัวเรือนได้รับผลกระทบน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร ชาวบ้านต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เพราะน้ำไหลเชี่ยว ไม่สามารถใช้เรือสัญจรเข้าออกชุมชนได้ ซึ่งทั้งสองชุมชน ถือเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในเขตเทศบาลเมือง ประชาชนต้องการข้าวสารอาหารน้ำดื่มมากที่สุด

เตือนยะลา-ปัตตานีเขื่อนปล่อยน้ำเพิ่ม

วันเดียวกัน เขื่อนบางลาง จ.ยะลา ออกประกาศระบุ คณะทำงานบริหารจัดการน้ำเขื่อนบางลาง มีมติเห็นควรให้เพิ่มการระบายน้ำผ่านช่วงทางปกติ และประตูระบายน้ำเพื่อชลประทาน เนื่องจากปัจจุบันระดับน้ำเขื่อนเพิ่มสูงต่อเนื่อง อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงสูง และอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเขื่อนและเสถียรภาพด้านพลังงาน จึงเห็นควรระบายน้ำแบบขั้นบันได โดยวันที่ 1 ธันวาคม เวลา 01.00 น. 6 ล้าน ลบ.ม.ต่อครึ่งวัน (138.89 ลบ.ม./วินาที) วันที่ 1 ธันวาคม เวลา 12.00 น. 7 ล้าน ลบ.ม.ต่อครึ่งวัน (162.04 ลบ.ม./วินาที)และวันที่ 2 ธันวาคม เวลา 00.00 น. 16 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน (185.18 ลบ.ม./วินาที) ทั้งนี้ เขื่อนบางลางจะปล่อยน้ำตามประกาศ ซึ่งมีผลให้ระดับน้ำในหลายพื้นที่ของ จ.ยะลา และปัตตานี เพิ่มสูงขึ้น

ทุกภาคเช้าอากาศเย็นถึงหนาว-ใต้ฝนลด

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากจีนที่ปกคลุมถึงภาคใต้ตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น มีหมอกตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณช่องแคบมะละกา ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับคลื่นลมอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิสูงขึ้น1-2องศา/ใต้ฝน40-60%

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยรายภาค โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพฯปริมณฑล อากาศเย็นมีหมอกตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส ส่วนภาคใต้ ฝั่งตะวันออก ตอนบนของภาค อากาศเย็น มีหมอกตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ขณะที่ภาคใต้ ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 มีฝนตกหนักบริเวณจ.กระบี่ ตรัง และสตูล ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สะเก็ดล้านนา : 13 สิงหาคม 2568 สะเก็ดล้านนา : 13 สิงหาคม 2568
  • โคราชจัดพิธีทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระพันปีหลวง โคราชจัดพิธีทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระพันปีหลวง
  • เร่งส่งทหารพรานเหยียบกับระเบิดรักษา รพ.สุรินทร์ บาดเจ็บสาหัสที่ขาซ้ายอย่างรุนแรง เร่งส่งทหารพรานเหยียบกับระเบิดรักษา รพ.สุรินทร์ บาดเจ็บสาหัสที่ขาซ้ายอย่างรุนแรง
  • \'มงคลกิตติ์\'แจกข้าวสาร-ไข่ไก่ เนื่องในวันแม่ที่พิษณุโลก อุทิศส่วนกุศลให้มารดาและญาติผู้ล่วงลับ 'มงคลกิตติ์'แจกข้าวสาร-ไข่ไก่ เนื่องในวันแม่ที่พิษณุโลก อุทิศส่วนกุศลให้มารดาและญาติผู้ล่วงลับ
  • พลเมืองดีช่วยหญิงสาวเมาจมน้ำทะเลพัทยารอดตายหวุดหวิด พลเมืองดีช่วยหญิงสาวเมาจมน้ำทะเลพัทยารอดตายหวุดหวิด
  • เศร้า!\'สมหญิง\'ดาวตลกขวัญใจชุมชนตัดสินใจจบชีวิตหลังเผชิญภาวะเครียดสะสม-ปัญหาหนี้สิน เศร้า!'สมหญิง'ดาวตลกขวัญใจชุมชนตัดสินใจจบชีวิตหลังเผชิญภาวะเครียดสะสม-ปัญหาหนี้สิน
  •  

Breaking News

(คลิป) 'ฮุนเซน-ทักษิณ'ตราบาป! 'ไทย-กัมพูชา'

(คลิป) 'เจ๊ปอง'เปิดที่มา'ป้ามาลี' จากนักร้องสู่ยศพลโท

TMAC สรุป 11 วัน! กู้วัตถุระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชาใน 4 จังหวัด 483 รายการ

ระทึก! เครื่องบินเล็กตกกระแทกรันเวย์ ก่อนไถลพุ่งชนเครื่องบินหลายลำไฟลุกท่วม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved