วันพฤหัสบดี ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'หัวหน้ากลุ่มเพื่อแพทย์'ยื่นฟ้อง'แพทยสภา' ปมออกกฎเกณฑ์-แถลงข่าวเกินอำนาจกรณีการใช้สเต็มเซลล์

'หัวหน้ากลุ่มเพื่อแพทย์'ยื่นฟ้อง'แพทยสภา' ปมออกกฎเกณฑ์-แถลงข่าวเกินอำนาจกรณีการใช้สเต็มเซลล์

วันอังคาร ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 19.02 น.
Tag : แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทยสภา แพทย์หญิงอรพรรณ์เมธาดิลกกุล สเต็มเซลล์ หัวหน้ากลุ่มเพื่อแพทย์
  •  

วันที่ 23 ธันวาคม 2567 พญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมายการแพทย์ กรมการแพทย์ ปัจจุบันเป็นหัวหน้ากลุ่มแพทย์ชื่อกลุ่มเพื่อแพทย์ ลงสมัครกรรมการแพทยสภา เพื่อแก้ไขกฎที่บีบคั้นแพทย์ซึ่งออกโดยกรรมการแพทยสภาชุดปัจจุบัน ได้รับเรื่องร้องทุกข์ของแพทย์จากการกระทำของกรรมการแพทยสภาชุดปัจจุบัน ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยมีแพทยสภาและกรรมการแพทยสภาชุดปัจจุบัน รวม 5 ราย เป็นผู้ถูกฟ้องคดี โดยฟ้องว่าผู้ถูกฟ้องได้กระทำการออกกฎเกณฑ์และแถลงข่าวในประเด็นเกี่ยวกับการใช้สเต็มเซลล์เกินอำนาจที่กฎหมายกำหนด ซึ่งส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของแพทย์และวงการแพทย์ในประเทศไทยรวมและทำให้ผู้ป่วยที่รักษาด้วยสเต็มเซลล์เดือดร้อน

พญ.อรพรรณ์ ระบุว่า แพทยสภา คณะกรรมการแพทยสภา และกรรมการบางส่วนได้ออกกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สเต็มเซลล์ โดยไม่ได้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 รวมถึงกรรมการที่เข้าไปโดยการเลือกตั้งของแพทย์บางคน ได้แถลงข่าวหรือกล่าวในลักษณะที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า แพทย์ของไทยที่ให้การรักษาด้วยสเต็มเซลล์เป็นการหลอกลวง ส่งผลต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นต่อแพทย์ และทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์หรือยาชีววัตถุต้องเดือดร้อนเนื่องจากแพทยสภาได้กล่าวในลักษณะว่าการรักษาผู้ป่วยด้วยสเต็มเซลล์กรณีโรคอื่นนอกจากโรคทางเลือดและดวงตาที่แพทยสภาอ้างว่ารับรองแล้ว ถือเป็นความผิด ทำให้แพทย์ไม่กล้าที่จะรักษาผู้ป่วยที่ใช้สเต็มเซลล์ต่อไปได้


หนึ่งในเหตุการณ์ที่ถูกหยิบยกขึ้นคือ การแถลงข่าวเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สเต็มเซลล์ในลักษณะที่อ้างว่า “ประเทศไทยติดอันดับหลอกลวงผู้ป่วยด้วยการใช้ สเต็มเซลล์เถื่อน” และระบุว่า การรักษาด้วยสเต็มเซลล์ในโรคที่ไม่ได้รับรองการจากแพทยสภาอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อแพทย์ที่ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพในการรักษาผู้ป่วย

พญ.อรพรรณ์ ชี้ว่า การแถลงข่าวและการออกกฎดังกล่าว ทำให้ภาพลักษณ์ของแพทย์ที่ใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาผู้ป่วยถูกมองในแง่ลบ และเป็นการออกกฎในลักษณะขัดขวางการเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อการรักษาผู้ป่วยด้วยสเต็มเซลล์  โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับประโยชน์จากการรักษา เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับและมะเร็งต่อมลูกหมากที่ได้รับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์มายาวนานกว่า 15 ปี ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในอนาคตอันเกี่ยวข้องถึงชีวิตและสุขภาพได้

