วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ปปง.เพิกถอน 29 ล้าน คดี'ดิไอคอน' โชว์ยึดทรัพย์คดีดัง-พนันออนไลน์กว่า 7 พันล้านบาท

ปปง.เพิกถอน 29 ล้าน คดี'ดิไอคอน' โชว์ยึดทรัพย์คดีดัง-พนันออนไลน์กว่า 7 พันล้านบาท

วันพฤหัสบดี ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2568, 16.28 น.
Tag : พนันออนไลน์ ยึดทรัพย์คดีดัง ดิไอคอน
  •  

ปปง. แถลงผลยึดทรัพย์สินช่วงธ.ค.67- ม.ค.68 ในคดียาเสพติด , ทนายตั้มและภรรยา บ.ดิไอคอนกรุ๊ป ฉ้อโกงฯ และการพนันออน ไลน์ รวมมูลค่ากว่า 7,197 ล้านบาท

วันที่ 23 มกราคม 2568 นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ซึ่งมีนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เป็นกรรมการ และเลขานุการ ในช่วงเดือนธันวาคม2567- เดือนมกราคม  2568 โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด การฉ้อโกงประชาชน การฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ การพนันออนไลน์ และมาตรการเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาบัญชีม้า ซึ่งสรุปผลการดำเนินการได้ ดังนี้


1. ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ดำเนินการกับทรัพย์สินจำนวน 15 รายคดี รวมมูลค่ากว่า 510 ล้าน บาท แบ่งเป็นการยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 8 รายคดี รวมมูลค่ากว่า 507 ล้านบาท และดำเนินการส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 7 รายคดี รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท                   

โดยมีรายคดีที่น่าสนใจ คือ

รายคดี นางสาวสุรีวรรณฯ กับพวก ซึ่งผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์มีพฤติการณ์โอนและรับโอนเงินเชื่อมโยงกับความผิดมูลฐานในคดีอื่นหลายคดี และเป็นเครือข่ายการฟอกเงินรายสำคัญ โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 125 รายการ เป็นเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 505 ล้านบาท (คำสั่ง ย.249/2567)

2. ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ดำเนินการกับทรัพย์สินจำนวน 15 รายคดี รวมมูลค่ากว่า 6,529 ล้านบาท โดยมีการดำเนินการที่น่าสนใจ คือ

2.1 การยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 5 รายคดี รวมมูลค่ากว่า 329 ล้านบาท โดยมีรายคดี   ที่น่าสนใจ ดังนี้

รายคดี นายษิทราฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน โดยมีเหตุที่อันควรเชื่อได้ว่ามีการโอน ยักย้าย ปกปิดหรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 3 รายการ เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 71 ล้านบาท (คำสั่ง ย.243/2567)

รายคดี นางสาวเจียนฯ กับพวก (สัญชาติจีน) คณะกรรมการธุรกรรมเคยมีคำสั่ง ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้ว 59 รายการ มูลค่าประมาณ 27 ล้านบาท (ย.168/2567) และจากการสืบสวนขยายผลพบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม ในการนี้คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 7 รายการ (ห้องชุด และบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 78 ล้านบาท (คำสั่ง ย.241/2567)

รายคดีนางสาวเดือนนภาฯ กับพวก คณะกรรมการธุรกรรมเคยมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้วรวม 118 รายการ มูลค่าประมาณ 574 ล้านบาท (ย.254/2566, ย.94/2567) และจากการสืบสวนขยายผลพบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม ในการนี้คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่ง  ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 4 รายการ (ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง) รวมมูลค่าประมาณ 95 ล้านบาท (คำสั่ง ย.250/2567)

รายคดี นายภานุวัชรฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด  จำนวน 22 รายการ (ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 81 ล้านบาท (คำสั่ง ย.244/2567)

2.2 ดำเนินการส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดินจำนวน 2 รายคดี รวมมูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท โดยมีข้อมูลการดำเนินการกับทรัพย์สิน  ที่น่าสนใจ ดังนี้

รายคดี บริษัทดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้พนักงานอัยการยื่นคำร้อง ขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ตามคำสั่งที่ ย.214/2567, ย. 222/2567, ย.223/2567, ย.224/2567 และ ย.225/2567 รวมจำนวน 103 รายการ มูลค่าประมาณ 286 ล้านบาท และมีมติให้เพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์สินจำนวน 40 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 29 ล้านบาท เนื่องจากผู้มีส่วนได้เสียสามารถแสดงหลักฐานว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกดำเนินการไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด

รายคดี นายสฤษฎ์ฯ กับพวก กรณีเกี่ยวเนื่องกับบริษัทเหลียนเชิง จำกัด คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องของให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 130 รายการ (คำสั่ง ย. 193/2567) ซึ่งมีทรัพย์สินที่เป็นโครงการก่อสร้างหมู่บ้านขนาดใหญ่ รวมมูลค่าประมาณ 2,552 ล้าน

ทั้งนี้ ในส่วนของการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในคดีที่มีผู้เสียหายฯ สำนักงาน ปปง. ได้ประกาศกำหนดให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องฯ ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา  จากนั้น สำนักงาน ปปง. จะตรวจสอบและรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายและจำนวนความเสียหายเพื่อพิจารณาก่อนส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ  ยื่นคำร้องขอต่อศาลแพ่งให้มีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนให้กับผู้เสียหายตามสัดส่วนความเสียหายแทนการสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป โดยผู้เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากเว็บไชต์    สำนักงานปปง.(www.amlo.go.th)

2.3 ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย)  จำนวน 8 รายคดี รวมมูลค่ากว่า 3,400 ล้านบาท โดยมีข้อมูลการดำเนินการกับทรัพย์สินที่น่าสนใจ ดังนี้

