31 ธันวาคม 2567 เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.อ.นิรันดร์ สวัสดิ์ศรี รอง สว.(สอบสวน)สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บภายในร้านทองตั้งไท้เฮง เลขที่ 2061-2063 ถนนนครเขื่อนขันธ์ ต.ตลาด อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจได้ที่อาสาสมัครมูลนิธิลูกกตัญญู เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น เพิ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายทองรูปพรรณ พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย นายศิริชัย อายุ 58 ปี เจ้าของร้านทอง ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่ต้นขาซ้ายจำนวน 1 แผล เลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเร่งให้การช่วยเหลือห้ามเลือด เพราะภายในร้านที่พื้นคราบเลือดกระจายเต็มพื้นที่ โดยพบผู้บาดเจ็บบริเวณเคาน์เตอร์ด้านในของร้านนอนอยู่กับพื้น จากนั้นทางอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้ประสานขอรถกู้ชีพโรงพยาบาลบางจาก มาช่วยเหลือและเร่งนำส่งโรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการโดยทันที แล้วที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีคล้ายอาวุธปืนจำนวน 1 กระบอกตกอยู่ประตูทางเข้าภายในร้าน

จากการสอบถามเบื้องต้นขอทราบว่ามีผู้ก่อเหตุเป็นชาย 1 รายเข้ามาแกล้งซื้อทองสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น แล้วลองสวมพยายามจะวิ่งหนีออกจากร้าน ทางด้านนาย ศิริชัย จึงวิ่งไล่จับและได้ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว  พ่อวิ่งออกไปบริเวณหน้าร้าน ก็มีพลเมืองดี 2 คน ที่ผ่านทางมา 1 คน และพ่อค้าขายกางเกงบริเวณหน้าร้านทอง เห็นเหตุการณ์จึงช่วยกันจับตัวผู้ก่อเหตุ แต่พลเมืองดีที่เข้ามาช่วยถูกอาวุธมีดแทงที่หัวไหล่ข้างซ้ายจำนวน 1 แผล และจากนั้นผู้ก่อเหตุได้วิ่งไปและโบกรถแท็กซี่เพื่อหลบหนีไปทางถนนนครเขื่อนขันธ์มุ่งหน้าสามแยกพระประแดง เลี้ยวซ้ายไปอำเภอพระสมุทรเจดีย์ แต่ถูกเจ้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านตรวจขันการจราจร สามารถจับกุมไว้ได้บริเวณสะพานลอย หน้าโรงพยาบาลบางปะกอก 3 

ทราบชื่อผู้ก่อเหตุนาย ณัฐกิตดิ์ อายุ 24 ปี พร้อมของกลาง อาวุธมีดจำนวน 2 เล่ม สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาทจำนวน 1 เส้น และผู้ก่อเหตุมีบาดแผลที่ศีรษะแตกกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นแทนที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมของกลางมาที่ สภ.พระประแดง

จากการสอบถามผู้ก่อเหตุเบื้องต้น ตนบ้านพักอยู่แถวถนนพระราม 3 เมื่อก่อนเคยทำงานเป็นพนักงานส่งพัสดุ มาพักหลังตกงาน และไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้อง ยังได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ yamaha รุ่น grand filano สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ออกมาจากบ้านพักแล้วมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุประมาณ 11.00 น เห็นร้านทองร้านนี้เป็นผู้สูงอายุ จึงจอดรถจักรยานยนต์ไว้หน้าร้านกุญแจคาไว้ที่รถ และเข้าไปก่อเหต ส่วน นาย มงคล บุญทอง อายุ 45 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกแทงที่หัวไหล่ข้างซ้าย พลเมืองดีที่ได้ช่วยจับคนร้าย แล้วไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์

ร ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุออกจากตั้งแต่ 10 โมง ขับรถมาแถวที่เกิดเหตุ ก็เห็นร้านทองเปิดอยู่ และคนที่เฝ้าในร้านเป็นคนแก่ จึงได้ทำทีเป็นเข้าไปดูทองน้ำหนัก 2 บาท หลังจากเอามาใส่ที่คอและเตรียมจะวิ่งหนี ทางเจ้าของร้านไหวตัวทัน จึงได้ล็อกประตูร้าน ตนจึงออกไม่ได้ ด้านเจ้าของร้านเข้ามาล็อคคอไม่ให้ตนหลบหนี ตอนจึงได้ขัดขืด จังหวะรอคอจนหายใจไม่ออก จึงได้หยิบอาวุธที่เตรียมมาแทงที่เจ้าของร้านจำไม่ได้ว่าแทงไปกี่ครั้ง และรีบไปเปิดประตูร้านเพื่อหลบหนี จากนั้นจึงได้หลบหนีออกมาหน้าร้าน ถูกพลเมืองดี เข้ามาล็อกตัว แต่สามารถหลบหนีได้ จึงได้วิ่งขึ้นแท็กซี่หลบหนีไปทางพระสมุทรเจดีย์ แต่ไปเจอ กับตำรวจตั้งด่านอยู่ จึงได้ลงรถแล้ววิ่งขึ้นสะพานลอยไปฝั่งโรงพยาบาลบางกอก 3 จึงถูกรวบตัวได้ ส่วนอาวุธปืนที่พกมาเป็นปืนปลอม ไม่สามารถใช้งานได้ สาเหตุที่ทำไปก็เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน 

นายสำเร็จ อายุ 47 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองเห็นผู้ก่อเหตุออกมาจากร้านทองและรู้ว่าเค้ามาปล้นร้านทองตนเองจึงกระโดดคว้าตัวผู้ก่อเหตุและยื้อต่อสู้กันตนเองจึงได้ตีเขาไปจากนั้นผู้ก่อเหตุจึงได้นำมีดพับที่ซื้อทั่วไปตามท้องตลาดหลังจากนั้นตนเองจึงกระโดดหลบเพราะผู้ก่อเหตุได้ใช้มีดจ้วงแทง แต่ขณะเกิดเหตุตนเองไม่เห็นเหตุการณ์เพราะกำลังขายของอยู่ซื้ออีกทีก็คนร้ายก่อเหตุเรียบร้อยแล้ว โดยตนเองได้ยินเสียงเจ้าของร้านตะโกนออกมาว่ามันปล้นเจ๊มันปล้นเจ๊ ตนเองถึงรู้ว่าเค้ามาปล้นและเค้ากำลังจะกระโดดขึ้นรถจักรยานยนต์ที่นำมาใช้ก่อเหตุพอดีแต่ตนเองได้ยันรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุจนล้มคว่ำไป จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงหนีโดยขึ้นรถแท็กซี่ไป

พลตำรวจตรี วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า มีเหตุชิงทรัพย์ปล้นร้านทองตั้งไท้เฮง ในตลาดพระประแดง หลังจากเกิดเหตุก็สามารถรวบตัวผู้ต้องหาและของกลางได้ โดยพฤติการณ์คร่าวคร่าวๆคนร้ายได้มาคนเดียว โดยใช้รถจักรยานยนต์ทำทีเข้ามาขอซื้อทอง สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทและจากนั้นได้ขอลองสวมที่คอจากนั้นคนร้ายได้วิ่งหนีออกจากร้านเจ้าของร้านจึงได้ทำการล็อกประตูไฟฟ้า ทำให้คนไล่ออกไม่ได้ จากนั้นเจ้าของร้านซึ่งอายุ 62 ปีได้ต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันภายในร้านคนร้ายจริงใช้มีดที่พกมาแทง เจ้าของร้านทำให้ได้รับบาดเจ็บ

หลังจากนั้นคนร้ายจึงไปกดเปิดสวิตช์ประตูไฟฟ้าและหนีออกมา ขณะเดียวกันได้มีพลเมืองดีที่อยู่หน้าร้านจำนวนสองคนได้ช่วยกันล็อคตัวผู้ต้องหาไว้แต่ หนีออกไปได้ทำให้คนร้ายหลบหนีไปโดยนั่งยานพาหนะแท็กซี่หลบหนี และมีพลเมืองดีได้แจ้งเหตุว่ามีการปล้นร้านทองหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้ง ก็ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจสกัดกวดขันวินัยจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่พอดี และคนร้ายได้หลบหนีไปพบจุดตรวจสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถแท็กซี่ที่คนร้ายนั่งมาด้วย จึงเรียกให้หยุดตรวจแต่คนร้ายสามารถวิ่งหนีไปได้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถตามรวบตัวไว้ได้ทันซึ่งในคดีนี้ต้องขอขอบคุณพลเมืองดี เป็นอย่างมากตนเองขอขอบคุณด้วยใจจริง ถ้าไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานยากหากคนร้ายหลบหนีไปได้ เนื่องจากรถที่นำมาก่อเหตุก็ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

โดยได้รับแจ้งว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งรายเดี๋ยวกระผมก็จะไปเยี่ยมและให้กำลังใจด้วย ซึ่งตนเองจะมอบประกาศเกียรติคุณและขอขอบคุณพลเมืองดี ซึ่งถือว่ามีความกล้าหาญมากและต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจของเราที่มีความพร้อมในการปฎิบัติหน้าที่อยู่ตลอด

ตนเองอยากจะฝากถึงผู้ประกอบการร้านทอง หรือเจ้าของทรัพย์สินต่างๆว่าอะไรที่ป้องกันได้ก็ป้องกันตัวแต่พอดีถ้าหากเสี่ยงมากก็อย่าเอาชีวิตของตนเองไปเสี่ยงให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสาเหตุที่สามารถรวบตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็วมันมีองค์ประกอบหลายอย่างด้วยคือหนึ่งมันเป็นพื้นที่ของในตลาดและมีคนพลุกพล่าน โดยมีพี่ประชาชน ที่เห็นเหตุการณ์ก็ออกมาช่วยกันตนเองต้องยอมรับในความกล้าหาญของพลเมืองดีและความมีน้ำใจยอมรับและนับถือมาก ซึ่งตำรวจของประชาชนก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งคนร้ายได้สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท โดยคนร้ายได้ทุกอาวุธปืนปลอมมาด้วย อันนี้คนร้ายอยู่ที่โรงพักสถานีตำรวจ สภ. พระประแดงและตนเองกำลังจะไปสอบถามเพิ่มเติมต่อไป