พญ.อรพรรณ์ ขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนกฎเกณฑ์และประกาศที่ออกโดยแพทยสภาจำนวน 3 ฉบับ รวมถึงสั่งให้กรรมการแพทยสภาได้แก้ไขการแถลงข่าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อแพทย์และวงการแพทย์ และต่อผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยาชีววัตถุสเต็มเซลล์ พร้อมทั้งยืนยันว่าการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้าเกินขอบเขตอำนาจและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลมีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยให้กฎและประกาศดังกล่าวไม่ใช้บังคับกับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ อันจะทำให้การรักษาดังกล่าวดำเนินการต่อไป และให้เยียวยาโดยสั่งให้กรรมการผู้กระทำการกล่าวต้องขอเพิกถอนข้อความเรื่องการใช้สเต็มเซลล์ของแพทย์ไทยนั้นเป็นการลวงโลก

คดีนี้นับเป็นประเด็นสำคัญที่สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างและการใช้อำนาจในองค์กรวิชาชีพทางการแพทย์ อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อการรักษาและมาตรฐานทางการแพทย์ในประเทศไทย และกระทบถึงสุขภาพและชีวิตของผู้ป่วยและประชาชนไทยอีกด้วย

โดย พญ.อรพรรณ์ แถลงเพิ่มเติมว่า ด้วยกรรมการแพทยสภาชุดปัจจุบันได้ออกกฎที่ทำให้แพทย์เดือดร้อนโดยทำเกินจากที่กฎหมายให้อำนาจหลายเรื่องรวมเรื่องสเต็มเซลล์นี้ ซึ่ง พญ.อรพรรณ์ และคณะแพทย์ในกลุ่ม 34 คน ของทีมเพื่อแพทย์ (34-53 และ 175-188) ตั้งใจเข้าไปทำมติแก้ไขกฎเกณฑ์เหล่านั้น จึงขอให้แพทย์ทั้งประเทศได้ใช้สิทธิลงคะแนน เพื่อเปลี่ยนกรรมการแพทยสภาชุดปัจจุบันออก และส่งทีม 34 คนในกลุ่มเพื่อแพทย์ เข้าไปทำมติเพิกถอนเกณฑ์ที่ไม่ชอบเหล่านั้น ในเวลานี้ ถึง 14 มกราคม 2568 ด้วย สำหรับคดีที่ฟ้องนี้ต้องใช้เวลาอีกนาน เกรงจะเกิดความเสียหายต่อการประกอบวิชาชีพแพทย์ และผู้ป่วย อันยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘จริยธรรม’อยู่สูงกว่ากฎหมาย ทุกคนต้องยึดมั่น ไม่ใช่เฉพาะแพทย์ ‘จริยธรรม’อยู่สูงกว่ากฎหมาย ทุกคนต้องยึดมั่น ไม่ใช่เฉพาะแพทย์
  • \'สบส.-อย.-แพทยสภา-ภาคเอกชน\'หนุน ATMPs สร้างเศรษฐกิจสุขภาพยั่งยืน พร้อมดันไทยตั้งเป้าเป็น\'ศูนย์กลางการแพทย์สมัยใหม่\' 'สบส.-อย.-แพทยสภา-ภาคเอกชน'หนุน ATMPs สร้างเศรษฐกิจสุขภาพยั่งยืน พร้อมดันไทยตั้งเป้าเป็น'ศูนย์กลางการแพทย์สมัยใหม่'
  •  

Breaking News

'วิษณุ'กางข้อกฎหมาย ยัน'แพทองธาร'เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณได้

ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้อาคารเรียนเก่าจ.บุรีรัมย์ วอดเสียหายทั้งหลัง

แนวหน้าวิเคราะห์ : ภัยออนไลน์แยบยลดูด 14 ล้าน แค่’เปิดกล้อง-ยืนหน้ากระจก’

5 เงื่อนไข'ครม.อิ๊งค์2' 'รัฐบาลลิงแก้แห'ตกอยู่ในวังวนไปมาไม่จบสิ้น

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved