หนุ่มทาสยาบ้าโดดลงน้ำโขงหนีการจับกุมว่ายน้ำหนีหวังข้ามไปฝั่งลาว แต่หมดแรงหวิดจมน้ำดับ ตชด.ที่ซุ่มดักจับกุมรีบนำเรือชาวบ้านไปช่วยได้ทัน คุมตัวมาสอบสวน เจ้าตัวสารภาพรุ่นพี่ให้เสพฟรีจนเชื่องก่อนสั่งให้ไปขนยานรก พ่วงยาเสียสาวที่ริมแม่น้ำโขง ก่อนจ๊ะเอ๋ตำรวจโดดน้ำโขงหวังหลบหนี แต่ไปไม่รอด

วันที่ 8 มกราคม 2568 ที่หน้ากองร้อยเฉพาะกิจ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ร้อย ตชด.237) ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พ.อ.อิทธิพล นนลือชา รองผู้อำนวยการส่วนอำนวยการ หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (รอง ผอ.ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี นายปรีชา สอิ้งทอง นายอำเภอท่าอุเทน พ.ต.อ.แสวง คนคล่อง ผกก.สภ.ท่าอุเทน น.อ.แมนรัตน์ บุญสวัสดิ์ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (ผบ.นรข.เขตฯ) พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู รอง ผกก.ตชด.23 พร้อมด้วย พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผบ.ร้อย ตชด.237 แถลงข่าวการจับผู้ต้องหา 1 ราย และของกลางยาบ้า จำนวน 120 มัด ตรวจนับได้ประมาณ 240,000 เม็ด แฮปปี้วอเตอร์ ตรา Royal D จำนวน 17 ซอง บริเวณริมแม่น้ำโขง บ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันเดียวกัน

โดย ร.ต.อ.จรณ์ แก้วคำแสน หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว ตชด.237 เปิดเผยว่า ปัญหายาเสพติดที่เข้ามาระบาดอยู่ในราชอาณาจักร ทำให้ลูกหลาน เยาวชน ตกเป็นทาสยาเสพติดเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งก็เป็นคนที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำโขง เนื่องจากยาบ้ามีราคาถูกกว่าในท้องตลาด เยาวชนจึงหลงผิดเข้าไปในวังวนยานรก บางคนถึงขั้นป่วยเป็นจิตเวชเสียอนาคต ชาวบ้านเห็นถึงพิษภัยยาบ้า จึงหันมาให้ความร่วมมือกับทางการเพิ่มมากขึ้น ทำให้การตรวจยึดจับกุมยาเสพติดริมลำน้ำโขง มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ครั้งนี้ก็เช่นกันชาวบ้านได้ชี้เบาะแสว่า จะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงพื้นที่บ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงประสานหน่วยงานความมั่นคง จัดกำลังเฝ้าตรวจจุดล่อแหลม จนเวลาผ่านเที่ยงคืนเพียงไม่กี่นาที พบเรือกีบติดเครื่องยนต์ท้าย ซึ่งเป็นเรือหาปลาท้องถิ่นคนลุ่มน้ำโขง  แล่นมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีชายสองคนนั่งมาในเรือ เข้าเทียบท่ายังฝั่งไทย จากนั้นทั้งสองคนก็ได้โยนวัตถุบางอย่าง ลักษณะคล้ายกระสอบขึ้นมาบนฝั่ง แล้วเบนหัวเรือเร่งเครื่องออกไปทันที

ไม่นานมีชายวัยรุ่นคนหนึ่งเดินลงมาจากริมตลิ่ง ตรงไปยังกระสอบต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงออกจากที่ซุ่มแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ชายผู้ต้องสงสัยวิ่งโดดลงน้ำพยายามจะว่ายหนี  เจ้าหน้าที่จึงรีบนำเรือพายของชาวบ้านที่จอดอยู่บริเวณนั้น พายเข้าไปหาชายวัยรุ่นดังกล่าว ซึ่งหากปล่อยให้ว่ายน้ำหนี มีโอกาสหมดแรงจมน้ำเสียชีวิตได้ และก็เป็นจริงตามคาดวัยรุ่นชายเริ่มมีอาการอ่อนล้า รีบคว้าไม้พายตะกายแตะขอบเรือยอมให้จับแต่โดยดี ทราบต่อมาว่าชื่อนายตะวัน บำรุงอินทร์ หรือวัน อายุ 22 ปี เป็นชาวบ้านยางนกเหาะนั่นเอง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวน พร้อมของกลางในกระสอบเป็นยาบ้า 240,000 เม็ด และยากล่อมประสาท หรือยาเสียสาวยี่ห้อแฮปปี้วอเตอร์ ตรา Royal D จำนวน 17 ซอง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายตะวันหรือวันให้ปากคำว่า พ่อแม่ไปทำงานที่ กทม. จึงอยู่บ้านเพียงลำพัง และได้รู้จักกับเพื่อนรุ่นพี่ชื่อนายยูรอายุประมาณ 30 ปีเศษ ชวนให้ลองเสพยาบ้า พอลองแล้วรู้สึกติดใจ จึงขอยาจากนายยูรเสพอยู่เรื่อยๆ ซึ่งตอนหลังนายยูรไม่ยอมให้ฟรีแล้ว แต่จะขายให้เม็ดละ 50 บาท ตนจึงไปทำงานรับจ้างได้เงินมาก็ไปซื้อยาบ้าจากนายยูรเสพครั้งละ 2 เม็ด 100 บาท

ก่อนถูกจับเวลาประมาณสามทุ่ม วันที่ 7 มกราคม นายยูรเดินมาหาที่บ้าน บอกว่าอยากเสพยาบ้าฟรีไหม ถ้าอยากเสพคืนนี้รอจะเอามาให้เสพ กระทั่งเวลาประมาณห้าทุ่มนายยูรก็เอายาบ้ามาให้ตนเสพ 1 เม็ด จากนั้นก็บอกให้เดินไปหยิบของที่อยู่ริมแม่น้ำโขง ถ้าได้มาแล้วจะให้ทั้งยาและเงิน ตนยอมรับว่าของที่ว่าคือยาเสพติดแน่นอน แต่อยากได้ยาบ้าเสพแถมเงินด้วย จึงยอมทำตามคำสั่งของนายยูร ไม่รู้ว่ามีเจ้าหน้าที่ซุ่มจับกุมอยู่ในป่าหญ้า และตกใจไม่รู้จะวิ่งหนีไปทางไหน นอกจากโดดลงน้ำโขง ตั้งใจจะว่ายไปยังฝั่งตรงข้ามคือ สปป.ลาว แต่เกิดหมดแรงเสียก่อน โชคดีเจ้าหน้าที่พายเรือเข้ามาช่วยชีวิต ไม่เช่นนั้นคงกลายเป็นผีเฝ้าแม่น้ำโขงแล้ว

ทางด้าน พ.อ.อิทธิพล นนลือชา รอง ผอ.ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24 กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล กองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ 2 สสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มีนโยบายเร่งด่วนในการป้องกัน ปราบปราม การลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศตามแนวชายแดนทั่วประเทศ โดยสืบสวนหาข่าว ลาดตระเวนช่องทางต่างๆ และตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามจุดเสี่ยง ซึ่งผลการปฏิบัติในครั้งนี้ ก็เป็นการทำงานร่วมกับภาคประชาชนในพื้นที่ และหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ทำให้สามารถจับกุม ตรวจยึดยาเสพติดปริมาณมาก ซึ่งก็จะได้เพิ่มการเฝ้าระวังบริเวณแนวชายแดน รวมทั้งพื้นที่เสี่ยงอย่างเข็มแข็งต่อไป

ทั้งนี้ ยา Happy Water หรือยาเสียสาว กำลังแพร่ระบาดในโลกโซเชียล มีการอ้างสรรพคุณมากมายว่าช่วยให้ผ่อนคลาย แก้เครียด นอนหลับ กระตุ้นพลังงาน แต่ความเป็นจริงคือ Happy Water มีสารสังเคราะห์ อาทิ ยาเค ยาอี ยาบ้า ยาไอซ์ ทาร์มาดอน ฯลฯ มีความเป็นอันตรายจนหมดสติ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ายาเสียสาว ทั้งส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ อาจนำไปสู่ภาวะช็อตและเสียชีวิตได้ โดยนิยมกันในสถานบันเทิง กลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง เพราะราคาซองละประมาณ 1,500 บาท ลักษณะเป็นผงจะผสมอยู่ในเครื่องดื่ม โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ในการมอมยา หรือ ล่วงละเมิดทางเพศ