น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ร่วมกับศูนย์สร้างสรรค์สื่อเพื่อเด็กและเยาวชน และเครือข่ายโรงเรียนนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยง (บุหรี่ไฟฟ้า) 20 โรง ใน 10 จังหวัดภาคใต้ จัดเวที “โตไปไม่สูบ”เวทีโชว์ แชร์ เด็กใต้สร้างสื่อนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยงบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อสร้างความตระหนักรู้อันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ไม่ตกเป็นเหยื่อนักสูบหน้าใหม่ เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นมหันตภัยร้ายต่อเด็กและเยาวชน
โดยจากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ภาคใต้มีอัตราการสูบบุหรี่สูงที่สุดทุกรอบการสำรวจ โดยปี 2564 อยู่ที่ 22.4%สูงกว่าอัตราสูบทั้งประเทศ 17.4% สอดคล้องกับสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้า โดยสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการกรุงเทพมหานคร สำรวจเยาวชน 40,164 คนทั่วประเทศ เมื่อเดือนพ.ค. 2567 พบกลุ่มเด็ก เยาวชน สูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึง 18.6%
โดยมีความเข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้เลิกบุหรี่มวนได้ 61.23% และบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน 50.2% สะท้อนว่าเยาวชนยังขาดความรู้และความเข้าใจผลกระทบจากการสูบบุหรี่ที่ถูกต้อง เพราะบุหรี่ไฟฟ้ามีสารเสพติดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งระบบหายใจ ระบบหลอดเลือดสมอง ระบบประสาทและสมองและอื่นๆ สสส. จึงต้องเร่งสร้างความตระหนักรู้ให้เด็ก เยาวชน ไม่ตกเป็นเหยื่อนักสูบหน้าใหม่
นายชัยวุฒ บุตรแหล่ ผู้จัดการโครงการป้องกันเด็กไทยไม่ตกเป็นเหยื่อบุหรี่ไฟฟ้า PROTECTNEW GEN เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ได้จัดคาราวานบ่มเพาะคนรุ่นใหม่เพื่อปลุกไอเดียไม่ตกเป็นเหยื่อบุหรี่ไฟฟ้า 23 พื้นที่ โดยมีกลุ่มเด็กและเยาวชน เข้าร่วม 2,343 คน และได้ร่วมสนับสนุนโรงเรียนเครือข่ายโรงเรียนนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยง (บุหรี่ไฟฟ้า) 20 โรง
โดยได้จัดให้มีการนำเสนอผลงานและถอดบทเรียน เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เมื่อวันที่ 19-20 ธ.ค. 2567 ที่โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจัด 1.เวที Showcase นำเสนอผลงานเด่นสื่อสารลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ 2. Walk rally ผ่านการจัดนิทรรศการ 3.World Café แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และต่อยอดความรู้ นวัตกรรมลดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อค้นหา Best Practice และสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังลดปัจจัยเลี่ยง
นายฮาริส มาศชาย ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์สื่อเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า โตไปไม่สูบ เป็นแคมเปญที่เครือข่ายโรงเรียนนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยง (บุหรี่ไฟฟ้า) ได้ช่วยกันออกแบบกระบวนการสร้างกิจกรรมรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยงบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษาโดยมีบอร์ดเกม โตไปไม่สูบ พัฒนาโดยกลุ่มไอเกลอนิสิต มหาวิทยาลัยทักษิณ นำมาใช้รณรงค์เพื่อปกป้องเด็กไทยจากภัยอันตรายบุหรี่ไฟฟ้าตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเยาวชนให้เกิดการรวมกลุ่มการเล่นอิสระ
และมีพื้นที่ในการพูดคุยสะท้อนปัญหา และหาทางออกจากภัยบุหรี่ไฟฟ้า ได้นำไปใช้กับกลุ่มเยาวชนกว่า 2,000 คน พบว่า บอร์ดเกมช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ให้รู้เท่าทันภัยบุหรี่ไฟฟ้า ช่วยฝึกเข้าสังคม สื่อสารกับผู้อื่น ซึ่งถือเป็นทักษะที่สำคัญต่อเยาวชน ในการฝึกการปฏิเสธไม่เอาบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และส่งเสริมการกำหนดเป้าหมายและแรงจูงใจ ฝึกการควบคุมอารมณ์และความเครียดเมื่อถูกกดดันจากตัวเกมหรือผู้เล่นคนอื่น และมีส่วนช่วยดึงให้เยาวชนลดการติดจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ หันมามีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้อื่นมากขึ้น
ผศ.ดร.พรไทย ศิริสาธิตกิจ มหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าวว่า เวทีโชว์ แชร์ เด็กใต้สร้างสื่อนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยงบุหรี่ไฟฟ้า มีความน่าสนใจในหลายมิติ โดยเฉพาะแกนนำเยาวชน นอกจากมีภูมิคุ้มกันที่ดีแล้ว ยังสามารถสร้างภาวะผู้นำทางความคิดให้เกิดการต่อยอดและขยายผลกับกลุ่มเพื่อนได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงกลุ่มพี่เลี้ยงครูที่สร้างระบบในการร่วมจัดการจัดการความรู้ ร่วมสร้างนวัตกรรมต้นแบบลดปัจจัยเสี่ยงของบุหรี่ไฟฟ้า และขยายผลไปยังห้องเรียนได้อย่างน่าสนใจรวมถึงกลไกของโรงเรียนที่นำไปสู่นโยบาย ทำให้การทำงานในทุกระดับของเครือข่ายโรงเรียนนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยง(บุหรี่ไฟฟ้า) ทั้ง 20 โรงเรียน ที่กระจายถึงเด็กมากกว่า 15,000 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี