รพ.บุรีรัมย์เตรียมส่งศพทารกที่ไหปลาร้าหัก ติดเชื้อเสียชีวิตจากการทำคลอดผ่าชันสูตร รพ.ตำรวจหลังญาติคาใจ แม่ช็อกทำใจไม่ได้ พร้อมเผยสุดเศร้าชาติหน้ามีจริงขอให้ลูกเกิดมาแข็งแรงอย่าพบเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก รพ.นัดตั้งโต๊ะชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิต 9 ธ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.อารีย์ยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ซึ่งตั้งครรภ์ท้องแรกไปคลอดที่ รพ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.67 หลังจากคลอดเด็กมีอาการตัวเหลืองและหัวใจเต้นผิดปกติ หมอจึงให้อยู่ในตู้อบที่ รพ. ส่วนแม่อนุญาตให้กลับบ้าน แต่ให้แม่มาให้นมลูกที่ รพ.ตลอด ต่อมาวันที่ 2 ธ.ค.67 หมอแจ้งว่าลูกไหปลาร้าข้างขวาหัก  สร้างความงุนงงให้กับพ่อและแม่ เพราะหลังคลอดลูกอยู่ รพ.ตลอด จากนั้นวันที่ 3 ธ.ค.67 หมอแจ้งอีกว่าลูกติดเชื้อขั้นรุนแรง ถ่ายเป็นเลือด ก็ยิ่งสร้างความคาใจให้กับครอบครัวมากขึ้น

ต่อมาวันที่ 4 ธ.ค.67 ทาง รพ.ได้ชี้แจงกับญาติถึงสาเหตุที่ทารกไหปลาร้าหักว่า เกิดจากการใช้เครื่องมือช่วยทำคลอด เนื่องจากปากมดลูกเปิดไม่สุดและเด็กตัวใหญ่ไม่สามารถคลอดเองได้ ทาง รพ.จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องมือช่วยดูดเด็กออก

จากนั้นวันที่ 6 ธ.ค.67 ทาง รพ.ได้แจ้งให้พ่อแม่และครอบครัวมาฟังอาการของทารกน้อย ซึ่งรักษาอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤตอีกครั้ง ซึ่งหมอแจ้งว่าน้องมีอาการไตวาย ปัสสาวะไม่ออก หัวใจเต้นช้าลงโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก และเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันเดียวกัน ก็ไร้ปาฏิหาริย์ทารกเคราะห์ร้ายได้เสียชีวิตแล้วในวัยเพียง 14 วันเท่านั้นสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับพ่อแม่และครอบครัวเป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันนี้ (7 ธ.ค.67) ทีมข่าวได้เดินทางไปยัง รพ.อีกครั้งทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายร่างไร้วิญญาณของทารกน้อย ออกจากห้องผู้ป่วยวิกฤตไปไว้ในห้องเย็นที่อาคารพักศพแล้ว เพื่อรอส่งไปตรวจชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เนื่องจากญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และในวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค.67 ทาง รพ.บุรีรัมย์ก็ได้นัดตั้งโต๊ะชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิตของทารกให้ทางครอบครัวรับทราบ

ขณะที่ น.ส.อารีญา แม่ของทารกเคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตซึ่งยังรักษาตัวด้วยอาการติดเชื้อจากการเย็บแผลทางช่องคลอดที่อาคารแม่และเด็กก็พูดกับทีมข่าวว่าทั้งตนและสามีไม่มีใครทำใจได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่กล้าไปดูแม้ร่างที่ไร้วิญญาณของลูกสาวเพราะรับไม่ได้และเสียใจมากจนพูดไม่ออก ส่วนตัวคาใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกมากโดยเฉพาะที่ลูกติดเชื้อในกระแสเลือดจนทำให้เสียชีวิตทั้งที่คลอดออกมาสัปดาห์แรกแข็งแรงดีเพิ่งจะมาแจ้งว่าติดเชื้อวันที่ 3 ธ.ค. ส่วนเรื่องการส่งศพไปชันสูตร รวมถึงการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูก ตนให้ย่าเป็นคนตัดสินใจเพราะตัวเองยังต้องรักษาตัวที่ รพ.

น.ส.อารีญา ยังพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอว่า หากชาติหน้ามีจริงขอให้ลูกเกิดมาสมบูรณ์แข็งแรงอย่าได้เจอเหตุการณ์แบบนี้อีกเลย