รวบลูกทรพีเมาใช้ไม้ตีแม่ได้รับบาดเจ็บ เผยประวัติป่วยจิตเวช แต่ชอบแอบไปดื่มสุรา จนอาการจึงกำเริบ อาละวาดร้องตะโกนด่าทอไปตามถนนในหมู่บ้าน สร้างความเอือมระอาให้กับเพื่อนบ้านมาตลอด

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 รับแจ้งมีเหตุลูกชายเมาได้ทำร้ายแม่ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้านหนองแสง ต.หัวนา อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 สภ.เมืองหนองบัวลำภู นายวิเชียร แสงจันดา กำนันตำบลหัวนา และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ออกไประงับเหตุและควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายวิชาญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ใช้ท่อนไม้ฟาดแม่ เข้าที่บริเวณข้อเท้าด้านซ้าย เป็นแผลลึกมีเลือดออกจำนวนมาก   โดยนายวิชาญฯผู้ก่อเหตุได้บอกว่าตนไม่ได้เป็นคนตีแม่ แต่ว่าแม่ลื่นล้มไปโดนไม้เอง เจ้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนำส่งที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู ซึ่งนายวิชาญฯ เคยเป็นผู้ป่วยจิตเวช

สอบถามคุณแม่ทองอ่อน อายุ 74 ปี มารดาได้เล่าให้ฟังว่า  ตนเองกลับจากรับจ้างตัดอ้อย พอมาถึงที่บ้านจึงถามหาหลานซึ่งเป็นบุตรสาวของนายวิชาญฯ ว่ากลับมาจากโรงเรียนหรือยัง นายวิชาญฯมีอาการเมา จึงหันมาแล้วตะโกนด่าทอตนเอง ด้วยคำพูดที่หยาบคาย และวิ่งมาหาตนเองผลักตนเองล้ม และลากเข้ามาในบ้าน และหันไปคว้าท่อนไม้ที่อยู่ใกล้ๆ ฟาดเข้าที่บริเวณข้อเท้าด้านซ้ายเป็นแผลลึก พอตนเองล้มลงนายวิชาญฯ ได้เอาน้ำมาล้างคราบเลือดและพันแผลให้ตน โดยมีเพื่อนบ้านจะเข้ามาช่วยเหลือแต่นายวิชาญฯ ถือไม้และขู่ว่าไม่ให้ใครเข้ามาช่วย

โดยนายวิชาญ ลูกชายเคยมีประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวช สาเหตุเกิดจากเสพสารเสพติด กินยาของหมออยู่ทุกวัน และพึ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้ประมาณ 3 -4 วัน ส่วนครั้งนี้ลูกสาวของตนเองอีกคนนึ่ง ซึ่งเป็นพี่น้องกันกับนายวิชาญฯผู้ก่อเหตุ ไม่ยอมจะให้ดำเนินคดี เพราะครั้งที่แล้วก็ได้ทำร้ายร่างกายตนเอง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ได้เดินทางเข้าไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเมืองหนองบัวลำภูแล้ว โดยร้อยเวรฯบอกว่ายังไม่มีบาดแผลจึงให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน แต่พอในครั้งนี้มีบาดแผลที่บริเวณข้อเท้า ลูกสาวของตนเองจึงพาเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้ง และจะได้เรียกตนเองมาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง

ทางด้านนายวิเชียร แสงจันดา กำนันตำบลหัวนา ได้กล่าวว่า นายวิชาญก่อเหตุอยู่เป็นประจำ ตนเองได้รับแจ้งและออกมาระงับเหตุตลอด กินยาจิตเวชแต่แอบไปดื่มสุรา อาการจึงกำเริบ พอเมามาจะมีอาการหลอน อาละวาดร้องตะโกนด่าทอไปตามถนนในหมู่บ้าน สร้างความเอือมระอาให้กับเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน ด่าทอมารดา จึงอยากให้นำตัวไปบำบัดและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.