ผบ.ป.9 เผย อาการ จ.ส.ต.ชัยศิลป์ ตอบสนองพยักหน้าได้แล้ว ส่วนญาติเริ่มคลายความกังวล ด้าน ผวจ.กาญจน์ เผย พร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่

26 มกราคม 2568 ความคืบหน้ากรณี จ.ส.ต.ชัยศิลป์ รักชาติ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 19 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 9 ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสขณะปฏิบัติหน้าที่ร่วมพิธี ยิงสลุตด้วยปืนใหญ่เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหารราช โดย จ.ส.ต.ชัยศิลป์ ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน ก่อนที่จะส่งตัวไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ม.ค.68 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

พ.อ.ณัฐติพงษ์ ตะโกใหญ่ ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 9 (ผบ.ป.9) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนได้เดินทางเข้าเยี่ยมและติดตามอาการ จ.ส.ต.ชัยศิลป์ รักชาติ อย่างใกล้ชิด พร้อมพูดคุยให้กำลังใจครอบครัว และมอบกระเช้าให้กับญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ โดยได้จัดให้ พ.ต.วิรัช สิทธา เป็นนายทหารติดต่อประจำ อาคารผู้ป่วยฉุกเฉิน (สิริกิติ์) ชั้น 7 รพ.พระมงกุฎเกล้า กทม.

นอกจากนี้ตนและคณะ ยังได้เดินทางไปที่บ้านท่ามะเดื่อ ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อเข้าเยี่ยมญาติ และ ด.ช.ธิรินทร์  รักชาติ บุตรชายของ จ.ส.ต.ชัยศิลป์ รักชาติ ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ยิงสลุตฯ รวมถึงได้แจ้งรายละเอียดการดูแลรักษา การช่วยเหลือด้านต่างๆ ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน และแจ้งอาการล่าสุดให้กับญาติของ จ.ส.ต.ชัยศิลป์ ทราบ  เพื่อคลายความกังวลใจ พร้อมกับพูดคุยให้กำลังใจครอบครัว และยืนยันกับครอบครัวว่าหน่วยจะดูแลกำลังพลอย่างดีที่สุด ในการนี้ได้มอบเครื่องอุปโภค บริโภค นมผงสำหรับเด็ก และผ้าอ้อมสำเร็จรูป ให้กับญาติ และบุตรชายของ จ.ส.ต.ชัยศิลป์เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจด้วย

สำหรับความคืบหน้าอาการบาดเจ็บ ของ จ.ส.ต.ชัยศิลป์ รักชาติ วันที่ 26 ม.ค.68 ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะทำการถอดเครื่องช่วยหายใจออกให้ในคืนนี้ แต่ก่อนจะถอดต้องรอให้คณะแพทย์ผู้รักษาประเมินอาการอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนบริเวณใบหน้าได้ทาเจลเคลือบแผลไหม้เอาไว้ สีแผลที่เป็นชมพูเริ่มจางลงกลมกลืนกลับผิวหน้าแล้ว แผลบริเวณลำคอดีขึ้น สะเก็ดแผลลอกออกเป็นสีชมพู ส่วนการกินคณะแพทย์ยังให้อาหารทางสายยาง โดยไม่มีการให้เลือดอีกแล้ว อาการอื่นๆยังมีไอบ้างและมีเสมหะ อาการปวดแขนข้างที่ถูกตัดลดน้อยลงแผลมีสภาพดีขึ้นตามลำดับ

การรับฟังเริ่มตอบสนองได้ ด้วยการโต้ตอบแบบพยักหน้าและเปล่งเสียงได้แต่ยังไม่สามารถสื่อสารออกมาเป็นคำพูดได้ อาการทางสายตา สามารถลืมตามองเห็นเป็นภาพได้พอชัดเจน และไม่มีการเจ็บเคืองตา การเต้นของหัวใจปกติความดันอยู่ที่144/70 การทำงานของไตดี ปัสสาวะสีไม่เข้ม การขับถ่าย ใช้วิธีสวนไปแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งวันนี้จะมีการให้ขับถ่ายอีก และไม่มีอาการท้องอืด นอนหลับได้ดี ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่าภาพรวม สภาพจิตใจและกำลังใจดีขึ้นมาก และได้แนะนำให้มีการขยับตัวบ่อยๆ ซึ่ง จ.ส.ต.ชัยศิลป์ ก็ปฏิบัติตามเป็นอย่างดี หลังจากที่ นางสนั่น รักชาติ มารดา ของ จ.ส.ต.ชัยศิลป์ รวมถึงภรรยาและครอบครัว ทราบถึงอาการ ต่างก็รู้สึกมีความกังวลใจลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

ด้านนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตลอดเวลาหลังเกิดเหตุ จังหวัดกาญจนบุรีรวมถึงหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนชาวกาญจนบุรี มีความห่วงใยอาการของทหารที่ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมาก ผมจึงได้มอบหมายให้ นางสาวกิตติยา จึงรุ่งเจริญกิจ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกาญจนบุรี/นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี

เป็นตัวแทนเดินทางเข้าเยี่ยม จ.ส.ต.ชัยศิลป์  รักชาติ ที่รักษาตัวอยู่อาคารผู้ป่วยฉุกเฉิน ตึกสิริกิติ์ ชั้น 7 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร พร้อมกับมอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งให้ห้กับมารดาและภรรยาเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในเบื้องต้น ซึ่งหลังจากทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าอาการของ จ.ส.ต.ชัยศัลป์ รักชาติ ดีขึ้นตามลำดับและสามารถตอบสนองได้แล้วจึงมีความรู้สึกดีใจและยินดีกับครอบครัวของ จ.ส.ต.ชัยศิลป์ เป็นอย่างมาก ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

.012