รายคดี นางสาวรัชญาฯ กับพวก คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (กรณีคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) ซึ่งเป็นการดำเนินการกับทรัพย์สิน จำนวน 303 รายการ (เช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ เงินสด สินค้าแบรนด์เนม และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท     (คำสั่ง ย. 142/2567)

รายคดี นายชนินทร์ฯ กับพวก (กรณีหุ้น STARK) ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และการยักยอกฯ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งการดำเนินการกับทรัพย์สินในกรณีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง โดยสำนักงาน ปปง. รวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้เสียหายเพื่อดำเนินการคุ้มครองสิทธิฯ เสร็จสิ้นแล้ว และคณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหายกว่า 3,900 ราย) ซึ่งเป็นการดำเนินการกับทรัพย์สิน จำนวน 50 รายการ (เช่น ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร  รวมมูลค่าประมาณ 3,244 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 222/2566 และ ย. 32/67)

3. ความผิดเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ดำเนินการกับทรัพย์สินจำนวน 10 รายคดี รวมมูลค่ากว่า 158 ล้านบาท แบ่งเป็นการยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 5 รายคดี รวมมูลค่ากว่า 104 ล้านบาท และดำเนินการส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 5 รายคดี รวมมูลค่ากว่า 54 ล้านบาท               

โดยมีรายคดีที่น่าสนใจ ดังนี้ -รายคดี www.sand168.com กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอ นิกส์ โดยจากการสืบสวนพบว่ามีการชักชวน ให้บุคคลทั่วไปเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว และจากการตรวจสอบพบข้อมูลการโอนและรับโอนเงินหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 742 รายการ เช่น เงินสด ทองรูปพรรณ วัตถุมงคล สินค้าแบรนด์เนม และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท (คำสั่ง ย.7/2568

รายคดี www.ufav8.info รายนายปรเมศวร์ฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 72 รายการ เช่น พระเครื่อง เครื่องประดับ สินค้าแบรนด์เนม รถยนต์ และอสังหาริม ทรัพย์ มูลค่าประมาณ 24 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 238/2567)

รายคดี นางสาวจันจิราฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์  และความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ฯ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติส่งเรื่อง  ให้พนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 164 รายการ (เช่น เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์) มูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท (ย.230/2567)

4. การประกาศรายชื่อบุคคลเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังเพื่อจำกัดช่องทางการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาบัญชีม้าและอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์

สำนักงาน ปปง. ได้ประกาศรายชื่อบุคคลเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังเพื่อจำกัดช่องทางการทำธุรกรรม  ทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว 72,031 รายชื่อ ส่งผลให้สามารถจำกัดช่องทางการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของบัญชีที่เกี่ยวข้อง 680,186 บัญชี สามารถป้องกันการนำบัญชีดังกล่าวไปใช้หลอกลวงหรือสร้างความเดือดร้อน แก่ประชาชนต่อไป ปัจจุบันมีเงินคงเหลือในบัญชีที่ถูกจำกัดช่องทาง การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์รวมทั้งสิ้น 2,036,534,545.29 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 22 มกราคม2568) 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'กัน จอมพลัง\' ร้องตรวจสอบ \'สป.สายไหม\' เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ 'กัน จอมพลัง' ร้องตรวจสอบ 'สป.สายไหม' เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์หรือไม่
  • ‘บอสมิน-บอสเเซม’ลุ้น  อสส.ชี้ขาดคดีดิไอคอน ‘บอสมิน-บอสเเซม’ลุ้น อสส.ชี้ขาดคดีดิไอคอน
  • เปิดเหตุผล! \'อธ.ดีเอสไอ\'ให้ฟ้อง\'บอสมิน-บอสเเซม\' คดีฉ้อโกงดิไอคอน เปิดเหตุผล! 'อธ.ดีเอสไอ'ให้ฟ้อง'บอสมิน-บอสเเซม' คดีฉ้อโกงดิไอคอน
  • ‘ดีเอสไอ’เห็นแย้ง‘อัยการ’ สั่งฟ้อง‘บอสแซม-บอสมิน’ ‘ดีเอสไอ’เห็นแย้ง‘อัยการ’ สั่งฟ้อง‘บอสแซม-บอสมิน’
  • ‘ดีเอสไอ’เห็นแย้งอัยการ เห็นควรสั่งฟ้อง‘บอสแซม-บอสมิน’คดีดิไอคอน ‘ดีเอสไอ’เห็นแย้งอัยการ เห็นควรสั่งฟ้อง‘บอสแซม-บอสมิน’คดีดิไอคอน
  • จัดหนัก!รัฐบาลสั่งปิดกั้นเว็บผิดกฎหมาย 6 เดือนแรกแสนกว่า URLs จัดหนัก!รัฐบาลสั่งปิดกั้นเว็บผิดกฎหมาย 6 เดือนแรกแสนกว่า URLs
  •  

Breaking News

แคชเมียร์ระอุ! 'ปากีสถาน'ยกระดับโจมตี ยิงถล่มเสียชีวิต 1 ราย

ละเมิดสิทธิเด็ก! ‘ยูเอ็น’ประณาม‘อิสราเอล’สั่งปิดโรงเรียนในเยรูซาเล็มตะวันออก อ้าง‘ฮามาส’แฝงตัว

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหารราชองครักษ์ในพระองค์ จำนวน 18 นาย

'แรปเปอร์มะกัน'ไม่จบ! เหยียดแรงยันห้องน้ำไทย ลั่นประเทศนี้ไร้ระบบบำบัดน้ำเสีย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved