ทบ.แจง ปม ญาติ 11 ทหารเกณฑ์ถูกแจ้งข้อหา ทำร้ายผู้อื่นเสียชีวิตในค่าย ร้องขอความเป็นธรรม
 
วันที่ 15 มกราคม 2568 จากกรณีที่มีญาติและครอบครัวของทหารกองประจำการกว่า 10 คน เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมที่ สภ.ระยอง ซึ่งพลทหารดังกล่าวเป็นจำเลยในคดีร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิตเหตุเกิดในค่ายทหาร จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา

กองทัพบกขอชี้แจงในกรณีดังกล่าวดังนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 67 เกิดเหตุครูฝึกและครูผู้ช่วยทำร้ายร่างกาย พลทหาร วรปรัชญ์ฯ สังกัด หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ซึ่งหน่วยฝึกได้มีการส่งเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี และส่งต่อไป รพ.พระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งผู้ป่วยเสียชีวิตในวันที่ 2 ส.ค.67 จากนั้นหน่วยต้นสังกัดได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยใน วันที่ 24 มิ.ย.67 ซึ่งผลการสอบสวนมีผู้กระทำความผิดจำนวน 13 คน และหน่วยได้มีการลงทัณฑ์ทางวินัยทั้งผู้ที่กระทำผิดและผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น ในฐานะที่บกพร่องในการกำกับดูแล รวมถึงได้มีการช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตโดยได้เข้าพบผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตตั้งแต่เกิดเรื่องพร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมในการรักษาพยาบาลตลอดจนสนับสนุน ค่าจัดงานศพ และอำนวยความสะดวกในการดำเนินคดีอาญาแก่ผู้กระทำความผิดจนถึงที่สุด   

สำหรับเรื่องคดีความ ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.67 จากการสอบสวนพยานบุคคลและการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่ามีผู้ต้องสงสัยในการกระทำผิดเป็นพลทหาร 11 นาย และนายสิบ 2 นาย การกระทำของจำเลยทั้ง 13 คน เข้าลักษณะเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันกระทำทรมานโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ และ ร่วมกันกระทำการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ 

โดยในระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี ก็ได้มีการยื่นคำร้องฝากขัง และต่อมาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 จ.ระยอง ได้มีการรับฟ้องเมื่อวันที่ 31 ต.ค.67 และสอบคำให้การจำเลยทั้ง 13 คน เมื่อวันที่ 13 ม.ค.68 ซึ่งศาลมีคำสั่งนัดตรวจพยานหลักฐาน
ครั้งต่อไปในวันที่ 6 มี.ค.68 

ทั้งนี้ในเหตุการณ์ดังกล่าวคณะกรรมาธิการทหารได้ให้ความสนใจและได้มีการเข้าตรวจสอบความคืบหน้าในคดีเมื่อวันที่ 27 ส.ค.67 ซึ่งกองทัพบกได้ให้ข้อมูลพร้อมชี้แจงกระบวนการในการดำเนินการแก้ไขปัญหาและความคืบหน้าในการดำเนินคดีความ โดยคณะกรรมาธิการทหารได้มีมติ ห้ามไม่ให้กำลังพลของหน่วยทหารเข้าเกี่ยวข้องในคดี รวมทั้งให้ดูแลความปลอดภัยให้กับพยาน และญาติของผู้เสียชีวิต 

ทั้งนี้กองทัพบกได้มีการแต่งตั้งนายทหารจากหน่วยต้นสังกัดติดตามและอำนวยความสะดวกด้านคดีความอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกแก่ญาติของผู้เสียหาย โดยขอยืนยันว่าปัจจุบันกระบวนการทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใส ถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรม